ทรัมป์คุกคามโลกเสรีประชาธิปไตย?
การที่ทรัมป์แสดงท่าทีเป็นมิตรต่อรัสเซีย จีน อาจไม่ปกป้องสมาชิกนาโต ชวนให้ตั้งคำถามว่าทรัมป์เป็นภัยคุกคามโลกเสรีประชาธิปไตยหรือไม่
การอธิบายแนวนโยบายต่างประเทศของทรัมป์
สามารถมองผ่านหลักคิดของท่าน
เป็นที่รับรู้กันทั่วไปว่าทรัมป์ไม่ยึดถือหลักประชาธิปไตยจริงจัง ประธานาธิบดีโจ
ไบเดนพูดซ้ำหลายครั้งว่าทรัมป์กับ MAGA Republicans เป็นพวกสุดโต่ง
ตีตราว่าเป็นพวกกึ่งเผด็จการ (semi-fascism) คุกคามบั่นทอนประชาธิปไตย
เพราะไม่ยึดถือหลักประชาธิปไตย
ไม่คิดส่งเสริมจริงจัง เรื่องนี้สะท้อนผ่านนโยบายต่างประเทศ
ทรัมป์เป็นมิตรกับรัสเซีย:
ทรัมป์มักชื่นชมประธานาธิบดีปูตินแม้ในยามนี้ที่นาโตทำสงครามตัวแทนกับรัสเซีย
เรื่องนี้อาจตีความว่าเป็นกุศโลบายทางการทูต เพราะผู้นำประเทศต้องให้ผลประโยชน์ชาติมาก่อน
ความสัมพันธ์ใดๆ กับต่างชาติล้วนต้องส่งเสริมชาติตัวเองให้ดีขึ้น
ทรัมป์พูดอย่างเปิดเผยว่าตนยินดีให้รัสเซียทำอะไรก็ได้กับชาติสมาชิกนาโตที่ไม่ยอมตั้งงบประมาณกลาโหมตามข้อตกลง
ไบเดนสวนทันควันว่าเป็นเรื่องที่ “โง่เขลา น่าละอายและไม่ใช่ความคิดอย่างอเมริกัน”
("dumb", "shameful" and "un-American") ตราบใดที่ตนเป็นประธานาธิบดีจะขอปกป้องสมาชิกนาโตอย่างถึงที่สุด
Antonio
Tajani รัฐมนตรีกระทรวงการต่างประเทศอิตาลีกล่าวถึงเรื่องนี้ว่าคำพูดของทรัมป์เป็นแค่
“คำพูดติดตลกช่วงหาเสียง” (electoral campaign
joke)
การเป็นมิตรนี้ดูจริงจัง
กันยายน 2024
ทรัมป์กล่าวว่าถ้าเขาชนะเลือกตั้งจะดำเนินนโยบายเป็นมิตรกับรัฐบาลรัสเซียกับจีน
ผมไม่คิดว่าพวกเขาเป็นศัตรู
ในกรณีรัสเซียดูน่าเชื่อถือพอควร
ส่วนกรณีจีนนั้นทุกคนทราบดีว่าหลายครั้งที่คำพูดของทรัมป์เชื่อถือไม่ได้
ช่วงเป็นประธานาธิบดีสมัยแรกเล่นงานจีนด้านเศรษฐกิจ ขึ้นภาษีนำเข้าสินค้าจีน 20-30%
เกิดการตอบโต้ไปมากับจีนอย่างหนักในช่วงนั้น ล่าสุดแสดงท่าทีจะขึ้นภาษีอีก
ส่วนประเด็นไต้หวันต้องการแบ่งแยกดินแดนไม่เด่นเท่าสมัยไบเดน
อาจตีความว่าจะขัดแย้งจีนเรื่องการค้าการลงทุนมากกว่าเรื่องไต้หวัน
รวมความแล้ว
เรื่องทรัมป์แสดงท่าทีเป็นมิตรกับผู้นำรัสเซียกับจีนถูกพรรคเดโมแครทใช้เป็นหลักฐานว่าทรัมป์ไม่ใช่ฝ่ายประชาธิปไตย
จริงๆ แล้วทรัมป์ยึดถืออำนาจนิยม หวังปกครองประเทศ
มีอิทธิพลโลกแบบนักอำนาจนิยมทั้งหลาย (รัสเซียกับจีนถูกกล่าวหาเช่นนี้)
ไม่ปกป้องยูเครนเท่ากับไม่ปกป้องประชาธิปไตย:
ตั้งแต่เริ่มสงครามยูเครน
นาโตกับยูเครนพูดเป็นเสียงเดียวกันว่าสงครามยูเครนไม่ใช่เรื่องระหว่างยูเครนกับรัสเซียเท่านั้น
เป็นสงครามระหว่างฝ่ายประชาธิปไตยกับอำนาจนิยม เป็นเหตุผลหลักข้อหนึ่งที่นาโตปล่อยให้ยูเครนแพ้ไม่ได้
หากแพ้จะส่งสัญญาณให้ประเทศอำนาจนิยมฮึกเหิม รุกรานประเทศอื่นๆ อีก
ถ้าศึกนี้สหรัฐเป็นฝ่ายถอยก่อนจะมีคำพูดว่า
“ฝ่ายประชาธิปไตยแพ้” หรืออาจตีความว่ารัฐบาลสหรัฐเตรียมทางลงไว้แล้ว
ทรัมป์พูดว่าหากเป็นประธานาธิบดีอีกครั้งจะยินดีสงบศึกกับรัสเซียด้วยเงื่อนไขที่ยูเครนเสียเปรียบ
หากสงครามยูเครนยุติมีทั้งข้อดีกับข้อเสีย
