ความปราชัยของอิสราเอลกับสหรัฐและพวก
ไม่ว่าจะประกาศดังๆ หรือกระซิบเบาๆ รัฐบาลเนทันยาฮูกับไบเดนจะถูกประณามว่า “ละเมิดกฎหมายระหว่างประเทศ” “ละเมิดสิทธิมนุษยชน” “ขาดมนุษยธรรม”
ในขณะที่สงครามฮามาส-อิสราเอลดำเนินต่อไป แรงกดดันจากนานาชาติต่ออิสราเอลกับสหรัฐเพิ่มขึ้น
เรียกร้องให้หยุดยิงฟื้นฟูเจรจาสันติภาพ แต่รัฐบาลเนทันยาฮูดื้อดึง สถานการณ์ดังกล่าวก่อให้แบ่งโลกเป็น
2 ฝ่าย ฝ่ายหนึ่งที่ประกอบด้วยอิสราเอลกับสหรัฐและพวก
(บางประเทศในอียู) อีกฝ่ายคือประเทศส่วนใหญ่รวมทั้งองค์การสหประชาชาติ
การไม่ยอมถอยคือตัวปัญหา:
รัฐบาลเนทันยาฮูย้ำว่าใครที่เจอแบบอิสราเอลก็จะทำแบบที่อิสราเอลกำลังทำตอนนี้
จึงเดินหน้าทำสงครามต่อไปแม้ยอดผู้เสียชีวิตสูง 20,000 ราย
ตามแผนที่ประกาศตั้งแต่ต้นคือจะลงมือต่อทุกจุดและด้วยกำลังทั้งหมด
ทำทุกอย่างให้มั่นใจว่าจะไม่เกิดเหตุการณ์ซ้ำอีก ขั้นแรกคือโจมตีทำลายกองกำลังฮามาส
ต่อด้วยกวาดล้างกลุ่มกองกำลังอื่นๆ พร้อมกับทำลายระบอบอำนาจฮามาสในกาซา
ขั้นสุดท้ายคือให้กลุ่มอำนาจใหม่เข้าดูแลกาซา
ให้พลเมืองอิสราเอลกับกาซาอยู่ด้วยกันอย่างสงบสุข
รัฐบาลอิสราเอลจะไม่อ่อนข้อต่อผู้ไม่ยอมรับประเทศอิสราเอล ผู้แสดงตัวเป็นปรปักษ์
นี่คือสงครามเพื่อความอยู่รอดของชาติ ที่รัฐบาลอิสราเอลเห็นว่าสำคัญยิ่งกว่าหลักศีลธรรม
พร้อมละเมิดกฎหมายระหว่างประเทศ ละเมิดสิทธิมนุษยชน
พร้อมรับคำประณามจากนานาชาติที่โดนเป็นประจำทุกปีอยู่แล้ว
(ทุกปีในที่ประชุมสหประชาชาติจะประณามอิสราเอลกระทำทารุณต่อปาเลสไตน์
หลายประเทศออกแถลงการณ์ซ้ำอยู่เสมอ)
ในขณะที่รัฐบาลอิสราเอลระบุว่าคือการป้องกันประเทศ
รัฐบาลไบเดนขอยืนเคียงข้างอิสราเอล จะช่วยอิสราเอลปกป้องประเทศ
ยึดแนวคิดที่มีมายาวนานแล้วว่า “อิสราเอลมีสิทธิที่จะป้องกันตัวเอง” สมัยประธานาธิบดีจอร์จ
ดับเบิ้ลยู. บุกล่าวว่า “ข้าพเจ้าเชื่อว่าชาติอธิปไตยมีสิทธิอันชอบธรรมที่จะปกป้องประชาชนของตนให้พ้นจากการโจมตีของผู้ก่อการร้าย
และทำสิ่งที่จำเป็นเพื่อป้องกันการโจมตีเหล่านั้น”
ตอนนี้อิสราเอลกำลังทำสิ่งที่จำเป็นเพื่อป้องกันการโจมตีเหล่านั้น
อิสราเอลปราศจากความชอบธรรม:
ในอีกมุมหลายฝ่ายชี้ว่าอิสราเอลทำเกินเลยจนสูญเสียความชอบธรรม
ตั้งแต่ต้นอันโตนิโอ
กูเตเรส (Antonio Guterres) เลขาธิการสหประชาชาติเรียกร้องให้ทุกฝ่ายหยุดยิงทันที
อิสราเอลละเมิดกฎหมายสิทธิมนุษยชนในการโจมตีเมืองกาซา
ฮามาสก่อความรุนแรงเพราะมีที่มาที่ไป ไม่ใช่อยู่ดีๆ ก็โจมตี ด้านทูตอิสราเอล Gilad
