ยุทธศาสตร์ความมั่นคงแห่งชาติสหรัฐ 2022 (1)
นับจากนี้จะไม่แบ่งนโยบายต่างประเทศกับในประเทศอีกต่อไป หากจะให้สหรัฐมั่งคั่งต้องกำกับระเบียบระหว่างประเทศให้สหรัฐได้ประโยชน์สูงสุด
ประธานาธิบดีโจ
ไบเดน (Joe Beiden) เกริ่นนำว่า ณ ขณะนี้โลกกำลังแข่งขันจัดระเบียบโลก
จะต้องรักษาให้สหรัฐเป็นผู้นำต่อไป ให้ชาติพันธมิตรและหุ้นส่วนเดินตามจังหวะก้าวไปพร้อมๆ
กับสหรัฐ จีนเป็นความท้าทายที่รัฐบาลให้ความสำคัญมากที่สุดและมีผลต่อระบบโลก
พวกเผด็จการ (Autocrats) กำลังบ่อนทำลายประชาธิปไตย
นำเสนอรูปแบบการปกครองที่กดขี่คนในชาติและนอกประเทศ สหรัฐเป็นประเทศที่แข็งแกร่งเพราะภายในเข้มแข็ง
มีกองทัพไร้เทียมทาน รัฐบาลรักษาสิ่งเหล่านี้ได้เพราะเรายึดระบอบประชาธิปไตย
และจะทำหน้าที่รักษาประชาธิปไตยทั่วทุกมุมโลก บทความนำเสนอสาระสำคัญยุทธศาสตร์ความมั่นคงแห่งชาติสหรัฐฉบับล่าสุด
“National Security Strategy October 2022” ดังนี้
การแข่งขันระหว่างประชาธิปไตยกับเผด็จการ :
ห้วงทศวรรษนี้ชาติมหาอำนาจกำลังแข่งขันกัน
มีผลต่อระเบียบการเมืองโลกในอนาคต มีทั้งโอกาสและภัยคุกคาม อีกทั้งมีภัยคุกคามโลกอย่างการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ
หลักพื้นฐานที่รัฐบาลสหรัฐยึดมั่นคือการตัดสินใจด้วยตัวเอง
บูรณภาพแห่งดินแดนและการเมืองที่เป็นอิสระต่อกัน เศรษฐกิจโลกที่เปิดโอกาสแก่ทุกคน
ในขณะเดียวกันทุกคนในโลกต่างเผชิญความท้าทายของตนเองและความท้าทายข้ามพรมแดน
เช่น การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ โรคระบาด ภัยก่อการร้าย ความมั่นคงทางอาหาร
เงินเฟ้อ ทุกเรื่องล้วนสำคัญระดับประเทศกับระดับโลก เป็นเรื่องที่นานาชาติต้องร่วมมือกันพร้อมกับตระหนักว่าทุกประเทศแข่งขันกันด้วย
วัตถุประสงค์ของยุทธศาสตร์ความมั่นคงแห่งชาติคือปกป้องคุ้มครองคนอเมริกัน
ให้มั่งคั่งร่ำรวยกว่าเดิม ปกป้องประชาธิปไตยอันเป็นรากฐานวิถีชีวิตคนอเมริกัน
ประเทศอื่นๆ ปกป้องผลประโยชน์ของเขาเช่นกันและบางครั้งต้องแข่งกับเรา
อเมริกาต้องมีบทบาทในโลกมากกว่านี้ ตอนนี้โลกถูกแบ่งแยกไร้เสถียรภาพ
ชาติมหาอำนาจเสี่ยงขัดแย้งมากขึ้น ประชาธิปไตยกับเผด็จการกำลังแข่งขันกันว่าระบอบใดดีกว่า
การแข่งขันทางเทคโนโลยีที่จะมีผลต่อระบบความมั่นคงและเศรษฐกิจ
ทุกวันนี้อเมริกายังเป็นผู้นำโลก
(world’s leading power) อยู่เหนือชาติอื่นๆ ในด้านต่างๆ
เพราะสหรัฐมีรากฐานค่านิยมที่เหนือกว่านั่นเอง กองทัพอเมริกันยังไร้ผู้เทียมทาน
การร่วมมือกับพันธมิตรและหุ้นส่วนยิ่งเพิ่มขยายพลังอำนาจ
อเมริกาเป็นชาติประชาธิปไตยอันหลากหลาย
(diverse democracy) เป็นเหตุว่าการเมืองไม่ราบรื่น
มีฝ่ายค้านตลอดเวลา สหรัฐจะยังคงเดินหน้าบนความแตกต่างหลากหลายนี้
