เลือกตั้งสหรัฐ 2024 ประชามติเลือกประชาธิปไตย

ไบเดนชี้ว่าตนเป็นฝ่ายประชาธิปไตย ส่วนทรัมป์อยู่ฝ่ายตรงข้าม ถ้าต้องการปกป้องประชาธิปไตยขอให้เลือกพรรคเดโมแครท

            David Remnick จากสื่อ New Yorker ตีความว่าเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐ 2024 คือประชามติว่าต้องการประชาธิปไตย (“a referendum on democracy itself”) หรือต้องการทรัมป์ที่คนอเมริกันรู้ดีว่าท่านมีความเป็นประชาธิปไตยมากน้อยแค่ไหน ใครๆ ก็รู้ว่าบุคลิกทรัมป์คืออำนาจนิยม (authoritarian personality)

            ผลจาก 8-9 ปีที่ผ่านมาคนอเมริกันรับรู้กันทั่วว่าทรัมป์เป็นคนอย่างไร ฝีมือลีลาการบริหารประเทศคดีความของท่านและอีกหลายพฤติกรรม ปฏิเสธไม่ได้ว่าคนอเมริกันไม่รู้จักทรัมป์ ในหมู่พรรคเดโมแครทตีตราว่าทรัมป์บ่อนทำลายค่านิยมประชาธิปไตย ถ้าเลือกทรัมป์คือเลือกคนที่อยู่ฝ่ายตรงข้ามประชาธิปไตย ความเป็นประชาธิปไตยที่อเมริกาภาคภูมิใจถูกลดทอนลงไปอีก

            ผลวิจัยเมื่อมิถุนายน 2023 ของ Associated Press-NORC Center for Public Affairs Research เผย 8 ใน 10 ของพวกเดโมแครทฟันธงว่าพรรครีพับลิกันไม่ยึดมั่นหลักประชาธิปไตย

            ไม่ว่าความจริงจะเป็นเช่นไร ผลสำรวจแสดงความคิดเห็นของพวกเดโมแครทต่อพรรครีพับลิกันในปัจจุบัน “พรรครีพับลิกันไม่ยึดมั่นหลักประชาธิปไตย”

            การที่พวกเดโมแครทเล่นงานทรัมป์เรื่องนี้เกี่ยวข้องกับการหาเสียง เป็นหนึ่งในนโยบายเรือธงที่ไบเดนใช้เรื่อยมา มีนาคม 2024 ประธานาธิบดีโจ ไบเดนกล่าวใน “คำแถลงนโยบายประจำปี” (State of the Union) ว่าประชาธิปไตยอเมริกากำลังสะเทือนจากผู้ที่ไม่ยอมถ่ายโอนอำนาจอย่างสงบเมื่อ 6 มกราคม 2020 (หมายถึงทรัมป์) เป็นภัยร้ายแรงต่อประชาธิปไตย แต่เขาล้มเหลว อย่างไรก็ตามต้องยอมรับว่าภัยคุกคามนี้ยังอยู่และต้องปกป้องต่อ ขอให้พวกเราทั้งหลายร่วมกันปกป้องประชาธิปไตย เคารพเลือกตั้งที่เสรีและยุติธรรม ฟื้นฟูความเชื่อมั่นสถาบันต่างๆ ต่อต้านความรุนแรงทางการเมือง

            ประธานาธิบดีไบเดนพูดเสมอว่าอดีตประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์กับ MAGA Republicans (พวกที่สนับสนุนทรัมป์อย่างเข้มข้น) เป็นพวกสุดโต่ง (an extremism – ไม่ใช่พวกประชาธิปไตย) เป็นพวกนิยมความรุนแรง จงเกลียดจงชัง สร้างความแตกแยก ไม่เคารพรัฐธรรมนูญ ไม่เชื่อหลักนิติธรรม ไม่ยอมรับผลการเลือกตั้ง สนับสนุนพวกที่ปฏิเสธผลการเลือกตั้ง รวมความแล้ว ประธานาธิบดีไบเดนตีตราว่าเป็นพวกกึ่งเผด็จการ (semi-fascism) คุกคามบั่นทอนประชาธิปไตย

            ในการหาเสียงไบเดนจะพยายามชี้ว่าตน (พรรคเดโมแครท) เป็นฝ่ายประชาธิปไตย ส่วนทรัมป์อยู่ฝ่ายตรงข้าม เชิญชวนให้คนอเมริกันเข้าคูหา ถ้าต้องการปกป้องระบอบประชาธิปไตยขอให้เลือกพรรคเดโมแครท

            Remnick ขยายความว่าปี 2016 ได้ทรัมป์เป็นประธานาธิบดี เลือกตั้งรอบถัดมา 2020 คือประชามติไม่เอาทรัมป์ การที่ Remnick ตีความว่าเลือกตั้งประธานาธิบดี 2024 คือประชามติว่าต้องการตัวแทนจากฝ่ายประชาธิปไตยหรือไม่จึงสมเหตุสมผลไม่น้อย เป็นการลงประชามติอีกรอบว่าสังคมอเมริกันในยามนี้ยังต้องการตัวแทนจากฝ่ายประชาธิปไตยหรือไม่

