อิสราเอลแพ้หรือชนะในสงครามฮามาส-อิสราเอล
บางคนอาจคิดว่าหากอิสราเอลยึดกาซา จัดการพวกฮามาสได้ถือว่าอิสราเอลชนะ ความจริงแล้วจะแพ้หรือชนะขึ้นกับ “เป้าหมาย” ที่ต้องการ
หลังทำสงครามได้ 2
เดือนเศษอิสราเอลประกาศควบคุมตอนเหนือกาซาและเตรียมปฏิบัติการต่อในทางตอนใต้
แม้เผชิญแรงต้านรอบทิศทั้งการโจมตีโดยฮิซบอลเลาะห์ทางเหนือ
ฮูตีในเยเมนที่มีข่าวว่ายิงขีปนาวุธเข้าใส่
การสูญเสียทางทหารและเศรษฐกิจที่หนักหนา แรงงานต่างชาตินับแสนทิ้งงาน
แรงกดดันจากหลายประเทศรวมทั้งองค์การสหประชาชาติ
มีผู้ตีความว่าใครแพ้ชนะ
บทความนี้นำเสนอมุมมองทั้งแบบที่อิสราเอลชนะกับแบบที่ฮามาสชนะ ดังนี้
อิสราเอลชนะ:
การกวาดล้างฮามาสยังเดินหน้าต่อไปทั้งยังประกาศจะควบคุมกาซาอย่างไม่มีกำหนดเพื่อรักษาความสงบเรียบร้อย
ป้องกันก่อการร้าย อีกทั้งไม่ยินดีให้ทหารต่างชาติเข้าดูแลกาซา (เลขาธิการสหประชาชาติเสนอสหรัฐกับอาหรับร่วมกันดูแล)
ชี้ว่าทหารอิสราเอลเท่านั้นที่สามารถทำได้จริง ให้กาซาเป็นเขตปลอดอาวุธ
(ฝ่ายต่อต้าน) ทั้งหมดนี้นายกฯ เนทันยาฮูกล่าวว่าไม่มีแผนยึดครองฉนวนกาซา แต่นักวิเคราะห์บางคนตีความว่าคือการควบคุมกำกับกาซา
แม้อนาคตมีผู้ปกครองพลเรือนของตนเอง ไม่ได้หมายความว่าทหารอิสราเอลจะไม่อยู่ต่อ
หากทำได้เช่นนั้นจริงอาจเข้า
“แผนกินทีคำ” ของรัฐบาลอิสราเอล
ไม่ว่านานาชาติประณามอย่างไร
กดดันแค่ไหน ข้อสรุปบรรทัดสุดท้ายคืออิสราเอลดำรงอยู่ต่อไป
พร้อมขยายดินแดนมากขึ้นสอดคล้องยุทธศาสตร์ของไซออนิสต์
อิสราเอลแพ้:
บางคนอาจคิดว่าหากอิสราเอลยึดกาซา
จัดการพวกฮามาสได้ระดับหนึ่งก็ถือว่าอิสราเอลชนะ ความจริงแล้วจะแพ้หรือชนะขึ้นกับ
“เป้าหมาย” ที่ต้องการ
ถ้าสงครามรอบนี้ส่งผลให้อิสราเอลเป็นที่จงเกลียดจงชังนับว่าฮามาสบรรลุเป้าหมาย
ที่เห็นชัดคือกลุ่มประเทศอาหรับแสดงท่าทีต่อต้านอิสราเอล สามารถหยุดรัฐบาลซาอุฯ
ที่มีข่าวว่ากำลังจะปรับความสัมพันธ์กับอิสราเอล
ยอมรับความเป็นรัฐอธิปไตยอิสราเอลอย่างเป็นทางการ
เช่นนี้นับว่าฮามาสได้ทำบางอย่างที่สำคัญมาก
ไม่ว่าจะประกาศเป้าหมายนี้อย่างชัดเจนหรือไม่ก็ตาม ขยายความดังนี้ ...