ด้วยการเมืองที่โปร่งใสเป็นประชาธิปไตย มั่นใจว่าคือหนทางที่ดีที่สุด
ทุกชีวิตอยู่อย่างมีคุณค่าและเป็นไท คุณภาพประชาธิปไตยของประเทศจะสะท้อนออกมาสู่ความเข้มแข็งในด้านต่างๆ
ตลอดจนการเป็นผู้นำโลก
สหรัฐสนับสนุนสิทธิมนุษยชนสากล
ชาติที่แสวงหาเสรีภาพและศักดิ์ศรี (dignity)
ทำให้ประชาธิปไตยทุกหนแห่งทั่วโลกเข้มแข็ง มีแต่รัฐบาลประชาธิปไตยเท่านั้นที่ปกป้องศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ได้ดีที่สุด
ช่วยให้ประเทศหุ้นส่วนมั่งคั่ง สังคมยืดหยุ่นปรับตัวได้ดี
สร้างเศรษฐกิจที่เข้มแข็ง สนับสนุนโลกแห่งสันติ
พวกรัฐบาลเผด็จการคือความท้าทายที่สำคัญที่สุด
พวกเขาพร้อมทำสงคราม บ่อนทำลายการเมืองประชาธิปไตยในประเทศต่างๆ อย่างแข็งขัน
ส่งเสริมการเมืองระหว่างประเทศที่ไม่เสรี รัสเซียเป็นภัยคุกคามในตอนนี้ส่วนจีนเป็นคู่แข่งสร้างระเบียบโลก
ทั้งด้านเศรษฐกิจ การทูต การทหารและเทคโนโลยี
ทั้งคู่ได้ประโยชน์จากระเบียบโลกเสรีแต่ตอนนี้กลับพยายามสร้างระบบเผด็จการ สหรัฐตระหนักว่าหลายประเทศไม่สบายใจต่อการแข่งขันระหว่างมหาอำนาจ
จึงพยายามหลีกเลี่ยงความขัดแย้ง ไม่คิดทำสงครามเย็นใหม่
นับจากนี้จะไม่แบ่งนโยบายต่างประเทศกับในประเทศอีกต่อไป หากจะให้สหรัฐมั่งคั่งต้องกำกับระเบียบระหว่างประเทศให้สหรัฐได้ประโยชน์สูงสุด ให้การพัฒนาอุตสาหกรรมในประเทศสอดรับกับการลงทุนของรัฐบาล
สอดคล้องกับการพัฒนาเทคโนโลยีล้ำยุคต่างๆ
พันธมิตรกับหุ้นส่วนทั่วโลกเป็นสินทรัพย์ทางยุทธศาสตร์
ต้องทำให้นาโต พันธมิตรในอินโด-แปซิฟิกและหุ้นส่วนความมั่นคงทั้งหลายเข็มแข็งเป็นเอกภาพ
เหตุที่ประเทศเข้มแข็งเพราะเข้าพัวพันกับภูมิภาคอื่นๆ
หากศัตรูครอบงำภูมิภาคใดภูมิภาคหนึ่งเมื่อนั้นความเข้มแข็งของสหรัฐย่อมลดลง
สหรัฐได้ประโยชน์มหาศาลจากโลกาภิวัตน์แต่จะต้องปรับให้เข้ากับโลกที่เปลี่ยนไป
เช่น การก้าวขึ้นมาของจีน ข้อตกลงการค้าเสรีดั้งเดิมใช้ไม่ได้อีกแล้วนับจากนี้จะเป็นการค้าที่พัวพันลึกซึ้งกับหุ้นส่วน
กรอบเศรษฐกิจอินโด-แปซิฟิก (Indo-Pacific Economic Framework: IPEF) เป็นตัวอย่าง กำหนดอัตราภาษีนิติบุคคลขั้นต่ำทั่วโลก (Global
Minimum Tax) ให้บรรดาบริษัทเอกชนทั่วโลกเสียภาษีอย่างยุติธรรม
โครงการ Partnership for Global Investment and Infrastructure (PGII) ที่มุ่งลงทุนในเหล่าประเทศกำลังพัฒนา รวมความแล้วสหรัฐจะร่วมมือกับชาติประชาธิปไตยลึกซึ้งขึ้น
เสริมสร้างความเข็มแข็งทุกมิติ :
ความเข้มแข็งและสามารถยืดหยุ่นปรับตัว (resilience)
เป็นกุญแจความสำเร็จของอเมริกาในอนาคต และความสำเร็จของอเมริกาขึ้นกับการเข้าพัวพันโลก
เป็นเหตุผลที่ใช้ยุทธศาสตร์พัฒนาอุตสาหกรรมสมัยใหม่และนวัตกรรม ลงทุนในอุตสาหกรรมสำคัญ
