ทรัมป์จะเป็นเผด็จการหากชนะอีกสมัย?

หากได้เป็นประธานาธิบดีอีกสมัยและปกครองแบบเผด็จการก็ต้องถือว่าเป็นเผด็จการที่มาจากความต้องการของคนอเมริกันตามระบอบประชาธิปไตยสหรัฐ


            ประธานาธิบดีไบเดนพูดเสมอว่าอดีตประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์กับ MAGA Republicans เป็นพวกสุดโต่ง (an extremism – ไม่ใช่พวกประชาธิปไตย) นิยมความรุนแรง จงเกลียดจงชัง สร้างความแตกแยก ไม่เคารพรัฐธรรมนูญ ไม่เชื่อหลักนิติธรรม ไม่ยอมรับผลการเลือกตั้ง สนับสนุนพวกที่ปฏิเสธผลการเลือกตั้ง รวมความแล้ว ประธานาธิบดีไบเดนตีตราว่าเป็นพวกกึ่งเผด็จการ (semi-fascism) คุกคามบั่นทอนประชาธิปไตย

            สิงหาคม 2022 ประธานาธิบดีไบเดนกล่าวย้ำว่า MAGA Republicans ไม่เคารพรัฐธรรมนูญ ไม่เชื่อในหลักนิติธรรมและความต้องการของประชาชน บ่อนทำลายประชาธิปไตยทำให้ประเทศถดถอย มีการปลุกระดมให้ใช้ความรุนแรง ชุมนุมพร้อมกับก่อเหตุรุนแรง เหล่านี้ล้วนผิดกฎหมาย คนอเมริกันต้องร่วมใจพูดว่าเราไม่ได้เป็นคนเช่นนี้ ไม่ปล่อยให้ความรุนแรงกลายเป็นเรื่องปกติของสังคม คนอเมริกันต้องไม่มองการเมืองเป็นสงครามเบ็ดเสร็จ (total war – ทำลายทุกอย่างที่ขวางหน้า) เลือกที่จะรักประเทศเฉพาะเมื่อพวกตนชนะเลือกตั้งไม่ได้ ประชาธิปไตยจะอยู่ได้ก็ต่อเมื่อทุกฝ่ายยอมรับหลักนิติธรรม MAGA Republicans หวังเปลี่ยนประเทศด้วยการพูดเท็จ หว่านความหวาดกลัวและการโกหก

            มีเสียงสะท้อนมากมายที่สนับสนุนไบเดน เช่น เจมส์ แมตทิส (James Mattis) อดีตรัฐมนตรีกระทรวงกลาโหมกล่าวว่าทรัมป์คือประธานาธิบดีคนแรกที่ไม่พยายามรวมประเทศเป็นหนึ่งเดียว พยายามสร้างความแตกแยก

ทรัมป์จะเป็นเผด็จการ:

            ในที่ประชุมพรรคเดโมแครทแห่งชาติ 2024 (Democratic National Convention 2024) ชี้หากทรัมป์ชนะ ทรัมป์จะเป็นเผด็จการ (dictator) ตามแผน Project 2025 ของแนวทางฝ่ายขวา ทรัมป์บริหารประเทศเพื่อตัวเอง

            สอดคล้องกับที่ประธานาธิบดีไบเดนเอ่ยถึงเรื่องนี้ว่าทรัมป์เป็นภัยต่อความมั่นคงแห่งชาติ “จำคำพูดของผมไว้ ถ้าเขาชนะเลือกตั้งครั้งนี้ ... ทุกคนจะเห็นผลที่เกิดขึ้น ให้ดูที่ระบอบประชาธิปไตย” ตอนนี้ตนขอทำทุกอย่างเพื่อช่วยให้รองประธานาธิบดีกมลา แฮร์ริสชนะเลือกตั้ง

            รวมความแล้วไบเดนพูดชัดว่าทรัมป์ไม่ใช่ฝ่ายประชาธิปไตย เป็นพวกอำนาจนิยม ย้ำเสมอว่าถ้าทรัมป์เป็นประธานาธิบดีอีกสมัยประชาธิปไตยอเมริกาจะเสียหายมากกว่านี้

            ทรัมป์เป็นเผด็จการหรือไม่สามารถถกแถลงได้ บางทีอาจเป็นเพียงอำนาจนิยมอ่อนๆ อย่างไรเสียหากชนะเลือกตั้งอีกครั้ง ท่านก็มาจากกระบวนการเลือกตั้งตามระบอบประชาธิปไตย ไม่ต่างจากประธานาธิบดีสหรัฐคนอื่นๆ

            ข้อมูลข้างต้นเป็นข้อมูลเก่าที่บ่งชี้ความไม่เป็นประชาธิปไตย หัวข้อต่อไปจะนำเสนอข้อมูลล่าสุด

พวกทรัมป์สร้างความแตกแยก:

            ตุลาคม 2024 Brandon Wolf จาก Human Rights Campaign (HRC) ชี้ว่าพวกสนับสนุนทรัมป์ (The Maga) หาเสียงด้วยการ “สร้างความแตกแยก ทำให้ปั่นป่วนวุ่นวายและจงเกลียดจงชัง” (“division, chaos and hate”) พยายามสร้างเรื่องให้คนในชุมชนแตกแยก ทะเลาะกันผ่านประเด็นต่างๆ เห็นชัดว่าพวกเขาไม่คิดสร้างชาติ ไม่คิดทำให้คนอยู่ร่วมกันแม้คิดเห็นต่างกัน

            เป็นหลักการทั่วไปว่าการสร้างความแตกแยก บ่อนทำลายสังคมประเทศชาติ ไม่เป็นไปตามหลักประชาธิปไตยที่ทุกคนอยู่ได้แม้เห็นต่าง ที่ควรจับตาคือบางคนบางกลุ่มจงใจสร้างความแตกแยกกันโดยอาศัยช่องว่างหรือความแตกต่างบางอย่างที่มีอยู่แล้วขยายให้รุนแรง เช่น ความเห็นต่างเรื่อง LGBTQ+

            Sarah Kate Ellis จาก Glaad กล่าวว่า พวกนักการเมืองตั้งใจใช้วิธีนี้ ผลสุดท้ายคือชีวิตทุกคนจะเลวร้ายกว่าเดิม

            ตุลาคม 2024 สื่อ Politico สำรวจพบว่าในการหาเสียง 20 ครั้ง ทรัมป์ด้อยค่าเหยียดชนกลุ่มต่างๆ เป็นที่รู้กันทั่วไปว่าทรัมป์พยายามกีดกันมุสลิมต่างชาติ ต่อต้านคนจีน คนต่างด้าวเข้าเมือง มองคนเหล่านี้เป็นภัยต่อประเทศ กล่าวหารัฐบาลไบเดนให้คนเหล่านี้เข้ามาก่ออาชญากรรม ทำให้เมืองไม่น่าอยู่ โยงเรื่องนี้เข้ากับการหาเสียง

            Robert Jones จาก Public Religion Research Institute ชี้ว่า แนวทางที่ใช้ วิธีที่ทรัมป์พูดเลียนแบบนาซี สอดคล้องกับ White Supremacy ที่คนอเมริกันผิวขาวส่วนหนึ่งมีรากความคิดว่าพวกตนเป็นเชื้อชาติที่เหนือกว่าเชื้อชาติอื่นๆ สมควรอยู่อย่างหรูหรามีความสุขเหนือชนชาติอื่นๆ

            คนที่ยึดถือ White Supremacy จะมีทัศนะคติดูถูกเหยียดหยามคนสีผิวอื่น เชื้อสายอื่น รวมทั้งพลเมืองอเมริกันที่เป็นคนผิวสี พลเมืองอเมริกันเชื้อสายเอเชีย (พวกหน้าตาคล้ายจีน) ทั้งๆ ที่บางตระกูลอยู่ในประเทศอเมริกาหลายรุ่นหลายชั่วคนแล้ว

            รัฐบาลสหรัฐกังวลก่อการร้ายแต่การสงสัยมุสลิมทุกคนเป็นผู้ก่อการร้ายนั้นไม่ถูกต้อง ไม่เพียงต่อต้านรัฐบาลคอมมิวนิสต์จีนยังส่งเสริมกระแสคนอเมริกันต่อต้านชาวจีน คนเชื้อสายจีนในสหรัฐโดนบูลลี่ (Bully) กล่าวหาผิดๆ ว่าคนต่างด้าวเข้าเมืองเป็นต้นเหตุอาชญกรรม ที่ความจริงแล้วแม้มีเหตุบ้างแต่คนอเมริกันนั่นแหละที่ก่ออาชญกรรมมากสุด น่าคิดว่าสหรัฐคือแบบอย่างประชาธิปไตยโลกหรือไม่ คู่ควรกับการพยายามผู้นำฝ่ายประชาธิปไตยหรือไม่

ทำเพื่อตัวเองเท่านั้น:

            สิงหาคม 2024 บนเวทีประชุมใหญ่พรรคเดโมแครท (DNC) แฮร์ริสชี้ว่าหากทรัมป์ได้รับเลือกอีกสมัยจะไม่ใช้อำนาจเพื่อดูแลประชาชน ไม่สร้างชาติให้มั่นคง เขาจะทำแต่เรื่องที่เป็นประโยชน์ต่อตัวเองเท่านั้น แฮร์ริสชี้ว่านโยบายของทรัมป์คือลดสวัสดิการสังคม ตัดงบโครงการประกันสุขภาพของรัฐบาล (Medicare) เอื้อประโยชน์ให้บริษัทประกันภัยมากกว่าสุขภาพประชาชน จะตัดงบประมาณโรงเรียนทำให้เด็กขาดการศึกษา คุณภาพต่ำ เหล่านี้ทำร้ายคนชั้นกลาง ทำร้ายประเทศ สู้เพื่อให้ตัวเขาที่รวยอยู่แล้วรวยกว่าเดิม