ในบรรดาประเทศทั้งหลายกลุ่มชาติมุสลิมแสดงจุดยืนต่อต้านอิสราเอลแรงที่สุด
ทันทีที่เริ่มสงครามรัฐบาลอาหรับต่างพากันแสดงจุดยืนต่อต้านอิสราเอล ซาอุฯ
ระงับเจรจาปรับสัมพันธ์กับอิสราเอล องค์การความร่วมมืออิสลาม (Organisation
of Islamic Cooperation: OIC) แถลงว่าอิสราเอลเป็นฝ่ายรุกรานก่อน
ยึดครองดินแดนปาเลสไตน์ ละเมิดข้อมติสหประชาชาติ ทำร้ายชาวปาเลสไตน์ทุกวัน
เหล่านี้คือต้นเหตุของการสู้รบระหว่างฮามาสกับอิสราเอลในขณะนี้ เรียกร้องคณะมนตรีความมั่นคงสหประชาชาติทำหน้าที่หยุดอิสราเอล
ปกป้องปาเลสไตน์ ปฏิบัติตามข้อมติต่างๆ
รอบนี้สันนิบาตอาหรับ (Arab League) กับองค์การความร่วมมืออิสลาม
(OIC) ร่วมกันมีมติคว่ำบาตรห้ามขายอาวุธกับกระสุนแก่อิสราเอล
เพราะอาวุธเหล่านี้นำไปใช้สังหารพลเรือน ทำลายบ้านเรือน โรงพยาบาล โรงเรียน
สถานที่ศาสนา
แต่เรื่องขอให้คณะมนตรีความมั่นคงมีข้อมติหยุดยิงกับการคว่ำบาตรขายอาวุธแก่อิสราเอลยังไม่สำเร็จ
รัฐบาลไบเดนกับพวกยังคัดค้าน สหรัฐส่งอาวุธให้อิสราเอลต่อเนื่อง
ล่าสุดอันโตนิโอ
กูเตเรส (Antonio Guterres) เลขาธิการสหประชาชาติใช้อำนาจของตนตามกฎบัตรสหประชาชาติ
มาตรา 99 เรียกร้องให้คณะมนตรีความมั่นคงมีมติสั่งให้หยุดยิงในกาซา
ด้วยเหตุผลมนุษยธรรม หลังคนกาซาล้มตายแล้วกว่า 15,000 ราย
ในจำนวนนี้กว่า 40% เป็นเด็ก
ตึกรามบ้านช่องกว่าครึ่งโดนทำลาย ชีวิตความเป็นอยู่ของชาวกาซา 2 ล้านคนย่ำแย่มาก แต่รัฐบาลไบเดนใช้สิทธิวีโตอีกครั้ง
จากสงครามฮามาส-อิสราเอลสู่แนวรบความเกลียดชัง:
ถ้ามองให้ไกลกว่าการยิงจรวดการทิ้งระเบิด ฯลฯ อีกสมรภูมิที่ใหญ่กว่ากว้างขวางกว่าคือสนามแห่งความจงเกลียดจงชังได้ลุกลามใหญ่โต
ขยายตัวเร็วกว่าการสู้ด้วยอาวุธนับร้อยนับพันเท่า
กระแสต่อต้านยิวหรือต่อต้านคนเชื้อสายยิวมีมานานแล้ว
ถูกเอ่ยถึงเป็นระยะผ่านเรื่องราวต่างๆ เช่น คนยิวมีบทบาทอิทธิพลในรัฐบาลสหรัฐ ตีความว่าถ้ามีเชื้อสายยิวแม้แต่เพียงเล็กน้อยคนผู้นั้นจะทุ่มเทเพื่ออิสราเอล
บางคนตีความว่าคนนั้นคือพวกไซออนิสต์ (โดยมักขาดการพิสูจน์ว่าจริงเท็จเพียงใด
คนอเมริกันบางคนผู้มีเชื้อสายยิวอาจสนับสนุนบางนโยบายที่เป็นผลดีต่ออิสราเอล
แต่ไม่ได้สนับสนุนเสมอไปและด้วยเหตุผลอื่นที่ไม่ใช่เพื่อไซออนิสต์)
รวมความแล้วกระแสต่อต้านยิวมีจริงและถูกปลุกเร้าเป็นระยะ
สงครามฮามาส-อิสราเอลเป็นอีกครั้งที่กระตุ้นไฟความเกลียดชังยิวอย่างรุนแรง
และน่าจะช่วยรักษากระแสต้านยิวนี้ได้อีกหลายปี ยิ่งสงครามยืดยาวเพียงไร ตัวเลขผู้บาดเจ็บล้มตายมากขึ้นๆ
ยิ่งโหมไฟเกลียดชังยิว
ความเกลียดชังบางครั้งทำร้ายร่างกาย ทางการอียูเตือนให้ระวังเหตุก่อการร้ายโดยเฉพาะช่วงคริสต์มาส
เชื่อมโยงกับสงครามฮามาส-อิสราเอลในขณะนี้ 2
เดือนที่ผ่านมาเหตุร้ายอันเนื่องจากความเกลียดชังยิวเพิ่มขึ้นมากในหลายประเทศ
จึงเกรงว่าผู้ก่อการร้าย (อาจเป็นพลเมืองยุโรปนั่นเอง) จะใช้จังหวะนี้ก่อเหตุ
ความเกลียดชังนำสู่ความรุนแรงทุกรูปแบบ ทำลายล้างสรรพสิ่ง
เริ่มจากทำลายจิตใจตนเอง พาตัวฝังอยู่ในความเกลียดชัง ขาดสันติสุข วงการแพทย์ระบุชัดมีผลต่อสุขภาพ
ยิ่งเกลียดหนักยิ่งทำลายตนเอง กระทบต่อครอบครัวคนรอบข้าง
ในมุมมองรอบด้าน เป็นความเข้าใจผิดแน่นอนถ้าคิดว่ามุสลิมทุกคนสนับสนุนฮามาสบุกอิสราเอล
ความจริงคือมีมุสลิมที่ไม่เห็นด้วยกับวิธีของฮามาส เพียงแต่โดยทั่วไปสงสารเห็นใจที่ชาวปาเลสไตน์โดนกดขี่ข่มเหง
รับความทุกข์ยากไม่จบสิ้น