ปกป้องคุ้มครองสาธารณูปโภคสำคัญโดยร่วมกับภาคเอกชน
ลงทุนโครงการก่อสร้างสาธารณูปโภคครั้งใหญ่ เช่น ระบบคมนาคม อินเทอร์เน็ต น้ำสะอาดและพลังงาน
ตั้งงบประมาณสนับสนุนภาคเอกชนถึง 280,000 ล้านดอลลาร์สำหรับอุตสาหกรรมเซมิคอนดักเตอร์
advanced computing การสื่อสารในอนาคต
พลังงานสะอาดและไบโอเทคโนโลยี
รัฐบาลจะส่งเสริมการผลิตพลังงานในประเทศ เป็นระบบพลังงานสะอาดลดปล่อยก๊าซคาร์บอนให้ได้ราว
40% ภายในปี 2030 เป็นนโยบายที่เชื่อมต่อระหว่างภาคอุตสาหกรรม
การเติบโตทางเศรษฐกิจและความมั่นคงไปพร้อมๆ กัน
การลงทุนในคนสำคัญที่สุด
ประกอบด้วยการเรียนรู้ฝึกฝนทักษะ การดูแลสุขภาพในราคาเหมาะสม
ให้ได้แรงงานที่มีการศึกษา มีสุขภาพแข็งแรงและประสิทธิผลดีกว่าเดิม นอกจากนี้สหรัฐจะเป็นแหล่งดึงดูดคนเก่งทั่วโลก
ประชาธิปไตยเป็นศูนย์กลางของพวกเรา แม้ไม่สมบูรณ์ตามอุดมคติแต่จะไม่เดินออกจากเส้นทางนี้
ยิ่งเผชิญวิกฤตการณ์ยิ่งต้องเข้าหาประชาธิปไตย พหุนิยม การยอมรับความแตกต่าง (inclusion) ความหลากหลายเป็นแหล่งแห่งความเข้มแข็งในโลกที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว
ยึดมั่นเสรีภาพการพูด เสรีภาพสื่อ การชุมนุมโดยสงบและเสรีภาพอื่นๆ
สหรัฐจะร่วมมือกับทุกประเทศที่เป็นชาติประชาธิปไตย
มีผลประโยชน์และยึดถือคุณค่าเดียวกัน และจะร่วมมือกับประเทศที่สนับสนุนระเบียบโลกที่ตั้งบนกฎเกณฑ์
จะกดดันให้ทุกชาติเคารพและพัฒนาประชาธิปไตย สิทธิมนุษยชน
ให้ประชาธิปไตยของพวกเขาเข้มแข็งขึ้น เสริมสร้างกองทัพ นาโตเป็นตัวอย่างในขณะนี้ที่ต้านการรุกรานของรัสเซีย
AUKUS ที่ส่งเสริมความมั่นคงในอินโด-แปซิฟิก
สหรัฐต้องการให้พันธมิตรอินโด-แปซิฟิกร่วมมือกับพันธมิตรยุโรป
ทั้งนี้สหรัฐไม่เพียงทำงานกับรัฐบาลประเทศต่างๆ เท่านั้นแต่จะติดต่อโดยตรงกับภาคประชาสังคม
สื่อ ภาคเอกชนของทุกประเทศ
ร่วมกันต่อต้านการบิดเบือนข้อมูล การละเมิดสิทธิมนุษยชน ต่อต้านคอร์รัปชัน
สนับสนุนทุกคนทั่วโลกที่ต่อสู้เพื่อศักดิ์ศรี ความเท่าเทียมและยุติธรรม
กองทัพสหรัฐจะปกป้องผลประโยชน์แห่งชาติโดยไม่รีรอ
อย่างไรก็ตามการใช้กำลังรบเป็นวิธีสุดท้าย กองทัพจะปกป้องคนอเมริกัน
ผลประโยชน์ทางเศรษฐกิจของพวกเขา จีนเป็นความท้าทายสำคัญ ภายในปี 2030 สหรัฐจะต้องป้องปรามมหาอำนาจนิวเคลียร์พร้อมกัน 2 ประเทศ
จำต้องปรับปรุง nuclear Triad ให้พร้อมรับมือและจะทำงานร่วมกับพันธมิตร
---------------------------
บทความที่เกี่ยวข้อง:The White House. (2022, October 11). National Security
Strategy 2022. Retrieved from https://www.whitehouse.gov/wp-content/uploads/2022/10/Biden-Harris-Administrations-National-Security-Strategy-10.2022.pdf