นโยบายต่างประเทศสหรัฐต่อจีนโดยแอนโทนี บลิงเคน
สหรัฐไม่แสวงหาความขัดแย้งหรือสงครามเย็นใหม่ (new Cold War) รัฐบาลสหรัฐจะสัมพันธ์กับจีนอย่างสร้างสรรค์ในทุกเรื่องที่ทำได้ โดยที่สหรัฐจะไม่ทิ้งหลักการของตน
เมื่อวันที่ 26 พฤษภาคม 2022 แอนโทนี บลิงเคน (Antony
Blinken) รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐบรรยายนโยบายต่อจีน
มีสาระสำคัญดังนี้
บริบทประเทศ
:
2 ปีมานี้สหรัฐต้องสู้กับโรคระบาดโควิด-19
เตรียมรับมือโรคระบาดอื่นๆ ในอนาคต ฟื้นฟูเศรษฐกิจ แก้ปัญหาห่วงโซ่อุปทาน
วิกฤตหนี้สิน การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ปรับเปลี่ยนนโยบายพลังงานที่สะอาดมั่นคงขึ้นในราคาซื้อได้
จำต้องแก้ปัญหาร่วมกัน ด้วยการส่งเสริมเทคโนโลยี ส่งเสริมการค้าที่เอื้อประโยชน์ต่อกรรมกร
ขึ้นค่าแรง สร้างโอกาส ยึดมั่นสิทธิมนุษยชน ประเทศมั่นคงปลอดภัย
ในการนี้จำต้องสร้างและปฏิรูประเบียบโลกที่ตั้งอยู่บนกติกา
เฉกเช่นกฎบัตรสหประชาชาติ ปฏิญญาสากลว่าด้วยสิทธิมนุษยชน แต่ละประเทศสามารถตัดสินใจด้วยตนเอง
มีอธิปไตย แก้ไขข้อพิพาทด้วยสันติวิธี เป็นหลักการที่โลกเห็นร่วมกัน
ประธานาธิบดีปูตินเป็นภัยในตอนนี้แต่จีนคือประเทศที่สหรัฐให้ความสนใจเป็นความท้ายระยะยาวที่ร้ายแรงที่สุด
(most serious long-term challenge) ต่อระเบียบโลก
ภัยคุกคามจากจีน
:
จีนเป็นประเทศเดียวที่มีทั้งความตั้งใจเปลี่ยนระเบียบโลกและมีพลังอำนาจที่จะทำ
มีทั้งพลังอำนาจทางเศรษฐกิจ การทูต การทหารและเทคโนโลยี วิสัยทัศน์ของจีนอาจเปลี่ยนค่านิยมสากลที่ดำรงมาแล้ว
75 ปี ในขณะเดียวกันจีนเป็นส่วนหนึ่งของเศรษฐกิจโลก
เป็นส่วนหนึ่งของการแก้ปัญหาการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศและอีกหลายเรื่องจึงเป็นความสัมพันธ์อันซับซ้อนของโลกวันนี้
สหรัฐไม่แสวงหาความขัดแย้งหรือสงครามเย็นใหม่
(new Cold War) แท้จริงแล้วเราพยายามหลีกเลี่ยง
สหรัฐไม่ห้ามหากจีนหรือประเทศใดจะก้าวขึ้นมาเป็นมหาอำนาจ
หากเศรษฐกิจเติบโตเป็นประโยชน์ต่อประชาชนของเขา แต่สหรัฐจะปกป้องและทำให้กฎหมายระหว่างประเทศ
ข้อตกลง หลักการและสถาบันต่างๆ เข้มแข็ง ส่งเสริมสันติภาพและความมั่นคง
ปกป้องสิทธิส่วนบุคคล อธิปไตยของประเทศต่างๆ ให้ประเทศทั้งหลายอยู่ร่วมกันและร่วมมือกัน
ทุกวันนี้อำนาจจีนแผ่ขยายทั่วโลก
มีขนาดเศรษฐกิจใหญ่เป็นอันดับ 2 ของโลก มีเมืองและเครือข่ายขนส่งที่เจริญทันสมัยระดับโลก
เป็นที่ตั้งของบริษัทเทคโนโลยีขนาดใหญ่สุดของโลก ตั้งใจครอบงำเทคโนโลยีและอุตสาหกรรมในอนาคต
กองทัพจีนพัฒนาอย่างรวดเร็วและหวังแผ่กองทัพไปทั่วโลก เป็นผู้นำโลก
แต่จีนบ่อนทำลายกฎหมายระหว่างประเทศ ข้อตกลงหลักการต่างๆ
พรรคคอมมิวนิสต์จีนกดทับคนจีนและแสดงความก้าวร้าวต่อภายนอกประเทศ