            Remnick ไม่ใช่คนแรกที่บ่งชี้ความไม่เป็นประชาธิปไตยของรัฐบาลทรัมป์ พฤศจิกายน 2022 สถาบันระหว่างประเทศเพื่อความช่วยเหลือด้านประชาธิปไตยและการเลือกตั้ง (International Institute for Democracy and Electoral Assistance หรือ International IDEA) ในสวีเดนเผยแพร่งานวิจัยระบุว่า สหรัฐจัดอยู่ในกลุ่มประเทศที่ประชาธิปไตยถดถอยพอสมควร (moderately backsliding) พร้อมกับขยายความว่าประชาธิปไตยสหรัฐถดถอยหนักในสมัยประธานาธิบดีทรัมป์ การเมืองแบ่งขั้วสังคมแตกแยก เกิดกระแสไม่ยอมรับเสียงข้างมาก สิทธิเสรีภาพหดหาย สังคมเต็มด้วยข่าวปลอมการบิดเบือนข้อมูล เล่นงานศาล ผู้คนไม่พอใจสภาพความเป็นอยู่ ความไม่เท่าเทียม ชีวิตทรัพย์สินไม่ปลอดภัย มีการทุจริตคอร์รัปชัน ประชาชนเรียกร้องการเปลี่ยนแปลง นโยบายประชานิยมกำลังทำลายประชาธิปไตย ที่น่าเป็นห่วงคือผู้นำประเทศที่มาจากการเลือกตั้งเป็นผู้ทำลายสถาบันการเมือง ความเป็นประชาธิปไตยจึงถดถอย การปกครองด้วยระบอบนี้ต่อเนื่องยาวนานไม่เป็นเหตุยกระดับประชาธิปไตยให้สูงขึ้นแต่อย่างไร

ไบเดนเป็นตัวเลือกที่ดี?:

            ถ้าคนอเมริกันเห็นว่าประชาธิปไตยสำคัญ เป็นคุณค่าที่ยึดถือ เชื่อว่าระบอบประชาธิปไตยเป็น “เครื่องมือ” ที่ดีที่สุด ตอบสนองเสรีนิยมกับความเท่าเทียมทางโอกาส เป็นความมั่นคงแห่งชาติที่สั่นคลอนไม่ได้ รัฐบาลส่งเสริมเสรีประชาธิปไตยทั่วโลก หวังให้นานาชาติใช้ระบอบการปกครองนี้ โจมตีหลายประเทศว่าเป็นอำนาจนิยม เป็นเผด็จการ ทำร้ายประชาชนตัวเอง เลือกตั้ง 2024 ควรเลือกไบเดนอีกสมัยเพื่อสกัดทรัมป์

            แต่หลังการอภิปรายรอบแรกระหว่างไบเดนกับทรัมป์ ไบเดนแสดงอาการคนสูงวัยอายุขึ้นเลข 8 สังคมตั้งคำถามยังเหมาะกับตำแหน่งผู้ประเทศหรือไม่

            อันที่จริงแล้วสุขภาพไบเดนเป็นอย่างไรคนในพรรคกับคนวงในน่าจะรู้ดี บางคนขอให้ไบเดนถอนตัว แต่ท่ามกลางเสียงคัดค้านไบเดนยืนยันลงเลือกตั้ง ให้เหตุผลตนคือคู่แข่งที่น่ากลัวที่สุดของทรัมป์ ตนเคยชนะมาแล้วและจะชนะอีกครั้ง สติสัมปชัญญะยังดีอยู่ สามารถดูแลโลกทั้งใบ

            กลายเป็นว่าตอนนี้การหาเสียงสำคัญของไบเดนอยู่กับพรรคตัวเอง ต้องเอาชนะเสียงค้านในพรรคให้จงได้ หลายสื่อทั้งในและต่างประเทศสนใจทรัมป์ในฐานะว่าที่ประธานาธิบดีคนต่อไป

            ล่าสุดมีกระแสข่าวว่ารองประธานาธิบดีกมลา แฮร์ริส (Kamala Harris) น่าจะเป็นตัวเลือกที่ดีที่สุด แต่คนในพรรคที่สนับสนุนไบเดนยังมีมากเช่นกัน ไม่ว่ารองประธานาธิบดีแฮร์ริสจะได้เป็นตัวแทนพรรคหรือไม่ การแข่งขันยังไม่จบ ไบเดนกับทรัมป์ยังต้องอภิปรายตัวต่อตัวอีก รอบหน้าไบเดนอาจชนะก็เป็นได้

ประชาธิปไตยในความหมาย:

            ตำรารัฐศาสตร์ระบุว่าคนอเมริกันเชื่อว่าการปกครองระบอบประชาธิปไตยเป็น “เครื่องมือ” ที่ดีที่สุด ตอบสนองเสรีนิยมกับความเท่าเทียมทางโอกาสที่พวกเขายึดถือ

            แต่ความจริงแล้วระบอบประชาธิปไตยไม่จำต้องยึดแนวทางเสรีนิยมเสมอไป มีตัวอย่างให้เห็นทั่วโลก