เป็นความเข้าใจผิดอีกเช่นกันถ้าคิดว่ามีแต่มุสลิมเท่านั้นที่อยู่ข้างฮามาส
ปาเลสไตน์ ความจริงมนุษย์มีความคิดเห็นหลากหลาย
ยิ่งในหมู่ชาติเสรีประชาธิปไตยยิ่งหลากหลาย คนอเมรกัน
คนยุโรปที่สนับสนุนฮามาสก็มี ต่อต้านรัฐบาลตัวเองที่สนับสนุนอิสราเอล
ลักษณะดังกล่าวปรากฎในข่าวตามสื่อต่างๆ มากมายและเป็นเช่นนี้มานาน
ดังนั้นอย่าเหมารวม
อย่าแยกข้างว่าถ้าไม่ใช้มุสลิมจะเข้าข้างอิสราเอล และถ้าเป็นมุสลิมจะสนับสนุนฮามาส
อนาคต:
นอกจากกวาดล้างพวกฮามาสแล้วโจทย์ที่ใหญ่กว่าคือทำอย่างไรให้กาซาสงบ
ประชาชนอยู่ดีมีสุข หากคนกาซาสงบสุขตามอัตภาพ ความรุนแรงจะลดลงไปเอง
คนที่ร่วมมือกับฮามาส (หรือจะชื่อกลุ่มอะไรก็แล้วแต่ที่ต่อต้านอิสราเอล) จะถอยห่าง
ต้องตระหนักว่าพวกรัฐอาหรับยังคืนดีกับอิสราเอลได้
ในระยะยาวจึงขึ้นกับว่าในหมู่ประชาชนทั้งมุสลิมกับไม่ใช่มุสลิมจะยังคงต่อต้านยิวหรือไม่
หากอนาคตมุสลิมรุ่นใหม่ถอยห่างจากเรื่องเหล่านี้ที่มักผูกโยงกับศาสนา
คนทั่วโลกให้ความสนใจกับเรื่องของตัวเอง เรื่องปากท้อง ตอบสนองความสุขส่วนตัว
กระแสต่อต้านยิวจะถูกลดความสำคัญ (ยังเห็นใจปาเลสไตน์แต่ไม่ให้ความสนใจมาก) เพราะแค่เรื่องปากท้องตัวเองก็ต้องดิ้นรนทุ่มเทเต็มเวลา
กระแสต้านยิวจะถูกปลุกให้ตื่นได้เพียงช่วงระยะหนึ่งแล้วหดหายไป
ลดความสำคัญอย่างรวดเร็วไม่ต่างจากประเด็นอื่นๆ ในโลก
ใครแพ้หรือชนะขึ้นกับการนิยาม การบรรลุวัตถุประสงค์ที่วางไว้
อาจแพ้หรือชนะทั้งคู่ก็เป็นได้
ถ้าเป้าหมายของอิสราเอลคือรื้อถอนอำนาจปกครองกาซาของฮามาส
ทำลายศัตรูที่จ่อหน้าบ้าน ได้กำกับควบคุมฉนวนกาซา เช่นนี้อาจนับว่าอิสราเอลชนะ
ด้านฮามาสถ้าสงครามนี้ทำให้นานาชาติจงเกลียดจงชังอิสราเอลและยิวที่อยู่ในประเทศต่างๆ
สามารถระงับการปรับสัมพันธ์กับชาติอาหรับ โดยเฉพาะซาอุฯ
สามารถเชิดชูบทบาทอิหร่านที่สนับสนุนการต่อต้านอิสราเอลอย่างเข้มแข็งเรื่อยมา
เช่นนี้นับว่าฮามาสชนะเช่นกัน
ที่น่าเห็นใจคือพลเรือนที่ต้องบาดเจ็บเสียชีวิตนับหมื่น พวกที่ยังมีชีวิต 2
ล้านคนต้องทนทุกข์สาหัสต่อไป
------------------------
บรรณานุกรม :
1. EU
warns of ‘huge risk’ of terrorist attacks before Christmas. (2023, December 1).
politico. Retrieved from https://www.politico.eu/article/eu-warn-huge-risk-terrorist-attacks-ahead-christmas-ylva-johansson/
2. Netanyahu says Israel will retain
open-ended control of security in Gaza long after war with Hamas. (2023,
December 6). AP. Retrieved from
https://apnews.com/article/israel-hamas-war-news-12-05-2023-8f171da297b565e28156b88d1fc250b1
3. OIC slams Israeli military aggression
against Palestinians. (2023, October 9). New Strait Times. Retrieved
from
https://www.nst.com.my/world/world/2023/10/964680/oic-slams-israeli-military-aggression-against-palestinians#google_vignette
4. Saudis said to tell US they are halting
normalization talks with Israel. (2023, October 14). Times of Israel. Retrieved from
https://www.timesofisrael.com/liveblog_entry/saudis-said-to-tell-us-they-are-halting-normalization-talks-with-israel/
5. UN chief Guterres calls on Security Council to
declare ceasefire in Gaza. (2023, December 6). Arab News. Retrieved from
https://www.arabnews.com/node/2421476/middle-east
-----------------