Global Risk Report 2023: มหันตภัยโลก
ความเป็นไปของธรรมชาติสัมพันธ์กับความมั่นคงแห่งชาติ การหยุดโลกร้อนกับการอยู่เย็นเป็นสุขเป็นเรื่องเดียวกัน
ทุกปีเดือนมกราคมคนดังคนเก่งคนมีอำนาจของโลกหลายพันคนจะไปรวมตัวที่งาน World
Economic Forum ณ เมืองดาวอส สวิตเซอร์แลนด์ Global Risk
Report เป็นรายงานที่จัดทำขึ้นสำหรับงานดังกล่าว ฉบับล่าสุด Global
Risk Report 2023 มีสาระสำคัญดังนี้
วิกฤตวันนี้ 2023-2025 :
5
วิกฤตร้ายแรงในยามนี้และในระยะสั้นได้แก่ วิกฤตอุปทานพลังงาน วิกฤตค่าครองชีพ เงินเฟ้อพุ่ง วิกฤตอุปทานอาหาร การโจมตีโครงสร้างพื้นฐานสำคัญทางไซเบอร์
ปัญหารองลงมา เช่น ลดปล่อยก๊าซเรือนกระจกเป็นศูนย์ไม่เป็นไปตามเป้า การใช้นโยบายเศรษฐกิจเป็นอาวุธ
สิทธิมนุษยชนแย่ลง วิกฤตหนี้ ปัญหาห่วงโซ่อุปทานกลุ่ม non-food ผลกระทบจากสงครามยูเครน ภูมิรัฐศาสตร์โลกเปลี่ยนแปลง
ความขัดแย้งเชิงอุดมการณ์ทวีความรุนแรง
วิกฤตค่าครองชีพ
: ผลจากโรคระบาดโควิด-19 เงินเฟ้อพุ่ง หมวดอาหารกับพลังงานแพงขึ้นอย่างรวดเร็ว
ราว 30 ประเทศระงับส่งออกสินค้าบางตัวเพื่อสกัดการขึ้นราคาภายในประเทศ
ปัญหาสินค้าแพงจะหนักสุดในอีก 2 ปีข้างหน้าก่อนคลายตัว อาจเป็นต้นเหตุความวุ่นวายในบางประเทศ การเมืองไม่มั่นคง หากราคาพลังงานกับอาหารไม่ลดลงจะกดดันให้คงอัตราดอกเบี้ยระดับสูงอีกนาน
กระทบเป็นลูกโซ่ต่อระบบเศรษฐกิจ หนี้สินครัวเรือนจะสูงขึ้นต่อไป
คนเกษียณอายุที่กินบำนาญจะพบว่าค่าเงินร่อยหรอ
ปีที่แล้ว (2022) มีการชุมนุมประท้วงน้ำมันแพงใน 92
ประเทศ บางกรณีรุนแรงมีผู้เสียชีวิต บางประเทศกระทบต่อความมั่นคงภายในรุนแรง
เช่น โซมาเลีย ซูดาน ซูดานใต้และซีเรีย ส่วนประเทศที่การเมืองไร้เสถียรภาพเพราะอาหารแพง
หนี้ท่วมประเทศ ได้แก่ ตูนิเซีย กานา ปากีสถาน อียิปต์และเลบานอน
เศรษฐกิจขาลง
: ทุกประเทศพยายามบริหารจัดการเศรษฐกิจ ภาคเอกชนดิ้นรนหาทางสู้
สถานการณ์จึงดีขึ้นแต่อาจเข้าสู่ภาวะเศรษฐกิจอ่อนแอนาน เงินเฟ้อทรงตัวในระดับสูง
สหรัฐเงินเฟ้อสูงสุดที่ 9% แต่บางประเทศเช่นอาร์เจนตินากับตุรเคียไปถึง
80% IMF คาดว่าเงินเฟ้อโลกปีนี้ (2023)
อยู่ที่ 6.5% ปีหน้า 4.1%
หนี้สาธารณะ
: คาดว่าปีนี้ 1 ใน 3 ของประเทศทั่วโลกจะเผชิญภาวะเศรษฐกิจถดถอยเชิงเทคนิค
การทำให้เศรษฐกิจขยายตัวเป็นงานหนัก เศรษฐกิจหลายประเทศจะหยุดชะงัก
หนี้สาธารณะจะเป็นปัญหาระดับโลก ศรีลังกาเป็นตัวอย่างที่เลวร้ายจนรัฐบาลกับระบบเศรษฐกิจล่มสลาย
คาดว่า 2 ปีหน้าจะมีประเทศเศรษฐกิจเกิดใหม่วิกฤตตามแบบศรีลังกา
ภูมิเศรษฐศาสตร์
: การเผชิญหน้าทางภูมิเศรษฐศาสตร์จะดำเนินต่อเนื่องอีกอย่างน้อย
2 ปี เกิดสงครามการค้า เอเชียตะวันออกกับเอเชียตะวันออกเฉียงใต้เป็นภูมิภาคที่น่าจับตา