            เยอรมันเป็นประเทศพัฒนาแล้วที่น่าสนใจ ในการเลือกตั้งทั่วไปกันยายน 2021 พรรคสังคมนิยมประชาธิปไตย (SPD) เป็นฝ่ายชนะ ได้คะแนนนำพรรค CDU/CSU ของอังเกลา แมร์เคิล (Angela Merkel)

            เป็นการเปลี่ยนแนวทางรัฐบาลหลังแมร์เคิลบริหารประเทศถึง 16 ปี การที่พรรคของแมร์เคิลพ่ายแพ้ไม่ใช่เพราะไม่พอใจการบริหารประเทศของนายกฯ แมร์เคิล แต่เมื่อคนเยอรมันเห็นว่าได้เวลาต้องเลือกคนอื่นที่ไม่ใช่คนเดิมอีก จึงเป็นโอกาสที่พวกเขาได้คิดและเลือกคนใหม่ตามกติกาประชาธิปไตย

            เป็นที่มาของรัฐบาลโอลาฟ โชลซ์ (Olaf Scholz) รัฐบาลเยอรมันชุดปัจจุบันจึงมีพรรคสังคมนิยมประชาธิปไตยเป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาลฝ่ายซ้าย

            ตำรารัฐศาสตร์ยกย่องฝรั่งเศสเป็นต้นแบบประชาธิปไตยประเทศหนึ่ง ล่าสุดผลการเลือกตั้งฝรั่งเศสรอบสองฝ่ายซ้ายได้คะแนนสูงสุด ก่อนหน้านี้หลายคนคิดว่าฝ่ายขวาจัดของเลอเปนจะมาเป็นอันดับหนึ่ง แต่เลือกตั้งรอบสองกลับหล่นไปอยู่อันดับที่ 3 สายกลางของมาครงแซงขึ้นมาเป็นอันดับ 2 (เลือกรอบแรกพรรคมาครงแพ้เลอเปน) คาดว่าฝ่ายซ้ายกับพวกสายกลางจะร่วมกันจัดตั้งรัฐบาล

            เป็นอีกครั้งที่พรรคสายสังคมนิยมประชาธิปไตยจะบริหารประเทศฝรั่งเศสอีกรอบ

            รัฐบาลโอลาฟ โชลซ์กับเลือกตั้งฝรั่งเศสเป็นสองตัวอย่างปัจจุบันที่ชี้ว่า ระบอบประชาธิปไตยไม่จำต้องยึดแนวนโยบายเสรีนิยมเสมอไป จะเป็นฝ่ายซ้ายหรืออำนาจนิยมฝ่ายขวา หรือเป็นพวกกรีนที่เน้นสิ่งแวดล้อมยั่งยืนก็ได้ ขึ้นกับว่าประชาชนต้องการอะไรมากกว่าและหมุนเวียนเปลี่ยนไป

            ปลายปีนี้หากทรัมป์ได้เป็นประธานาธิบดีอีกสมัย น่าติดตามว่าประชาธิปไตยอเมริกาจะเป็นอย่างไร เรื่องนี้สำคัญเพราะจะมีผลต่อค่านิยม ความหมายของประชาธิปไตยในประเทศอื่นๆ ด้วย มีผลต่อนโยบายต่างประเทศสหรัฐที่จะกระทบทั่วโลก

            ประชาธิปไตยคือสิ่งที่มนุษย์สร้างขึ้นและนำมาใช้ ความหมายประชาธิปไตยของแต่ละประเทศแต่ละเวลาไม่จำต้องเหมือนกันเสมอไป นี่คือความเข้าใจสำคัญที่ประชาชนควรเข้าใจ

14 กรกฎาคม 2024
ชาญชัย คุ้มปัญญา
(ตีพิมพ์ใน คอลัมน์ “สถานการณ์โลก” ไทยโพสต์ ปีที่ 28 ฉบับที่ 10103 วันอาทิตย์ที่ 14 กรกฎาคม พ.ศ. 2567)

----------------------

บรรณานุกรม :

1. Biden Forcefully Rejects Efforts to Push Him Out of Race. (2024, July 1). WSJ. Retrieved from https://www.wsj.com/politics/elections/biden-sits-for-interview-to-try-to-bounce-back-from-debate-debacle-6e60527f?mod=latest_headlines

2. France's far-right suffers setback as voters deny power. (2024, July 8). France24. Retrieved from https://www.france24.com/en/europe/20240707-france-far-right-voters

3. German elections: Centre-left narrowly wins against Merkel's party. (2021, September 27). BBC. Retrieved from https://www.bbc.com/news/world-europe-58698806

4. Kamala Harris Would Be the Best Democratic Choice. (2024, July 9). WSJ. Retrieved from https://www.wsj.com/articles/kamala-harris-would-be-the-best-democratic-choice-independents-moderates-trump-16273447?mod=latest_headlines

5. International Institute for Democracy and Electoral Assistance. (2022, November 30). Global State of Democracy 2022: Forging Social Contracts in a Time of Discontent. Retrieved from https://www.idea.int/democracytracker/sites/default/files/2022-11/the-global-state-of-democracy-2022.pdf

-----------------