ท่าทีความมั่นคงของเนทันยาฮู2024 (2)

เนทันยาฮูย้ำว่าอิสราเอลหวังอยู่ร่วมกับนานาชาติโดยสันติ แต่กระแสโลกต่อต้านอิสราเอลส่วนหนึ่งมาจากพฤติกรรมของอิสราเอล นโยบายกับความจริงจึงย้อนแย้ง

            เบนจามิน เนทันยาฮูกล่าวต่อที่ประชุมสมัชชาสหประชาชาติ 2024 แสดงท่าทีความขัดแย้งระหว่างอิสราเอลกับอิหร่านและกลุ่มต่างๆ ในบริบทล่าสุด บทความนี้เป็นตอนที่ 2 มีสาระสำคัญพร้อมการวิเคราะห์ ดังนี้

ส่งสริมสันติภาพด้วย Abraham Accords:

            รัฐบาลอิสราเอลเสนอ Abraham Accords เป็นข้อตกลงสถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูตระดับปกติ ความหมายว่าประเทศนั้นยอมรับความเป็นรัฐชาติของอิสราเอล (nation-state) ซึ่งแต่เดิมพวกรัฐอาหรับประเทศมุสลิมจะไม่ยอมรับอิสราเอล

            สิงหาคม 2020 สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์เป็นประเทศแรกที่ทำ Abraham Accords Peace Agreement เดือนถัดมาบาห์เรนประกาศสถาปนาการทูตกับอิสราเอลเช่นกัน เนื้อหาตอนหนึ่งใน Abraham Accord ระบุชัดว่าทั้งอาหรับกับยิวต่างเป็นลูกหลานของอับราฮัม (Abraham) ภูมิภาคตะวันออกกลางประกอบด้วยมุสลิม ยิว พวกนับถือคริสต์ และผู้นับถือศาสนาความเชื่ออื่นๆ แม้แตกต่างแต่ปรารถนาอยู่ร่วมกัน (spirit of coexistence) ด้วยความเข้าใจและเคารพซึ่งกันและกัน

            แม้ชาติมุสลิมทยอยเข้าร่วมแต่รัฐบาลซาอุฯ ซึ่งเป็นพี่ใหญ่อาหรับยังไม่ยอมรับ ไม่แปลกที่นายกฯ เนทันยาฮูกล่าวว่าเป้าหมายสำคัญตอนนี้คือให้ซาอุฯ ร่วมข้อตกลง Abraham Accords ที่ผ่านมามีการเจรจาหลายรอบ รัฐบาลสหรัฐพยายามช่วยแต่ซาอุฯ ยังแข็งขืน

            รัฐบาลอิสราเอลย้ำว่าข้อตกลงนี้ได้นำคนอิสราเอลนับล้านเดินทางสู่ประเทศตะวันออกกลาง ส่งเสริมการท่องเที่ยว การค้าการลงทุนระหว่างประเทศ เป็นผลดีต่อทั้งภูมิภาค อาหรับกับอิสราเอล อิสลามกับยาดาห์อยู่ร่วมกันอย่างสันติ

            แต่ด้านนายมาห์มูด อับบาส (Mahmoud Abbas) ประธานาธิบดีปาเลสไตน์ชี้ว่าเป็นการ “ทรยศต่อเยรูซาเล็ม มัสยิดอัล-อักซอร์ (Al-Aqsa Mosque) และต่อประเด็นปาเลสไตน์ (Palestinian cause)”

โครงสร้างสันติภาพใหม่:

            นายกฯ เนทันยาฮูย้ำว่าอิสราเอลหวังอยู่ร่วมกับเพื่อนบ้านตะวันออกกลางอย่างสงบ ตอนนี้เหลือแต่อิหร่านกับพวกเท่านั้นที่ขัดขวาง จึงต้องช่วยกันทำให้อิหร่านเดินทางนี้ โครงสร้างสันติภาพตะวันออกกลางในอนาคตจะต้องมีอิสราเอล เพื่อนบ้านอื่นๆ และสหรัฐรวมอยู่ในโครงสร้างความร่วมมือนี้ โดยสหรัฐจะเป็นผู้นำ  

            ประเทศทั้งหลายที่เกี่ยวข้องต้องตัดสินใจว่าเลือกทางใด สันติภาพหรือสงคราม ถ้าเลือกร่วมมือกับอิสราเอล ทุกฝ่ายจะได้รับประโยชน์จากสันติภาพ

