ปฏิบัติการหมายสังหารนายกฯ อิรัก อัล-คาดิมี
ปฏิบัติการหมายสังหารนายกฯ อัล-คาดิมีตีความได้หลากหลาย ตั้งแต่การช่วงชิงอำนาจระหว่างฝ่ายการเมืองด้วยกัน ความปลอดภัยของ Green Zone และบทบาทต่างชาติที่เกี่ยวข้อง
เมื่อวันอาทิตย์ 7 พฤศจิกายนผู้ก่อการร้ายใช้โดรนติดระเบิดโจมตีบ้านพักของ มุสตาฟา อัล-คาดิมี (Mustafa al-Kadhimi) นายกรัฐมนตรีอิรัก โดรน 2 ลำถูกยิงสกัดตกเหลือเพียงลำเดียวที่พุ่งเข้าเป้าหมาย คนคุ้มกันนายกฯ บาดเจ็บหลายคนแต่ไม่ร้ายแรง กระทรวงมหาดไทยอิรักเผยว่าผู้ก่อเหตุใช้โดรนบินขึ้นจากทางตะวันออกเฉียงเหนือของกรุงแบกแดดที่ห่างออกไป 10-12 กิโลเมตร อยู่ชานกรุงแบกแดดนั่นเอง
กองทัพอิรักประกาศว่าเป็นความพยายามลอบสังหารผู้นำประเทศ
รู้ตัวคนก่อเหตุ :
นายกฯ
อัล-คาดิมีกล่าวว่าเจ้าหน้าที่รู้ตัวผู้ก่อเหตุ รู้จักพวกเขาดี
คนพวกนี้ต่อต้านรัฐบาล
ไม่ว่าข้อเท็จจริงเป็นอย่างไรทางการอิรักพูดชัดรู้ตัวใครเป็นผู้ก่อเหตุ
เพียงแต่ยังไม่เอ่ยนามต่อสาธารณะเท่านั้น
ด้านมุกตาดา
อัล-ซาดาร์ (Moqtada al-Sadr) ผู้นำพรรคที่ได้คะแนนมากที่สุดและน่าจะเป็นผู้นำประเทศคนใหม่แถลงว่าเป็นก่อการร้าย
ตั้งใจสร้างความปั่นป่วนวุ่นวาย สร้างความรุนแรง พวกไม่หวังดีต่อชาติ
ไม่อยากเห็นประเทศสงบสุข ชี้ว่าเป็นฝีมือของกลุ่มติดอาวุธในประเทศ หวังเปิดทางให้ต่างชาติแทรกแซง
วันต่อมาคณะมนตรีความมั่นคงสหประชาชาติ
(UNSC) ออกแถลงการณ์ประณามการลอบสังหารนายกฯ อิรัก เรียกร้องหาตัวผู้ก่อเหตุ
ผู้สนับสนุนก่อการร้าย นำมาลงโทษตามกฎหมาย แถลงการณ์นี้ประกาศจุดยืน UNSC
ตั้งแต่ต้นว่าผู้ก่อเหตุกับผู้สนับสนุนมีความผิดต้องรับโทษ ซึ่งจนบัดนี้ยังไม่มีใครเปิดเผยตัวและทางการอิรักยังไม่ประกาศว่าเป็นใคร
วิเคราะห์องค์รวม :
ประการแรก
Green Zone ไม่ปลอดภัย
ไม่ว่าจะมุ่งสังหารหรือแค่ข่มขู่เป็นการประกาศความเป็นศัตรูชัดเจน
ผู้ลงมือย่อมคิดได้ว่าการทำเช่นนี้จะเป็นเรื่องใหญ่ เป็นข่าวดังทั่วโลก
เรื่องใหญ่กว่านั้นคือบ้านพักนายกฯ
อยู่ในเขต Green Zone กลางกรุงแบกแดด
ดังที่ได้เสนอแล้วว่าหลังรัฐบาลสหรัฐคืนอำนาจบริหารประเทศแก่อิรักเมื่อปี
2004 มีสิ่งหนึ่งที่คงอยู่จนถึงปัจจุบันคือเขต Green Zone เป็นเขตวางมาตรการรักษาความปลอดภัยสูงสุด
เป็นที่ตั้งศูนย์บัญชาการใหญ่ ฐานทัพใหญ่ของสหรัฐ
และยังเป็นที่ตั้งศูนย์บริหารประเทศอิรักด้วย เมื่ออิรักเป็นประชาธิปไตย
มีรัฐบาลของตนปรากฏว่าทำเนียบรัฐบาล รัฐสภา ที่ตั้งกระทรวงต่างๆ
ตั้งอยู่ในพื้นที่ดังกล่าว กองกำลังสหรัฐหลายพันนายมีส่วนควบคุมรักษาความสงบเรียบร้อยในพื้นที่นี้
เรื่องน่าคิดคือวันนี้โจมตีบ้านนายกฯ
อิรัก พรุ่งนี้อาจเป็นสถานทูตหรือนายพลคนสำคัญของสหรัฐ ทั้งหมดตั้งอยู่ในเขตพื้นที่เดียวกัน
ประการที่
2 ผู้นำโลกปลอดภัยไหม
ข่าวโดรนโจมตีบ้านพักนายกฯ