ต้องระวังสงครามเศรษฐกิจขยายตัว กีดกันการค้าด้วยเหตุผลความมั่นคง ความเป็นพันธมิตรการค้าจะอ่อนแอลงเพราะจะปกป้องเศรษฐกิจตัวเอง
ความตึงเครียดจากภูมิรัฐศาสตร์และการให้ความสำคัญกับความมั่นคงล้วนมีค่าใช้จ่าย
ยุทธศาสตร์มุ่งค้าขายกับพวกเดียวกันกระทบต่อการค้าการลงทุน การกีดกันเทคโนโลยี
ระบบการเงิน การเกษตร การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ฯลฯ ทุกอย่างมีผล ราคาสินค้าบริการจะสูงขึ้น
การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ
: แม้โลกจะพยายามแก้ปัญหากว่า 30 ปีแล้ว
ความพยายามขับเคลื่อนยังต้องทำต่อไป เรื่องแรกที่ต้องทำคือชี้ว่าโลกตกอยู่ในความเสี่ยงมากแค่ไหน
ทุกวันนี้ระดับก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์
มีเทนและไนตรัสออกไซด์ล้วนเพิ่มสูงสุดเป็นประวัติการณ์
ที่ตั้งเป้าว่าจะไม่ให้อุณภูมิโลกสูงขึ้น 1.5 องศาเซลเซียสจึงไม่น่าจะทำได้
การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศเป็นภัยคุกคามระดับโลกและโลกเตรียมตัวรับมือน้อยที่สุดเมื่อเทียบกับความเสี่ยงอื่นๆ นักวิทยาศาสตร์กับฝ่ายการเมืองตกลงกันไม่ได้ว่าจะเอาอย่างไร ความเสียหายที่เกิดจากโลกร้อนเป็นแรงกดดันทางบวกดังจะเห็นว่าหลายประเทศเน้นใช้พลังงานสะอาด
รวมความแล้วแม้หลายประเทศมีนโยบายแก้ปัญหาโลกร้อนแต่โดยรวมยังทำน้อยเกินไป ความต้องการทางเศรษฐกิจการเมืองระยะสั้นยังเป็นแรงชี้นำสำคัญที่สุด
ในอีกปีสองปีข้างหน้าสภาพอากาศแปรปรวนรุนแรงจะเป็นความเสี่ยงอันดับ
2 ทั้งน้ำท่วม คลื่นความร้อนสูง ภัยแล้งจะพบถี่ขึ้นรุนแรงขึ้น
การปรับตัวเป็นเรื่องเร่งด่วนเพื่อลดความสูญเสีย รัฐควรเพิ่มงบประมาณเพื่อการปรับตัวดังกล่าว
ความล่าช้าจะยิ่งเพิ่มต้นทุน
สังคมแตกแยกแบ่งฝักแบ่งฝ่าย
: ไม่ความเท่าเทียมเป็นความท้าทายทั้งต่อระบบประชาธิปไตยกับอำนาจนิยม
ความไม่เท่าเทียมทางเศรษฐกิจกับความไม่เท่าเทียมทางสังคมเป็นประเด็นการเมือง ความไม่เท่าเทียมรูปแบบอื่นๆ
อีก เช่น ความไม่เท่าเทียมเพราะเป็นต่างด้าวอพยพ ความไม่เท่าเทียมทางเพศ สิทธิอนามัยเจริญพันธุ์
เชื้อชาติ ศาสนา เหล่านี้กำลังเป็นประเด็นทั่วโลก ก่อความวุ่นวายไม่จบสิ้น
ข่าวสารกับข่าวปลอม
: สังคมแตกแยกเป็นขั้วมักมีปัญหาข่าวปลอมระบาด ผู้คนไม่เชื่อถือข้อมูล
ไม่เชื่อถือระบบการเมือง กลุ่มสุดโต่งหัวรุนแรงเกิดขึ้นพร้อมข่าวปลอม
พรรคการเมืองทั้งแบบขวาจัดกับซ้ายจัดได้รับความนิยม เทคโนโลยีสมัยใหม่ช่วยผลิตและกระจายข่าวปลอม
สร้างเรื่องเท็จด้วยการตัดต่อภาพและเสียงอย่างแนบเนียน
บางกรณีสังคมแตกแยกเพราะการแข่งขันทางการเมืองโดยแท้