รัฐยิวรัฐเดียว:

            นับวันแนวคิดรัฐยิวรัฐเดียว (Jewish state) จะถูกเอ่ยถึงมากขึ้นในสหประชาชาติ (ตรงข้ามกับทวิรัฐ) เหลือแต่พวกต่อต้านยิวที่ไม่ยอมรับแนวทางนี้ พวกนี้จะคอยให้ร้ายชาวยิวกับรัฐยิว หลายประเทศใช้เวทีสหประชาชาติประณามอิสราเอล บางหน่วยงานเป็นเครื่องมือต่อต้านยิว

            แทนที่จะต้านยิวกล่าวหาว่าเป็นอาชญากร อิหร่านต่างหากที่เป็นอาชญากรเพราะปรากฎตัวในทุกที่ ทั้งกาซา ซีเรีย เยเมน อย่างไรก็ตามท้ายที่สุดอิสราเอลจะเป็นฝ่ายชนะ ชนชาติอิสราเอลจะดำรงสืบไป

            มกราคม 2024 นายกฯ เนทันยาฮูพูดชัดว่าอิสราเอลจำต้องควบคุมเขตเวสต์แบงก์ (West Bank) กับฉนวนกาซาเพื่อความมั่นคงปลอดภัย ไม่ปล่อยให้เกิดรัฐปาเลสไตน์แม้รัฐบาลสหรัฐไม่เห็นด้วย คนอิสราเอลส่วนใหญ่ต้องการเช่นนี้

            เนทันยาฮูยืนยันล้มแนวทางทวิรัฐ (Two-State Solution) แบบเดิมแม้ไบเดนคัดค้าน ด้วยเหตุผลว่าถ้ามีประเทศปาเลสไตน์ย่อมต้องมีกองทัพของเขาพวกซึ่งเป็นภัยคุกคามร้ายแรงต่อตน รัฐบาลมีหน้าที่ปกป้องพลเรือน ตนไม่ได้ทำผิดอะไร กองทัพอิสราเอลจึงต้องเข้าควบคุมปาเลสไตน์ ไม่สนใจแรงกดดันนานาชาติ ข้อตกลงใดๆ ในอนาคตจะต้องตั้งบนเงื่อนไขเช่นนี้

            ในที่สุดรัฐบาลเนทันยาฮูชุดนี้ที่มีพวกไซออนิสต์เข้มข้นจำนวนมากประกาศชัดไม่เอาแนวทางทวิรัฐ อิสราเอลจะควบคุมพื้นที่ปาเลสไตน์ทั้งหมด รวมถึงการไล่รื้อบ้านเรือนชาวปาเลสไตน์ด้วย ด้วยเหตุนี้ฝ่ายปลดปล่อยปาเลสไตน์จำต้องเทหมดหน้าตักสู้สุดตัว

            ในอดีตนานาชาติกับอิสราเอลจะเอ่ยถึงนโยบายทวิรัฐ (Two-State Solution) ตามข้อตกลงสันติภาพออสโล (Oslo Peace Accords) เมื่อ 1993 สาระสำคัญคือปาเลสไตน์รับรองสถานะความเป็นประเทศของอิสราเอล พร้อมกับที่อิสราเอลรับรองสถานะขององค์การปลดปล่อยปาเลสไตน์ (PLO) ว่าเป็นตัวแทนปาเลสไตน์ ผู้ดูแลบริหารปกครองภายในดินแดนส่วนต่างๆ ของเวสต์แบงก์กับฉนวนกาซา (แต่ยังไม่ได้รับรองรัฐปาเลสไตน์) อิสราเอลต้องทยอยมอบอำนาจการดูแลพื้นที่คืนแก่ PLO (ปัจจุบันคือ PA) ท้ายที่สุดจะเกิดรัฐปาเลสไตน์มีเยรูซาเล็มตะวันออกเป็นเมืองหลวง

            3 ทศวรรษที่นานาชาติประณามทุกปีคืออิสราเอลไม่รักษาสัญญาดังกล่าว ยังคงรื้อถอนบ้านเรือน ก่อสร้างที่อยู่อาศัยของตนในปาเลสไตน์มากขึ้น โดยอ้างก่อการร้ายจากปาเลสไตน์ ชี้ว่ารัฐบาลปาเลสไตน์ (PA) ไม่สามารถควบคุมความสงบ อิสราเอลจึงต้องลงมือด้วยตัวเอง เป็นเรื่องความมั่นคงของตนที่ยอมไม่ได้ จึงน่าสงสัยว่าอิสราเอลต้องสันติภาพจริงหรือไม่ พยายามถ่วงเวลาเพื่อผนวกเวสต์แบงก์กับฉนวนกาซาใช่ไหม