อิรักย่อมสะเทือนผู้นำอื่นๆ ทั่วโลก เพราะพวกเขามีความเสี่ยงจะถูกโจมตีในแบบเดียวกัน
อาจไม่ต้องถึงกับเป็นนายกรัฐมนตรี อาจเป็นแกนนำนักการเมือง นักเคลื่อนไหวคนสำคัญ
ฯลฯ
ในเหตุการณ์นี้ผู้ก่อเหตุใช้โดรน
3 ลำ สกัดได้ 2 ลำ ลองจินตนาการถ้าผู้ก่อเหตุใช้โดรน 10 ลำจะเป็นอย่างไร
อันที่จริงแล้วเรื่องทำนองนี้ไม่ใช่ของใหม่
หลายประเทศใช้โดรนในการสงคราม การต่อต้านผู้ก่อการร้าย ข่าวชิ้นหนึ่งที่ดังมากเมื่อปี
2020 คือการสังหารนายพลสุไลมานีโดยฝีมือรัฐบาลทรัมป์
ประการที่
3 เกี่ยวข้องกับต่างชาติไหม
จากหลักฐานที่ปรากฏและคำพูดของนายกฯ
อิรัก ชี้ว่ารู้ตัวผู้ลงมือ ผู้ก่อเหตุเป็นคนในประเทศ เป็นฝีมือกองกำลังกลุ่มหนึ่ง
อีกมุมมองที่น่าสนใจคือจะเป็นการสร้างสถานการณ์เพื่อโยนความผิดหรือไม่
เป็นอีกแนวที่ควรคิดถึง เพราะอานุภาพแรงระเบิดที่เกิดขึ้นไม่มากเท่าไหร่ โอกาสทำให้นายกฯ
เสียชีวิตมีน้อย (ต้องโดนตรงตัวหรือใกล้มากในขณะที่นายกฯ อยู่ในอาคาร)
สื่อบางสำนักรายงานข่าวในทำนองชี้ว่าเกี่ยวข้องกับต่างชาติ
หากเป็นจริงเรื่องนี้จะกลายเป็นประเด็นความสัมพันธ์ระหว่างประเทศทันที เมื่อรัฐบาลประเทศหนึ่งลงมือหรือสั่งการสังหารผู้นำอีกประเทศ
ในกรณีนี้ประเทศที่ถูกเอ่ยถึงคืออิหร่าน
ถ้าจะพูดความสัมพันธ์ระหว่างอิรักกับอิหร่านอาจย้อนได้นับพันปีสมัยอาณาจักรโบราณ
สมัยเกิดมุสลิมชีอะห์ ทั้งอิหร่านกับอิรักต่างเป็นประเทศที่ประชากรส่วนใหญ่เป็นมุสลิมชีอะห์
สื่อบางสำนักอ้างแหล่งข่าวว่าผู้ก่อเหตุเป็นกลุ่มติดอาวุธที่อิหร่านสนับสนุนและใช้โดรนอิหร่าน
เนื่องจากไม่พอใจผลการเลือกตั้งรอบล่าสุดที่ชีอะห์สายอิหร่านได้คะแนนน้อย
Hamdi Malik จาก Washington Institute
ชี้ว่าเป็นคำเตือนถึงรัฐบาลที่จะจัดตั้งใหม่ว่าต้องมีพวกเขาอยู่ด้วย
มีคนของพวกเขาในตำแหน่งต่างๆ ไม่เช่นนั้นประเทศจะไม่สงบ พวกนี้ต่อต้านมุกตาดา
อัล-ซาดาร์ที่พรรคของเขาได้คะแนนมากที่สุดและกำลังเดินหน้าจัดตั้งรัฐบาล
Hamdi Malik ขยายความอีกว่าอัล-ซาดาร์ในตอนนี้ไม่ยอมอยู่ใต้อำนาจรัฐบาลอิหร่านๆ
จึงต่อต้านเพราะเกรงสูญเสียอิทธิพลในอิรัก
ไม่กี่วันหลังเกิดเหตุ Esmail Qaani ผู้นำกองทัพ
IRGC ของอิหร่านเดินทางเยือนอิรักอย่างเป็นทางการ
กล่าวว่าทุกฝ่ายควรยอมรับผลการเลือกตั้งและอยู่ในความสงบ ปฏิบัติตามกฎหมาย ประชาชนมีสิทธิ์ประท้วงการเลือกตั้งแต่ต้องให้ความร่วมมือกับทางการด้วย
นับจากรู้ผลการเลือกตั้งทั่วไปเมื่อ
10 ตุลาคมที่ผ่านมา เริ่มมีข่าวว่าพวกชีอะห์ที่สูญเสียที่นั่งแก่พรรคของอัล-ซาดาร์แสดงความไม่พอใจ
อ้างว่าการเลือกตั้งไม่น่าเชื่อถือ สวนทางองค์กรระหว่างประเทศที่ส่งตัวแทนหลายร้อยคนเข้าสังเกตการณ์และสรุปว่าการเลือกตั้งโดยรวมเป็นไปด้วยดี
เป็นเวลาเนิ่นนานหลายสิบปีที่อิรักไม่สงบ
ประเทศวุ่นวายไม่จบสิ้น การส่งคืนอธิปไตยแก่อิรักเมื่อมิถุนายน 2004 ตามนโยบายสร้างประชาธิปไตยของรัฐบาลสหรัฐทำให้ประชาชนถูกแยกเป็น