รัฐบาลจีนตรวจสอบติดตามคนจีนอย่างกว้างขวาง อ้างสิทธิ์เหนือทะเลจีนใต้ทั้งๆ
ที่ผิดกฎหมาย บั่นทอนสันติภาพ ความมั่นคง เสรีภาพการเดินเรือและการค้า ส่งผลเสียต่อกรรมกรและบริษัทอเมริกันทั่วโลก การที่จีนปกป้องรัสเซียที่ทำสงครามยูเครน
ขยายอิทธิพลในยุโรปสร้างความหวาดวิตกแก่ภูมิภาคอินโด-แปซิฟิก
ด้วยเหตุผลทั้งมวลรัฐบาลสหรัฐจึงจำต้องปรับปรุงบริบทภูมิภาคให้เอื้อต่อวิสัยทัศน์เปิดกว้าง
รวมระบบนานาชาติเข้าด้วยกัน ตามยุทธศาสตร์ของประธานาธิบดีไบเดน รัฐบาลจะลงทุนโครงสร้างพื้นฐาน
ลงทุนสร้างขีดความสามารถในการแข่งขัน นวัตกรรมและประชาธิปไตย ทำให้พันธมิตรกับหุ้นส่วนอยู่ในระเบียบ
ร่วมมือกันเพื่อเป้าหมายเดียวกัน และแข่งกับจีนเพื่อปกป้องผลประโยชน์ของเรา
มุ่งสู่วิสัยทัศน์ของเรา แยกเป็นนโยบายได้ดังนี้
นโยบายสหรัฐต่อจีน
:
ประการแรก ลงทุนสร้างชาติให้เข้มแข็ง
รัฐบาลมุ่งสร้างความเข้มแข็งให้กับเรื่องสำคัญที่สุด
สร้างอุตสาหกรรมสมัยใหม่อันส่งเสริมเศรษฐกิจและเทคโนโลยี สร้างเศรษฐกิจกับห่วงโซ่อุปทานที่ยืดหยุ่นแข่งขันได้
จีนได้ลงทุนในเทคโนโลยีสมัยใหม่มาก รัฐบาลไบเดนก็เช่นกันแต่การใช้ของเราส่งเสริมประชาธิปไตยไม่ใช่อำนาจนิยม
จำต้องเร่งสร้างห่วงโซ่อุปทานเพราะสินค้าบริการขนส่งตลอดเวลา
ถ้าสหรัฐไม่สร้างก็จะมีประเทศใดประเทศหนึ่งสร้าง เรื่องนี้มีผลต่อความเข้มแข็งไม่เฉพาะสหรัฐเท่านั้นมีผลต่อพันธมิตรและหุ้นส่วน
จึงรอช้าไม่ได้
รัฐบาลยังต้อนรับนักศึกษาจีน ปีการศึกษาล่าสุดนักศึกษาจีนกว่าแสนคนทะเบียนเรียน
ราว 80% เรียนทางด้านวิทยาศาสตร์เทคโนโลยี ต้องยอมรับว่าพวกเขาเป็นประโยชน์แก่สหรัฐด้วย
การเหยียดผิวเหยียดเชื้อชาติและความเกลียดชังไม่ช่วยสร้างชาติ ตลอดประวัติศาสตร์คนต่างด้าวช่วยสร้างชาติ
คนอเมริกันเชื้อสายจีนทำคุณประโยชน์ต่อประเทศ หากใครปฏิบัติต่อคนจีนไม่ถูกไม่ควรเท่ากับทำลายจุดยืนของประเทศ
คนอเมริกันเคารพนับถือคนจีนแต่กลับพรรคคอมมิวนิสต์จีนและรัฐบาลจีนนั้นเป็นคนละเรื่อง
ประการที่ 2 ประชาธิปไตยของสหรัฐ
ประชาธิปไตยคือเสาหลักความเข้มแข็งของชาติ ในศตวรรษที่
21 ความมั่งคั่งที่แท้อยู่ที่ประชาชนหรือทรัพยากรมนุษย์ ความสามารถที่จะให้คนปลดปล่อยศักยภาพทั้งหมดที่มี
ระบอบประชาธิปไตยให้เราอภิปราย ถกแถลง
ไม่เห็นด้วย ท้าทายกันและกันแม้กระทั่งต่อผู้นำที่เราเลือก เราไม่สมบูรณ์แต่ทำอย่างดีที่สุด
ระบอบประชาธิปไตยมีเพื่อสิ่งเหล่านี้
จีนคิดว่าระบอบของเขาดีกว่า มีพรรคเป็นศูนย์กลางของทั้งระบบ
ไม่วุ่นวายยุ่งเหยิง รัฐบาลสหรัฐไม่ต้องการเปลี่ยนการเมืองจีนแต่จะแสดงให้เห็นว่าประชาธิปไตยสามารถเผชิญหน้าทุกความท้าทาย
สร้างโอกาส ทำให้มนุษยชาติพัฒนา
ประชาธิปไตยอเมริกาทำงานร่วมกันพันธมิตรและหุ้นส่วน
