แผน100วันล้มระบอบอิหร่าน 2025
มาจากแผนระยะยาวที่ตั้งใจว่าวันหนึ่งจะต้องล้มระบอบอิหร่านให้จงได้ รัฐบาลทรัมป์มาแล้วก็ไปแต่ความตั้งใจล้มอิหร่านจะอยู่ต่อไป
‘แผน 100 วันสำหรับทรัมป์ 2.0 ต่ออิหร่าน’ หรือ
“A 100 Day Plan for the Incoming Trump Administration on Iran” นำเสนอโดย
United Against Nuclear Iran (UANI)
เป็นองค์กรภาคประชาชนที่เห็นว่าระบอบอิหร่านเป็นอันตราย
จำต้องล้มระบอบเปลี่ยนอิหร่านเป็นประชาธิปไตย
‘แผน
100 วันสำหรับทรัมป์ 2.0 ต่ออิหร่าน’ เป็นข้อเสนอแนะที่เปิดเผยต่อสาธารณะว่ารัฐบาลทรัมป์
2.0 ควรเล่นงานอิหร่านอย่างไรใน 100 วันแรกของการบริหารประเทศ
โดยใช้มาตรการทั้งการทูต ข้อมูลข่าวสาร การทหารและเศรษฐกิจ
ทั้งที่สหรัฐดำเนินการเองกับที่ร่วมมือกับพันธมิตร มีสาระสำคัญดังนี้
ประธานาธิบดีสหรัฐจะต้องพูดนโยบายต่ออิหร่านสม่ำเสมอ
และต้องพูดเพื่อสื่อถึงคนอิหร่านด้วย
ให้นานาชาติรับรู้ว่ารัฐบาลสหรัฐกำลังเล่นงานอิหร่านอย่างไร วางกรอบให้ทบวงการพลังงานปรมาณูระหว่างประเทศ
(IAEA) มีข้อสรุปว่าอิหร่านไม่ปฏิบัติตามสนธิสัญญาไม่แพร่ขยายอาวุธนิวเคลียร์
(NPT) เพื่อให้คณะมนตรีความมั่นคงมีมติลงโทษอิหร่าน
ให้อังกฤษ
ฝรั่งเศสและเยอรมนีเตรียมใช้ "Snapback sanctions mechanism" ที่เกี่ยวข้องกับ JCPOA กลไกนี้อนุญาตให้ประเทศภาคีสามารถนำมาตรการคว่ำบาตรที่เคยยกเลิกไปแล้ว
กลับมาบังคับใช้อีกครั้งโดยอัตโนมัติหากอิหร่านละเมิดข้อตกลง
สร้างแนวร่วมต่อต้านอิหร่าน
ทั้งจากประเด็นนิวเคลียร์ โดรน การแพร่ขยายขีปนาวุธ แสดงพฤติกรรมก้าวร้าว
สนับสนุนก่อการร้าย จับตัวประกัน ละเมิดสิทธิมนุษยชนและคอร์รัปชัน
คราวนี้จำต้องมีแนวร่วมใหม่
จำกัดการเดินทางของเจ้าหน้าที่อิหร่าน
ไม่ให้วีซ่า ออกมาตรการคว่ำบาตรรายบุคคล รวมทั้งต่อผู้นำอิหร่านด้วย ตีตราว่ากองกำลังพิทักษ์ปฏิวัติอิสลามของอิหร่าน
(Islamic Revolutionary Guard Corps: IRGC) เป็นผู้ก่อการร้าย
ทำลายเครือข่ายอิหร่านตามที่ต่างๆ ให้หมด
ตีตราว่ากลุ่มฮูตี
(Houthis) เป็นผู้ก่อการร้ายเพราะขัดขวางเส้นทางเดินเรือสากล
จับยึดเรือที่แล่นผ่านไปมาในทะเลแดง
ประการที่
2 ข้อมูลข่าวสาร
ใช้ปฏิบัติการจิตวิทยา
(Psychological Operations: PSYOP) บ่อนทำลายรัฐบาลกับกองทัพอิหร่าน
สร้างกำลังใจแก่ฝ่ายประชาธิปไตยในอิหร่าน
ให้ชาวอิหร่านรับข้อมูลข่าวสารจากตะวันตกมากขึ้น เช่น จากจานดาวเทียม
Starlink ต่อต้านการให้ข้อมูลข่าวสารจากรัฐบาลอิหร่าน
คว่ำบาตรคนอิหร่านที่ต่อต้านให้ร้ายประชาธิปไตยตะวันตก ใช้สื่อโซเชียลมีเดียเพื่อให้ชาวอิหร่านได้รับข้อมูลจากฝั่งตะวันตก