            บางทีข้อนี้อาจเป็นคำตอบที่ดีที่สุด ทรัมป์ยึดถือประชาธิปไตยหรือไม่นั่นเป็นเรื่องหนึ่ง การเข้าสู่อำนาจเพื่อตัวเองหรือเพื่อชาติเป็นเรื่องสำคัญที่น่าติดตาม การแสดงออกต่างๆ ในช่วงหาเสียงเพียงเพื่อดึงให้คนเลือกตนเท่านั้น

รีพับลิกันไม่ยึดมั่นประชาธิปไตย:

            ผลวิจัยเมื่อมิถุนายน 2023 ของ Associated Press-NORC Center for Public Affairs Research เผย 8 ใน 10 ของพวกเดโมแครทฟันธงว่าพรรครีพับลิกันไม่ยึดมั่นหลักประชาธิปไตย

            ไม่ว่าความจริงจะเป็นเช่นไร ผลสำรวจชี้ว่า “พรรครีพับลิกันไม่ยึดมั่นหลักประชาธิปไตย”

            ควรตระหนักว่าไม่ใช่ทุกคนที่ไม่ยึดมั่นประชาธิปไตย คนอเมริกันจำนวนมากเป็นนักประชาธิปไตยที่น่าชื่นชม การแสดงออกที่ก้าวร้าวไม่เคารพสิทธิมนุษยชนมาจากบางคนบางกลุ่ม แต่ทั้งหลายทั้งมวลรวมกันเป็นพวกรีพับลิกัน เรื่องนี้สำคัญมากเพราะสะท้อนความเป็นประชาธิปไตย สหรัฐกำลังก้าวสู่ทางใด “ประชาธิปไตย” หรือ “เผด็จการ”

            สังคมอเมริการวมทั้งนานาชาติวิพากษ์ความไม่เป็นประชาธิปไตยของทรัมป์มาช้านาน ผลงานกับพฤติกรรมประธานาธิบดีสมัยแรกเป็นหลักฐานที่เด่นชัดอยู่แล้ว ที่สำคัญและน่าคิดคือ ทรัมป์ได้รับการสนับสนุนจากผู้มีสิทธิเลือกตั้งหลายสิบล้านคน ผ่านกระบวนการเลือกสรรตามกลไกของพรรค ถูกต้องตามกฎหมายเลือกตั้ง หากได้เป็นประธานาธิบดีอีกสมัยและปกครองแบบเผด็จการตามที่ไบเดนกับแฮร์ริสกล่าวหาก็ต้องถือว่าเป็นเผด็จการที่มาจากความต้องการของคนอเมริกันส่วนใหญ่ มาตามระบอบประชาธิปไตย

            อย่างไรก็ตาม แนวคิดนี้อาจไม่ถูกต้องก็เป็นได้ ระยะหลังมีข่าวทรัมป์พยายามลดทอนความแข็งกร้าว และหากเข้าบริหารประเทศอาจเลือกบริหารแบบเสรีประชาธิปไตยก็เป็นได้ กาลเวลาจะเป็นผู้ให้คำตอบ

27 ตุลาคม 2024
ชาญชัย คุ้มปัญญา
(ตีพิมพ์ใน คอลัมน์ “สถานการณ์โลก” ไทยโพสต์ ปีที่ 29 ฉบับที่ 10208 วันอาทิตย์ที่ 27 ตุลาคม พ.ศ. 2567)

------------------------


บรรณานุกรม :

1. Biden slams ‘semi-fascism’ in GOP as he rallies for Democrats. (2022, August 26). Al Jazeera. Retrieved from https://www.aljazeera.com/news/2022/8/26/biden-asks-democrats-to-defeat-semi-fascism-in-midterm-election

2. James Mattis Denounces President Trump, Describes Him as a Threat to the Constitution. (2020, June 3). The Atlantic. Retrieved from https://www.theatlantic.com/politics/archive/2020/06/james-mattis-denounces-trump-protests-militarization/612640/

3. Kamala Harris's DNC speech in full: From warning about Trump return to push for Gaza deal. (2020, August 23). The National News. Retrieved from https://www.thenationalnews.com/news/us/2024/08/23/kamala-harris-dnc-full-speech/

4. Republicans Blast Democrats As Socialists. Here's What Socialism Is. (2024, August 14). WSJ. Retrieved from https://www.wsj.com/politics/elections/trump-economic-speech-takeaways-e47790ca?mod=latest_headlines

5. Trump and Republicans push ‘hate and chaos’ with anti-trans ads, advocates say. (2024, October 11). The Guardian. Retrieved from https://www.theguardian.com/us-news/2024/oct/11/trump-republicans-transgender-ads

6. US elections: Biden brands Trump a ‘danger’ to US. (2024, August 11). Al Arabiya. Retrieved from https://english.alarabiya.net/News/united-states/2024/08/11/us-elections-biden-brands-trump-a-danger-to-us

7. We watched 20 Trump rallies. His racist, anti-immigrant messaging is getting darker. (2024, October 12). Politico. Retrieved from https://www.politico.com/news/2024/10/12/trump-racist-rhetoric-immigrants-00183537

-----------------