สร้างอินโด-แปซิฟกที่เปิดเสรีและเปิดกว้าง อยู่ภายใต้กฎเกณฑ์ที่ทำขึ้นอย่างโปร่งใสใช้อย่างยุติธรรม
ทุกประเทศตัดสินใจได้เอง สิ่งต่างๆเคลื่อนไหวเคลื่อนย้ายโดยเสรี
สหรัฐต้องการเป็นผู้นำด้านเทคโนโลยี
การแก้ปัญหาโลกร้อน พัฒนาโครงสร้างพื้นฐานและสุขภาพอนามัยโลก เศรษฐกิจที่ทุกคนมีส่วนร่วม
หวังร่วมมือกับประเทศต่างๆ ให้มากประเทศที่สุด แก้ไขความแตกต่างด้วยสันติวิธี บนพื้นฐานเป็นรัฐอธิปไตยเท่าเทียม
สิทธิมนุษยชนเป็นอีกประเด็นที่สหรัฐจะยึดถือร่วมกับพันธมิตรและหุ้นส่วน
ต่อต้านการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ อาชญากรรมต่อมนุษยชาติที่รัฐบาลจีนทำต่อหลายพื้นที่ของตน
ใช้มาตรการที่ไม่เป็นประชาธิปไตยโดยอ้างว่าเพื่อความมั่นคงแห่งชาติ รัฐบาลจีนอ้างว่าเป็นเรื่องภายในประเทศ
แต่ผิดเพราะละเมิดปฏิญญาสากลว่าด้วยสิทธิมนุษยชนที่อยู่ภายใต้กฎบัตรสหประชาชาติ
ประการที่ 3 ประเด็นสำคัญอื่นๆ
จีนมักลักลอบขโมยเทคโนโลยีของประเทศอื่นด้วยเหตุนี้สหรัฐจะต้องปกป้องตัวเอง
เช่น
ควบคุมการส่งออกให้เข้มงวดขึ้นให้มั่นใจว่านวัตกรรมสำคัญจะไม่ตกอยู่ในมือคนที่ไม่ควรได้
จีนใช้นโยบายทุ่มตลาด
ตัวอย่างที่เห็นชัดคือตลาดเหล็กกล้าที่ผลิตจำนวนมากและขายถูกโดยไม่หวังกำไรเพราะได้รับการอุดหนุนจากรัฐบาลจีน
ต้นทุนต่ำเพราะไม่คำนึงสิ่งแวดล้อม ไม่ปกป้องสิทธิคนงาน โรงงานอเมริกันจึงสู้ไม่ได้
เหล็กกล้าจีนเข้าแทนที่ในหลายประเทศ ตัวอย่างอื่นๆ เช่น แผงโซล่าเซลล์
แบตเตอร์รีรถไฟฟ้า เป็นเหตุผลที่คนอเมริกันหลายล้านคนตกงาน ประเทศอื่นๆ
ตกอยู่ในสภาพนี้เช่นกัน
ประเด็นไต้หวัน นโยบายสหรัฐต่อไต้หวันยังคงเหมือนเดิม
ยึดถือนโยบายจีนเดียว (one China policy) ต่อต้านการเปลี่ยนแปลงจุดยืนของทุกฝ่าย
(ทั้งจีนกับไต้หวัน) ไม่สนับสนุนให้ไต้หวันประกาศเป็นรัฐอธิปไตย พร้อมกับสนับสนุนให้ไต้หวันมีกองทัพที่ป้องกันตนเองได้
มีสัมพันธ์ที่ไม่เป็นทางการกับไต้หวันแต่ติดต่อร่วมมือกับไต้หวันต่อไปและมากขึ้น
ประเด็นการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ
หลายปีที่ผ่านมาจีนกับสหรัฐมีจุดที่เห็นไม่ตรงกันและมีส่วนที่ไปด้วยกันสนับสนุนกัน
โดยสรุป รัฐบาลสหรัฐจะสัมพันธ์กับจีนอย่างสร้างสรรค์ในทุกเรื่องที่ทำได้
โดยที่สหรัฐจะไม่ทิ้งหลักการของตน ไม่มีเหตุใดที่ 2
ชาติมหาอำนาจจะอยู่ร่วมกันโดยสันติไม่ได้ สามารถแบ่งปันร่วมมือเพื่อความก้าวหน้าของมนุษย์
มีสันติภาพ อยู่ดีกินดีและเสรีนี้กว่านี้
--------------------
U.S. Department of State.
(2022, May 26). The Administration’s Approach to the People’s Republic of
China. Retrieved from
https://www.state.gov/the-administrations-approach-to-the-peoples-republic-of-china/