            มาถึงปี 2024 บัดนี้ชัดเจนแล้วว่ารัฐบาลอิสราเอลภายใต้เนทันยาฮูล้มข้อตกลงดังกล่าว เรื่องนี้ที่ยาวนานหลายทศวรรษบ่งชี้ว่านานาชาติได้แค่ประณาม สุดท้ายรัฐบาลสหรัฐกับพวกยังสนับสนุนอิสราเอลอย่างแข็งขันท่ามกลางเสียงประณามจากนานาชาติ

แรงต้านจากสหประชาชาติ:

            แม้รัฐบาลอิสราเอลไม่ยึดสัญญา พฤษภาคม 2024 สมัชชาสหประชาชาติ (UNGA) มีมติสนับสนุนให้ปาเลสไตน์เป็นสมาชิกเต็มตัว ชี้ว่าปาเลสไตน์มีคุณสมบัติครบถ้วน ขอให้คณะมนตรีความมั่นคงทบทวนเรื่องการรับปาเลสไตน์เป็นสมาชิกอีกครั้ง 143 ประเทศสนับสนุนข้อมตินี้ 25 ประเทศงดออกเสียง มีเพียง 9 ประเทศที่คัดค้าน 2 ใน 9 ประเทศที่คัดค้านคือสหรัฐกับอิสราเอล

            รัฐบาลซาอุฯ ชี้ว่ามติสมัชชาแสดงให้เห็นว่านานาชาติคิดเห็นอย่างไร การรับรองรัฐปาเลสไตน์สอดคล้องกับการสร้างสันติภาพถาวรในตะวันออกกลาง ตามแนวทางทวิรัฐ ถึงเวลาแล้วที่จะหยุดอิสราเอลทำร้ายปาเลสไตน์

            แม้ข้อมติสมัชชาสหประชาชาติผ่านด้วยคะแนนเสียงท่วมท้นแต่ไม่มีผลบังคับใช้ ถ้าทบทวนข้อมูลเดิมพฤษภาคม 2020 เนทันยาฮูประกาศย้ำต้องผนวกพื้นที่ส่วนใหญ่ของเวสต์แบงก์ให้เป็นส่วนหนึ่งของประเทศอิสราเอล เพื่อบันทึกอีกหน้าหน้าประวัติศาสตร์แห่งความรุ่งเรืองของลัทธิไซออนิสต์ (Zionism) พวกปาเลสไตน์จำต้องยอมรับ

            การล้มแนวทางทวิรัฐ ข้อตกลงสันติภาพออสโล นำสู่คำถามที่สำคัญมากคืออิสราเอลยังเชื่อถือได้หรือไม่ ข้อตกลงใดๆ ที่อิสราเอลทำกับเพื่อนบ้านอาจถูกฉีกทิ้งในอนาคต คำมั่นสัญญาสันติภาพต่างๆ น่าเชื่อถือแค่ไหน เป็นเพียงกลเกมซื้อเวลาตามยุทธศาสตร์กินทีละคำใช่หรือไม่ อิสราเอลในสายตานานาชาติเป็นอย่างไร ต้องยอมรับว่ากระแสโลกต่อต้านอิสราเอลส่วนหนึ่งมาจากพฤติกรรมของรัฐบาลอิสราเอล ประเทศนี้กับผู้สนับสนุนยังต้องใช้กำลังควบคุมเพื่อนบ้านต่อไป

            ล่าสุด Bezalel Smotrich รัฐมนตรีกระทรวงการคลังและผู้นำพรรค Religious Zionist กล่าวว่า “ได้เวลาแล้วจะประกาศอธิปไตยในเขตยูเดียกับสะมาเรีย” (Judea and Samaria) การผนวกรวมเป็นวิธีขจัดภัยคุกคามถาวร ตลอดปีหน้าจะเน้นเรื่องนี้ ตนกำลังหารือและเชื่อว่ารัฐบาลทรัมป์2.0จะสนับสนุน