3 ฝ่ายเด่นชัดกว่าเดิม คือแยกเป็นพวกชีอะห์ ซุนนี และเคิร์ด
อาจมองว่าเป็นการแบ่งสรรอำนาจหรืออาจตีความว่าตอกย้ำการแบ่งฝักแบ่งฝ่าย
ไม่เพียงเท่านั้นทั้ง 3 ฝ่ายยังแบ่งแยกย่อยอีก ไม่เป็นเอกภาพ ชีอะห์อิรักปัจจุบันมีหลายสายหลายกลุ่ม
ในทางหนึ่งพวกเขาร่วมมือกันเมื่อเจอภัย แต่อีกด้านแข่งขันช่วงชิงภายใต้ระบอบประชาธิปไตยถึงกับก่อเหตุรุนแรงไม่หยุดหย่อน
จนรัฐบาลทำงานไม่ได้และเป็นต้นเหตุจัดเลือกตั้งทั่วไปเมื่อเดือนตุลาคม
พรรคการเมืองชีอะห์มีหลายพรรค ต่างต้องการคะแนนเสียงมากที่สุด เหตุลอบสังหารนายกฯ
ครั้งนี้อาจตีความว่าพวกชีอะห์ที่เสียคะแนนให้กับอัล-ซาดาร์ซึ่งเป็นมุสลิมชีอะห์เหมือนกันไม่พอใจผลการเลือกตั้ง
เป็นการต่อสู้ทางการเมืองระหว่างพรรคการเมืองชีอะห์ด้วยกัน
เหตุที่ยุบสภาจัดเลือกตั้งทั่วไปเพราะหวังให้ประเทศสงบ
สามารถเดินหน้าต่อไป แก้ปัญหาต่างๆ ที่รุมเร้า แต่นับจากประกาศผลการเลือกตั้งดูเหมือนว่า
“ทางออก” หรือการเลือกตั้งอาจเป็นเหตุนำให้อิรักอยู่ในวังวนความไม่สงบต่อไป เป็นประเด็นน่าติดตาม
-------------------------
1. Drone
attack by militants on Iraqi PM ‘marks escalation’ in power struggle. (2021,
November 7). The Guardian. Retrieved from
https://www.theguardian.com/world/2021/nov/07/drone-attack-on-iraqi-pms-home-marks-escalation-in-power-struggle
2. Iran’s
Quds Force commander: Iraqi election results should be respected. (2021,
November 11). Rudaw. Retrieved from
https://www.rudaw.net/english/middleeast/iraq/11112021
3. Militias
‘tried to murder Iraqi PM with Iranian-made drones’. (2021, November 9). Arab
News. Retrieved from https://www.arabnews.com/node/1964181/middle-east
4. Iraq’s
prime minister says he knows who committed attack against him. (2021, November
8). TASS. Retrieved from https://tass.com/world/1358453
5. Iraqi
Prime Minister survives exploding drone assassination attempt. (2021, November
7). CNN. Retrieved from
https://edition.cnn.com/2021/11/06/middleeast/iraq-prime-minister-drone-attack-intl-hnk/index.html
6. UN Security Council condemns
assassination attempt against Iraqi PM. (2021, November 9). Rudaw.
Retrieved from https://www.rudaw.net/english/middleeast/iraq/081120213
7. U.S.
forces to stay in Iraq as long as needed: spokesman. (2018, August 19). Reuters.
Retrieved from
https://www.reuters.com/article/us-mideast-crisis-iraq-usa/u-s-forces-to-stay-in-iraq-as-long-as-needed-spokesman-idUSKBN1L408A
--------------------------