Erdan โต้ว่าท่านเลขาธิการฯ ไม่เข้าใจสภาพความเป็นไปของโลก ไม่เข้าใจการก่อการร้าย
การสังหารเข่นฆ่าที่พวกฮามาสกระทำต่ออิสราเอลเมื่อวันที่ 7 ตุลาคม
ในทำนองเดียวกันองค์การความร่วมมืออิสลาม
(The Organisation of Islamic Cooperation: OIC)
แถลงว่าอิสราเอลเป็นฝ่ายรุกรานก่อน ยึดครองดินแดนปาเลสไตน์
ละเมิดข้อมติสหประชาชาติ ทำร้ายชาวปาเลสไตน์ทุกวัน เหล่านี้คือมูลเหตุของการปะทะระหว่างฮามาสกับอิสราเอล
เรียกร้องคณะมนตรีความมั่นคงสหประชาชาติทำหน้าที่หยุดอิสราเอล ปกป้องปาเลสไตน์
ปฏิบัติตามข้อมติต่างๆ
จะเห็นว่าทั้งคู่ต่างพูดจากมุมองคนละแบบ
อิสราเอลยืนยันการปกป้องตัวเองสำคัญที่สุด
ไม่สนใจว่าผิดกฎหมายระหว่างประเทศหรือไม่
หากจะพูดเรื่องถูกผิด
การป้องกันตัวเองต้องอยู่ภายใต้กฎหมายระหว่างประเทศ Josep Borrell ผู้แทนระดับสูงด้านนโยบายต่างประเทศของอียูกล่าวว่า สิทธิการป้องกันตัวเองต้องอยู่ภายใต้กฎหมายระหว่างประเทศ
จะใช้หลักป้องกันตัวเองแล้วละเมิดกฎหมายระหว่างประเทศไม่ได้ การตัดน้ำตัดไฟ
ควบคุมการส่งอาหารแก่พลเรือนล้วนผิดกฎหมายระหว่างประเทศทั้งสิ้น
ในยามนี้ที่กำลังทำสงครามสภาพสิทธิมนุษยชนย่ำแย่
การที่อิสราเอลเป็นสมาชิกสหประชาชาติย่อมถือว่ายอมรับกฎหมายเหล่านี้
หากอิสราเอลอยากทำตามใจตัวเอง ควรลาออกจากสมาชิกสหประชาชาติ
ดังนั้น
ถ้ายึดวหลักการและเหตุผลอิสราเอลจึงเป็นฝ่ายผิด นี่คือจุดเริ่มของความปราชัย
หนึ่งในประเด็นที่นานาชาติให้ความสำคัญคือชีวิตความเป็นอยู่ของคนกาซา
นายเซอร์เกย์ ลาฟรอฟ (Sergei Lavrov) รัฐมนตรีกระทรวงการต่างประเทศรัสเซียกล่าวว่าพลเรือนกาซาต้องบาดเจ็บล้มตายเพราะอิสราเอลโจมตีทั้งเมืองเป็นเรื่องที่รับไม่ได้
อิสราเอลนำเรื่องทำสงครามเป็นข้ออ้างไม่ได้ ชี้ว่าการกวาดล้างฮามาสกลายเป็นการทำลายชีวิตพลเรือนพร้อมกัน
เตือนว่าความรุนแรงจะมีเสมอตราบเท่าที่ยังไม่เกิดรัฐปาเลสไตน์
จะเห็นว่าเมื่อคนกาซาล้มตายมากขึ้นและเกือบครึ่งเป็นเด็ก
ประเด็นที่นานาชาติให้ความสำคัญคือ “มนุษยธรรม” เลขาธิการสหประชาชาติใช้คำนี้เสมอ เป็นเหตุผลขอให้หยุดยิง
ตรรกะที่ผิดพลาดของรัฐบาลสหรัฐ:
ณ
ตอนนี้รัฐบาลไบเดนยังยืนยันสนับสนุนอิสราเอลทำสงครามต่อไป แม้เตือนให้ระวังพลเรือน
หลักฐานสำคัญชี้ข้อผิดพลาดของรัฐบาลสหรัฐคือเมื่อเลขาธิการสหประชาชาติใช้อำนาจของตนตามกฎบัตรสหประชาชาติ มาตรา 99 เรียกร้องให้คณะมนตรีความมั่นคงมีมติสั่งให้หยุดยิงในกาซาด้วยเหตุผลมนุษยธรรม แต่รัฐบาลไบเดนวีโตข้อมติ