ให้รับรู้ความฉ้อฉลของพวกผู้นำ การกดขี่ปราบปรามฝ่ายตรงข้าม
ประการที่
3 การทหาร
ประธานาธิบดีทรัมป์จะต้องประกาศอย่างชัดเจนว่าพร้อมใช้กำลังทหารกับอิหร่าน
โดยเฉพาะต่อโครงการนิวเคลียร์ อิหร่านจะต้องไม่เสริมสมรถนะนิวเคลียร์
(zero enrichment) เช่น เสริมสมรถนะแร่ยูเรเนียมอันจะนำสู่การสร้างอาวุธนิวเคลียร์
สหรัฐจะโจมตีอิหร่านกับพวกหากทำร้ายชาวอเมริกัน
รัฐบาลสหรัฐจะส่งมอบเครื่องกระสุน
ระเบิดทันสมัยแก่อิสราเอลต่อเนื่อง เช่น GBU-57 ที่สามารถทำลายเป้าหมายโครงสร้างนิวเคลียร์ที่ปกป้องหนาแน่น อนุญาตให้ใช้เครื่องบินทิ้งระเบิดทางยุทธศาสตร์
B-2 ที่ติดตั้ง GBU-57 อนุญาตให้ใช้เครื่องบินเติมเชื้อเพลิงกลางอากาศ
KC-46A
วิเคราะห์:
เรื่องนี้น่าจะหมายถึงอิสราเอลจะเป็นผู้ลงมือโดยใช้ GBU-57
ที่ติดตั้งกับเครื่องบิน B-2 ทำลายโครงการนิวเคลียร์ การที่รัฐบาลสหรัฐไม่ลงมือด้วยตัวเองช่วยให้การทำลายโครงการนิวเคลียร์อิหร่านเป็นไปได้มากขึ้น
อีกทั้งรัฐบาลสหรัฐมีแนวโน้มที่จะไม่ลงมือด้วยตัวเอง
สงครามยูเครนเป็นตัวอย่างที่ดี
เป้าโจมตีอื่นๆ
คือ IRGC กองกำลังคุดส์ (Quds Force) กองกำลังติดอาวุธที่อิหร่านหนุนหลังซึ่งอาจเป็นชาวอิหร่านหรือต่างชาติ
สังหารผู้นำกองทัพอิหร่านรวมทั้งผู้นำฮูตี อย่างที่เคยทำกับนายพล Qasem
Soleimani เมื่อปี 2020
ทำลายโครงข่ายไซเบอร์ซึ่งจะลดขีดความสามารถกองทัพอิหร่าน
และเป็นการสนับสนุนฝ่ายประชาธิปไตยอิหร่านไปในตัว
พยายามชักชวนให้คนในกองทัพแปรพักตร์
มุ่งเป้าให้นายทหารหรือหน่วยสำคัญแปรพักตร์
ขายอาวุธแก่ชาติอาหรับมากขึ้นเพื่อป้องปราม
(deterrent) การโจมตีจากอิหร่าน
ประการที่
3 ด้านเศรษฐกิจ
เริ่มด้วยการคว่ำบาตรทางการเงิน
สกัดการฟอกเงิน ส่งเงินช่วยเหลือผู้ก่อการร้าย มีโครงการให้เงินชาวอิหร่านที่อยากแปรพักตร์
ช่วยเป็นสายสืบเพื่อบ่อนทำลาย ปิดธนาคารอิหร่านในต่างแดนโดยเฉพาะที่ยุโรป
ปัจจุบันยังมีหลายธนาคารที่ยังเปิดทำการ ยึดเงินอิหร่านที่อยู่ในต่างแดน
รวมทั้งทรัพย์สินของพวกเศรษฐีอิหร่าน นำเงินเหล่านี้สนับสนุนฝ่ายประชาธิปไตย
ให้เงินอุดหนุนชาวอิหร่านที่ต้องการประชาธิปไตย คว่ำบาตรการผลิตและการส่งออกน้ำมันอิหร่านเต็มกำลัง
ห้ามนานาชาติซื้อน้ำมันโดยเฉพาะจีน เตือนจีนว่าจะมีผลต่อความสัมพันธ์กับสหรัฐ
ผลักดันมาตรการคว่ำบาตรให้สัมฤทธิ์ผล เช่น สกัดการลักลอบส่งออกน้ำมัน
เล่นงานเรือขนส่งน้ำมันเหล่านั้น ขึ้นบัญชีดำกองเรือผีทั้งหมดของอิหร่าน
(เรือลักลอบถ่ายน้ำมัน) เพื่อตัดช่องทางรายได้หลัก ผลักดันขนส่งทางทะเลให้มีความโปร่งใส