ข้อดีคือหยุดการสูญเสียบาดเจ็บล้มตายที่สองฝ่ายน่าจะเสียชีวิตนับแสนแล้ว
ยูเครนไม่ต้องพังพินาศมากกว่านี้ สามารถเข้ากระบวนการฟื้นฟูประเทศ
ประชาชนยูเครนหลายล้านคนที่อพยพหนีภัยสงคราม ต้องอยู่อย่างยากลำบากไร้อนาคต ได้กลับประเทศสร้างตัวสร้างอนาคตอีกครั้ง
สมาชิกนาโตทั้งหลายสามารถนำงบประมาณมหาศาลที่ช่วยยูเครนมาพัฒนาชาติในด้านต่างๆ
รวมทั้งการเตรียมกองทัพให้เข้มแข็งขึ้นด้วย
ข้อเสียคือแผนบั่นทอนทำลายรัสเซียชะงักตามยุทธศาสตร์สงครามไฮบริด
ภัยคุกคามรัสเซียยังไม่สิ้นและอาจร้ายแรงยิ่งขึ้นถ้ายึดว่ารัสเซียมีเป้ายึดครองยุโรป
มีนาคม
2024 ประธานาธิบดีไบเดนกล่าว “คำแถลงนโยบายประจำปี” (State
of the Union) 2024 ความตอนหนึ่งว่าปูตินรัสเซียบุกยูเครน
ทั่วยุโรปปั่นป่วนและน่าจะทำสงครามต่อไป
ถ้าเรายืนเคียงข้างและให้อาวุธยูเครนจะสามารถหยุดรัสเซีย
โดยไม่มีทหารอเมริกันที่นั่นและจะเป็นเช่นนี้ต่อไป แต่อดีตประธานาธิบดีคนก่อน
(ทรัมป์) พูดยินยอมให้รัสเซียทำอะไรก็ได้ตามที่ปูตินต้องการ
ซึ่งเท่ากับยอมจำนนต่อผู้นำรัสเซีย เป็นคำพูดอันตรายและรับไม่ได้
ถ้าสหรัฐเดินจากไปยูเครนจะตกอยู่ในอันตราย
ตามมาด้วยยุโรป โลกเสรีทั้งมวล พวกต่อต้านเราจะฮึกเหิม เราจะไม่เดินจากไม่ยอมจำนน
หลายคนพูดเป็นเสียงเดียวกันว่าสงครามยูเครนยุติได้ด้วยการเจรจาเท่านั้น
ทรัมป์เปิดทางยินดีรับเงื่อนไขที่ยูเครนเสียเปรียบ (มิถุนายน 2024 ปูตินย้ำเงื่อนไขสงบศึกคือยูเครนต้องไม่ร่วมนาโต
รัสเซียได้ครอง 4 จังหวัดทางฝั่งตะวันออกกับทางตอนใต้ของยูเครน
นาโตเลิกคว่ำบาตรรัสเซีย) อันที่จริงแนวทางนี้ไม่ใช่ของทรัมป์ มีการถกเงื่อนไขทำนองนี้ในนาโตอยู่ก่อนแล้ว
ไม่ว่าจะใช้วิธีการใด
หากรัฐบาลสหรัฐถอยน่าจะวิพากษ์ได้ว่าฝ่ายประชาธิปไตยยอมแพ้
ถ้าเกิดขึ้นจริง
เรื่องนี้สะเทือนฝ่ายประชาธิปไตยโลกแน่นอน
ทรัมป์สงวนสิทธิ์ปกป้องสมาชิกนาโต:
การที่ยูเครนไม่เป็นสมาชิกนาโตสามารถใช้เป็นข้ออ้างว่านาโตไม่จำต้องทุ่มทุกอย่างเพื่อยูเครน
ในมุมมองที่กว้างกว่ายูเครน กุมภาพันธ์ 2024 บนเวทีปราศรัยหาเสียงทรัมป์กล่าวว่าตน
ยินดีให้รัสเซียทำอะไรก็ได้กับชาติสมาชิกนาโต ที่ไม่ยอมตั้งงบประมาณกลาโหมตามข้อตกลงนาโตรวมถึงสงคราม
และสหรัฐจะไม่ปกป้องสมาชิก ชี้ว่าพวกที่ตั้งงบกลาโหมต่ำเอารัดเอาเปรียบสหรัฐ
ด้านเยนส์
สโตลเทนเบิร์ก (Jens Stoltenberg) เลขาธิการนาโตขณะนั้นออกมาพูดทันทีว่านาโตพร้อมปกป้องทุกประเทศที่เป็นสมาชิก
หลังทรัมป์สนับสนุนให้รัสเซียโจมตียุโรปและสหรัฐอาจจะไม่ปกป้อง
ตนหวังว่าไม่ว่าใครจะชนะเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐจะยังคงยึดมั่นความเป็นพันธมิตรนาโตอย่างเข้มแข็ง
อันที่จริงแล้วหากชาตินาโตยุโรปถูกโจมตี
รัฐบาลสหรัฐจะไม่ส่งกองทัพเข้าปกป้องก็ได้ เพราะนาโตไม่สามารถสั่งรัฐบาลสหรัฐแม้มีสนธิสัญญาก็ตาม
นาโตจึงสั่นคลอนจากท่าทีของทรัมป์
ด้านรัฐบาลโปแลนด์
ฝรั่งเศสและเยอรมันประกาศ อียูจะกระชับความร่วมมือด้านการป้องกันประเทศ
ต้องพึ่งพาตัวเองมากขึ้น