สหรัฐเพียงเสียงเดียว (ในฐานะสมาชิกถาวรคณะมนตรีความมั่นคง) จึงล้มร่างมติหยุดยิงหักล้างอำนาจของเลขาธิการสหประชาชาติ
เกิดข้อวิพากษ์ว่ารัฐบาลสหรัฐที่พยายามอ้างว่าเป็นผู้นำโลกเสรี
นิยมประชาธิปไตย ยึดมั่นสิทธิมนุษยชนนี่แหละ “ขาดมนุษยธรรม” ส่งเสริมให้อิสราเอลละเมิดสิทธิมนุษยชน
ละเมิดกฎหมายระหว่างประเทศ
ไม่กี่วันต่อมา
แอนโทนี บลิงเคน (Antony Blinken) รัฐมนตรีกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐกล่าวว่าอิสราเอลคือผู้ตัดสินใจว่าจะยุติสงครามเมื่อไร
ไม่ใช่สหรัฐ
รัฐมนตรีบลิงเคนพูดถูกครึ่งหนึ่ง
แต่ที่ไม่เอ่ยคือสหรัฐสามารถร่วมกับสมาชิกคณะมนตรีความมั่นคงออกมติสั่งให้หยุดยิงได้
แต่รัฐบาลไบเดนไม่ทำ เกิดคำถามว่าเพราะรัฐบาลไบเดนยังสนับสนุนให้ทำสงครามต่อใช่หรือไม่
ล่าสุดประธานาธิบดีไบเดนยอมรับว่าแรงสนับสนุนอิสราเอลลดลงเมื่อการทิ้งระเบิดปูพรมทำให้พลเรือนล้มตายจำนวนมาก
ผมคิดว่ารัฐบาลอิสราเอลต้องตัดสินใจเปลี่ยนวิธีแล้ว
แม้จะพูดเช่นนี้แต่ยังยืนยันจุดยืนล้มมติหยุดยิง นี่คือการพูดแบบนักการทูตอย่างหนึ่ง
ด้านเนทันยาฮูกล่าวว่าไม่มีอะไรหยุดเราได้
เราจะรบต่อจนเสร็จสิ้น จนกว่าจะชนะ จนกว่าฮามาสถูกทำลายราบ
ท่ามกลางแรงกดดันจากนานาชาติที่แรงขึ้นทุกที
ที่ประชุมสมัชชาสหประชาชาติมีมติให้หยุดยิง มีเพียง 10 ประเทศเท่านั้นที่คัดค้านการหยุดยิงเพื่อมนุษยธรรม
สงครามดำเนินต่อไป
ตรรกะที่ผิดพลาดนำความปราชัย:
รัฐบาลไบเดนกับเนทันยาฮูรู้ตัวว่าพวกตนโดดเดี่ยวมากแค่ไหนในเวทีโลก
กำลังพ่ายแพ้ในสมรภูมิการเมืองระหว่างประเทศ หากสหรัฐกับอิสราเอลยังดื้อดึง ทำสงครามยืดยาวออกไป
การแบ่งโลกออกเป็น 2 ฝ่ายจะยิ่งเด่นชัดมากขึ้น ไม่ว่าจะประกาศดังๆ หรือกระซิบเบาๆ
รัฐบาลเนทันยาฮูกับไบเดนจะถูกประณามว่า “ละเมิดกฎหมายระหว่างประเทศ” “ละเมิดสิทธิมนุษยชน”
“ขาดมนุษยธรรม” แน่นอนว่าไม่มีประเทศใดรวมทั้งองค์การสหประชาชาติสามารถหยุดรัฐบาล 2
ประเทศนี้ แต่พึงตระหนักว่าการแบ่งโลกออกเป็น 2 ฝ่ายเกิดขึ้นเพราะนโยบายกับตรรกะที่ตนยึดถือนั่นเอง
ถ้าใช้ความคิดอย่างเป็นเหตุเป็นผลควรนั่งทบทวนอีกรอบว่าอย่างไรจึงตอบสนองผลประโยชน์แห่งชาติมากกว่า
เป็นไปได้หรือไม่ว่าปัญหาอยู่ที่ตัวท่านนายกฯ เนทันยาฮูนั่นเอง
----------------------------
1. Benjamin
Netanyahu vows to ‘save our country’ as Israel battles ‘barbarians’ in Gaza.