            ย้อนหลังทรัมป์สมัยแรก รัฐบาลเนทันยาฮูเสนอแผนผนวกพื้นที่ Area C ของเขตเวสต์แบงก์เป็นส่วนหนึ่งของอิสราเอลแต่ไม่สำเร็จ Area C มีชาวอิสราเอลเข้ามาตั้งถิ่นฐานมากที่สุด ส่วน Area A กับ B ทหารอิสราเอลค่อยๆ รุกคืบกินพื้นที่ทีละน้อย ทั้ง 3 พื้นที่ยังมีชาวปาเลสไตน์อาศัยอยู่จำนวนมาก

            เขตยูเดียกับสะมาเรียคือเขตเวสต์แบงก์ (West Bank) ตามความเชื่อของยิว การผนวกเป็นของอิสราเอลอาจเป็นแผนที่วางไว้นานแล้ว ทำตามลำดับทีละขั้นเมื่อบริบทเอื้ออำนวย หากอิสราเอลผนวกเขตเวสต์แบงก์จะเป็นประเด็นให้ขัดแย้งอีกนาน

17 พฤศจิกายน 2024
ชาญชัย คุ้มปัญญา
(ตีพิมพ์ใน คอลัมน์ “สถานการณ์โลก” ไทยโพสต์ ปีที่ 29 ฉบับที่ 102229 วันอาทิตย์ที่ 17 พฤศจิกายน พ.ศ. 2567)

---------------------

บรรณานุกรม :

1. Abraham Accord signing: top quotes from the signing ceremony. (2020, September 16). The Jerusalem Post. Retrieved from https://www.jpost.com/middle-east/two-states-settlements-not-part-of-israel-deals-with-uae-bahrain-642424

2. Cleveland, William L., Bunton, Martin. (2016). A History of the Modern Middle East (6th Ed.). USA: Westview Press.

3. Full text of Netanyahu’s UN speech: ‘Enough is enough,’ he says of Hezbollah, also warns Iran. (2024, September 27). Times of Israel. Retrieved from https://www.timesofisrael.com/full-text-of-netanyahus-un-speech-enough-is-enough-he-says-of-hezbollah-also-warns-iran/

4. Israel and the Kingdom of Bahrain to establish 'full diplomatic relations,' Trump says. (2020, September 11). CNN. Retrieved from https://edition.cnn.com/2020/09/11/politics/israel-bahrain-trump/index.html

5. Israel to swear in unity govt, PM insists on West Bank annexation. (2020, May 17). AFP. Retrieved from https://www.afp.com/en/news/3954/israel-swear-unity-govt-pm-insists-west-bank-annexation-doc-1rr3b29

6. Israel's Smotrich calls for annexation of occupied West Bank: What we know. (2024, November 11). Al-monitor. Retrieved from https://www.al-monitor.com/originals/2024/11/israels-smotrich-calls-annexation-occupied-west-bank-what-we-know

7. Mattar, Philip. (2004). The Encyclopedia of the Modern Middle East and North Africa (2nd Ed.). USA: Thomson Gale.

8. Netanyahu vows no Palestinian state, attacks Israeli media, denies blindsiding Gallant. (2024, January 18). Times of Israel. Retrieved from https://www.timesofisrael.com/netanyahu-vows-no-palestinian-state-attacks-israeli-media-denies-blindsiding-gallant/

9. Netanyahu: Iran regime change will come a ‘lot sooner than people think’. (2024, September 30). Politico. Retrieved from https://www.politico.eu/article/benjamin-netanyahu-iran-regime-change-video-israel-hezbollah-war/

10. Netanyahu: No full Palestinian state, no ‘surrender’ in exchange for Gaza hostages. (2024, January 21). Times of Israel. Retrieved from https://www.timesofisrael.com/netanyahu-no-full-palestinian-state-no-surrender-in-exchange-for-gaza-hostages/

11. Palestinian leader 'rejects and denounces' Israel-UAE deal: statement. (2020, August 14). Reuters. Retrieved from https://www.reuters.com/article/us-israel-emirates-trump-palestinians-ab/palestinian-leader-rejects-and-denounces-israel-uae-deal-statement-idUSKCN2592T5

12. UN General Assembly backs Palestinian bid for UN membership. (2024, May 11). Xinhua. Retrieved from https://english.news.cn/20240511/b724c8c63bd44ea988a7bb13f40b3964/c.html

-----------------