จะเห็นว่าโปแลนด์ตื่นเต้นทันทีหลังทรัมป์กล่าวว่าตนจะขอให้รัสเซียทำสงครามกับชาติสมาชิกนาโตที่ไม่ยอมตั้งงบประมาณกลาโหมตามข้อตกลง
โปแลนด์อยู่ในจุดที่รัสเซียน่าจะเข้าโจมตีจึงกังวลมากกว่าสมาชิกนาโตอื่นๆ
ประธานาธิบดีไบเดนกล่าวย้ำทันทีว่าทรัมป์เปิดไฟเขียวให้ปูตินก่อสงครามต่อไป
ซึ่งอาจหมายถึงการรุกรานโปแลนด์กับประเทศในแถบบอลติก (Baltic states- เอสโตเนีย ลัตเวีย ลิทัวเนีย)
รัสเซียจะยึดครองยุโรปเป็นเรื่องอีกนานและอาจไม่เกิดขึ้น
แต่ชี้ให้เห็นทัศนคติของทรัมป์ อย่างไรก็ตามควรคิดว่าอาจไม่ทำตามนั้นจริง
เป็นเพียงวิธีการพูดเพื่อกระตุ้นให้คนสนใจ ในที่สุดสหรัฐต้องการนาโตเช่นเดียวกับที่นาโต้ต้องการสหรัฐ
การพูดของทรัมป์ในช่วงหาเสียงก็เพื่อคะแนนเสียงเท่านั้น
ถึงเวลาจะเปลี่ยนแปลงอย่างไรก็ได้ มีเหตุผลข้ออ้างเสมอ
การที่ทรัมป์แสดงท่าทีเป็นมิตรต่อรัสเซีย จีน และอาจไม่ปกป้องสมาชิกนาโตยังมีข้อสงสัยหลายจุด แต่ชวนให้ตั้งคำถามว่าทรัมป์เป็นภัยคุกคามโลกเสรีประชาธิปไตยหรือไม่ เพราะสอดคล้องกับหลักคิดความไม่เป็นประชาธิปไตยของท่าน ทำไมสหรัฐต้องจ่ายราคาหนักเพื่อปกป้องประชาธิปไตยต่างแดน ชาติประชาธิปไตยทั้งหลายต่างหากต้องช่วยแบกรับงบกลาโหมสหรัฐ ช่วยซื้อใช้อาวุธ MADE IN USA มากขึ้น
-----------------------
บรรณานุกรม :
2. Here’s the full
transcript of President Joe Biden’s State of the Union address. (2024, March
7). Market Watch. Retrieved from
https://www.marketwatch.com/story/heres-the-full-transcript-of-president-joe-bidens-state-of-the-union-address-4af8a940?mod=mw_latestnews
3. Nato chief says Trump remarks may put US and EU lives at
risk. (2024, February 10). The Guardian. Retrieved from
https://www.theguardian.com/world/2024/feb/11/nato-chief-jens-stoltenberg-promises-forceful-response-to-attack-as-trump-remarks-dismissed
4.
Poland, France and Germany vow to make Europe stronger as fears grow over
Russia and Trump. (2024, February 13). AP. Retrieved from
https://apnews.com/article/france-germany-poland-tusk-f40604859d6efba833a6895dcc95bffe
5. Trump says he
would ‘encourage’ Russia to attack NATO allies who don’t pay up. (2024,
February 11). Politico. Retrieved from
https://www.politico.eu/article/trump-says-he-would-encourage-russia-to-attack-nato-members-that-dont-pay-enough/
6. Trump Says US
Will Get Along Well With Russia, China After He Wins Election. (2024, September
17). Sputnik Globe. Retrieved from
https://sputnikglobe.com/20240917/trump-says-us-will-get-along-well-with-russia-china-after-he-wins-election-1120173384.html
7.
Western officials criticise Trump's Nato comments. (2024, February 12). The
National News. Retrieved from
https://www.thenationalnews.com/world/2024/02/11/western-officials-criticise-trumps-nato-comments/
-----------------