(2023, October 28). New York Post. Retrieved from https://nypost.com/2023/10/28/news/benjamin-netanyahu-vows-to-save-israel-as-it-battles-in-gaza/
2. Biden says Netanyahu ‘has to change,’ accuses
Israel of ‘indiscriminate bombing’. (2023, December 12). Politico. Retrieved
from https://www.politico.com/news/2023/12/12/biden-says-netanyahu-has-to-change-00131399
3. Israel is acting against international
law, says Borrell. (2023, October 10). Politico. Retrieved from https://www.politico.eu/article/israel-acting-against-international-law-says-eu-diplomat-josep-borrell/
4. Israel, not US, will decide when to end war against Hamas,
Blinken says. (2023, December 11). Times of Israel. Retrieved from https://www.timesofisrael.com/israel-not-us-will-decide-when-to-end-war-against-hamas-blinken-says/
5. Israel-Hamas war: UN chief urges
'immediate' Gaza cease-fire. (2023, October 25). DW. Retrieved from
https://www.dw.com/en/israel-hamas-war-un-chief-urges-immediate-gaza-cease-fire/live-67190975
6. Israel-Hamas war: 'Nothing will stop us,' Netanyahu says.
(2023, December 14). DW. Retrieved from https://www.dw.com/en/israel-hamas-war-nothing-will-stop-us-netanyahu-says/live-67716305
7. Netanyahu: Gazans’ should flee, IDF to
revenge ‘black day’. (2023, October 7). The Jerusalem Post. Retrieved
from https://www.jpost.com/arab-israeli-conflict/article-763179
8. OIC slams Israeli military aggression
against Palestinians. (2023, October 9). New Strait Times. Retrieved
from https://www.nst.com.my/world/world/2023/10/964680/oic-slams-israeli-military-aggression-against-palestinians#google_vignette
9. Russia's Lavrov says collective
punishment of Palestinians in Gaza unacceptable. (2023, December 11). The
National News. Retrieved from https://www.thenationalnews.com/mena/palestine-israel/2023/12/11/russias-lavrov-says-collective-punishment-of-palestinians-in-gaza-unacceptable/
10. UN chief Guterres calls on Security Council to
declare ceasefire in Gaza. (2023, December 6). Arab News. Retrieved from
https://www.arabnews.com/node/2421476/middle-east
-----------------