เป็นอีกช่องทางสกัดการใช้เรืออิหร่าน การจดทะเบียนเรือภายใต้ธงชาติของประเทศใดประเทศหนึ่ง
(สกัดวิธีเลี่ยงของอิหร่าน) ผลักดันให้นานาชาติร่วมมือสกัดเรืออิหร่าน
ประณามบริษัทเดินเรือที่เกี่ยวข้องกับการทำผิด ผลักดันให้ท่าเรือต่างๆ
คุมเรือเข้าออกอย่างเข้มงวด ให้เงินใต้โต๊ะหรือรางวัลแก่กัปตันเรืออิหร่านที่จะปฏิเสธการขนส่งน้ำมัน
วิเคราะห์องค์รวมและสรุป:
‘แผน
100 วันสำหรับทรัมป์ 2.0 ต่ออิหร่าน’ หรือ “A 100 Day
Plan for the Incoming Trump Administration on Iran” ของ United
Against Nuclear Iran (UANI) ให้ข้อคิดสำคัญดังนี้
ประการแรก
สอดคล้องนโยบายสหรัฐ
UANI ชี้ว่าแผน 100 วันฯ เป็นแผนที่สอดคล้องนโยบายสหรัฐ
หลายข้อเป็นแนวทางที่รัฐบาลสหรัฐทำอยู่แล้ว การเสนอแผนฉบับปี 2025
เพื่อรวบรวมข้อเสนอแนะแก่ทรัมป์ 2.0 อาจเป็นการย้ำเตือน ชี้ว่าควรทำอะไรเพิ่ม
อะไรที่ยังทำไม่เต็มที่ เช่น ตีตราว่ากลุ่มฮูตี (Houthis) เป็นผู้ก่อการร้าย
รายละเอียดการสกัดน้ำมันอิหร่านที่ยังไม่สัมฤทธิ์ผล
ประการที่ 2 การล้มล้างรัฐบาลต่างชาติ
แผนของ
UANI ชี้ให้เห็นว่า การตั้งเป้าการล้มล้างรัฐบาลต่างชาติเป็นเรื่องที่ทำกัน
ถ้าเป็นนโยบายรัฐบาลส่วนใหญ่มักจะปกปิด
มีข้อมูลที่น่าสนใจว่าในสมัยสงครามเย็นทั้งรัฐบาลสหรัฐกับสหภาพโซเวียตต่างพยายามมีอิทธิพลต่อรัฐบาลประเทศต่างๆ
สนับสนุนพรรคการเมืองฝ่ายประชาธิปไตย ฝ่ายสังคมนิยมที่เป็นมิตรกับตน ในหลายประเทศพรรค
2 ขั้วขับเคี่ยวหนักเพราะมีอภิมหาอำนาจสนับสนุนทั้งเงินทอง อุดมการณ์ความคิด
ข้อมูลข่าวสาร บางกรณีถึงขั้นช่วยจัดตั้งกองกำลังติดอาวุธเพื่อยึดอำนาจ
ล้มล้างฝ่ายตรงข้าม เกิดจลาจลหรือสงครามกลางเมืองในหลายประเทศ
ทำให้ประเทศเหล่านี้ซึ่งส่วนใหญ่กำลังพัฒนาหรือด้อยพัฒนาได้รับความเสียหาย
สูญเสียโอกาสในการพัฒนา ประชาชนที่เคยเป็นมิตรกลายเป็นศัตรู เป็นก๊กเป็นเหล่า
ต่อสู้แข่งขันกันไม่รู้จบ
ในศตวรรษที่
21 นี้ปฏิบัติการล้มล้างรัฐบาลต่างชาติยังคงอยู่ ในกรณีอิหร่านสามารถย้อนหลังตั้งแต่การปฏิวัติอิหร่าน
(1977-79) หรือเกือบ 5 ทศวรรษแล้ว ศัตรูไม่ทิ้งเป้าหมาย
เป็นแผนระยะยาวที่ตั้งใจว่าวันหนึ่งจะต้องล้มระบอบอิหร่านให้จงได้ รัฐบาลทรัมป์มาแล้วก็ไปแต่ความตั้งใจล้มอิหร่านจะอยู่ต่อไป
เป็นตัวอย่างความสัมพันธ์ระหว่างประเทศที่เกิดขึ้นจริงและคงอยู่จนถึงทุกวันนี้
---------------
บรรณานุกรม :
1. United Against Nuclear Iran. (2025, January). A 100
Day Plan for the Incoming Trump Administration on Iran. Retrieved from
https://www.unitedagainstnucleariran.com/sites/default/files/UANI_100DayPlanTrumpAdmin_Jan2025.pdf