พวกชนชั้นนำสร้างความแตกแยกนี้ เกิดเป็นปมที่ยากจะแก้ไข ภาวะเศรษฐกิจอ่อนแอที่จะเกิดขึ้นในอีกไม่กี่ปีข้างหน้าจะส่งเสริมให้แตกแยก
ต่างฝ่ายต่างมีกลุ่มหัวรุนแรงของตน ก่อความรุนแรงทางการเมือง อาชญากรรมที่มาจากความเกลียดชัง
(hate crimes) ขั้นรุนแรงที่สุดคือเกิดสงครามกลางเมือง
นอกจากมองระยะสั้น Global Risk Report ยังมองไปถึงปี
2033 ระบุความเสี่ยงสำคัญ 10 ประการ ได้แก่ ไม่สามารถบรรเทาการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ
(ไม่สามารถหยุดโลกร้อน) ไม่สามารถปรับตัวตามการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ
เกิดภัยธรรมชาติและสภาพภูมิอากาศแปรปรวนรุนแรง สูญเสียความหลากหลายทางชีวภาพ
ผู้คนอพยพย้ายถิ่นโดยไม่สมัครใจ (สังเกตว่าความเสี่ยงร้ายแรง 5 ข้อแรกเป็นเรื่องโลกร้อนทั้งสิ้น)
ต่อจาก
5 ข้อแรกคือวิกฤตทรัพยากรธรรมชาติ สังคมแตกแยกแบ่งฝักแบ่งฝ่าย
อาชญากรรมไซเบอร์ระบาด การเผชิญหน้าทางภูมิเศรษฐศาสตร์ สิ่งแวดล้อมถูกทำลายเป็นวงกว้าง
หัวข้อนี้ให้ความเข้าใจว่าในอีก
10 ข้างหน้าภาวะโลกร้อนเป็นความเสี่ยงอันดับแรก และไม่คิดว่าโลกจะแก้ไขได้ดี
ความสัมพันธ์แบบองค์รวม :
รายงานของ World Economic Forum ฉบับนี้สรุปภาพความสัมพันธ์ผลกระทบแบบองค์รวม
ภาพที่นำเสนอแสดงข้อสรุปบางส่วน ถ้าอธิบายโดยเอาสิ่งแวดล้อมเป็นตัวตั้ง วงกลมสีเขียว
6 ก้อนทางขวามือคือประเด็นสิ่งแวดล้อม ตั้งแต่สิ่งแวดล้อมถูกทำลาย
ไม่สามารถลดการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ สูญเสียความหลากหลายทางชีวภาพ ฯลฯ ผลลัพธ์สุดท้ายคือผู้คนจะอพยพออกจากพื้นที่
(วงกลมสีแดงตรงกลาง - เนื่องจากอยู่ไม่ได้เพราะภัยพิบัติหรืออดอยาก) การอพยพย้ายถิ่นจำนวนมากส่งผลกระทบหลายด้าน
ที่สำคัญคือเกิดความขัดแย้งระหว่างประเทศ (เมื่อผู้อพยพข้ามแดน)
กระทบห่วงโซ่อุปทาน (จินตนาการว่าผู้คนจากเมืองหลวงกับจังหวัดโดยรอบย้ายออกจากพื้นที่
เกิดผลกระทบตั้งแต่ระดับประเทศจนถึงระดับโลก) ร้ายแรงที่สุดคือรัฐล่มสลาย
(วงกลมสีส้มใหญ่ทางซ้ายสุด)
แผนภาพนี้ให้ความเข้าใจว่าทุกสิ่งสัมพันธ์กัน ลำพังไม่สามารถหยุดโลกร้อน (ถ้าเอ่ยเรื่องนี้ข้อเดียว
ยังไม่พูดถึงความเสี่ยงอื่นๆ) จะกระทบทั้งประเทศทั้งโลกตั้งแต่เบาจนถึงหนัก
โลกกำลังเผชิญวิกฤตพร้อมกันหลายอย่าง
คาดว่าปี 2030 จะมีประชากร 8,500 ล้านคน
ต้องการอาหาร น้ำ แร่สำคัญหลายชนิดจำนวนมาก งานวิจัยชิ้นหนึ่งชี้ว่าอุปสงค์กับอุปทานน้ำต่างกันถึง
40% ความต้องการพลังงานหมุนเวียนจำนวนมหาศาลทำให้แร่บางอย่างเป็นของหายาก
Global
Risk Report 2023 ชี้ให้ตระหนักถึงอนาคตที่ไม่ต้องรอนานนัก ความเป็นไปของธรรมชาติสัมพันธ์กับเศรษฐกิจสังคมการเมือง
ความมั่นคงแห่งชาติ การหยุดโลกร้อนกับการอยู่เย็นเป็นสุขเป็นเรื่องเดียวกัน