วาระ NATO 2030 และข้อวิพากษ์
NATO 2030 ประกอบด้วยความคิดริเริ่ม แผนพัฒนาองค์กรให้มีความพร้อมเป็นเอกภาพรับมือการแข่งขันยุคใหม่ที่รุนแรงขึ้นทั่วโลก แต่แผนกับการปฏิบัติจริงจะสอดคล้องแค่ไหนเป็นเรื่องน่าติดตาม
วาระ NATO 2030 คือการมองไปข้างหน้าอย่างน้อยถึงปี
2030 ประกอบด้วยความคิดริเริ่ม แผนพัฒนาองค์กรให้มีความพร้อม เข็มแข็ง
เป็นเอกภาพพร้อมรับมือการแข่งขันยุคใหม่ที่รุนแรงขึ้นทั่วโลก ประกาศเมื่อ 14
มิถุนายน 2021 มีสาระสำคัญ
ประการแรก
หารือและร่วมมือทางการเมืองลึกซึ้งกว่าเดิม
จากนี้ไปในที่ประชุมนาโตจะคุยลึกและกว้างขึ้นกว่าเดิม
คุยทุกเรื่องที่เกี่ยวข้องกับความมั่นคง จะเพิ่มวงประชุมมากขึ้น ให้ได้ข้อสรุปร่วมกันก่อนเข้าประชุมนานาชาติ
เช่น การประชุมสมัชชาสหประชาชาติ G-20
ผลที่คาดว่าจะได้คือ นาโตจะเป็นแพลตฟอร์มเดียวที่นำยุโรปกับอเมริกาเหนือเข้าด้วยกันทุกวัน
นาโตจะมีบทบาทมีมากขึ้น ยุโรปกับอเมริกาเหนือจะเผชิญหน้าความท้าทายร่วมกัน
วิพากษ์
: ข้อนี้คือการเพิ่มขยายอำนาจนาโตให้มีบทบาทมากขึ้น
ประเด็นคือชาติสมาชิกคิดเห็นตรงกันจริงหรือไม่ รัฐบาลสหรัฐพร้อมทำตามข้อสรุปของนาโตหรือไม่
พร้อมที่จะให้นาโตอยู่เหนือสหรัฐหรือไม่ หรือว่าท้ายที่สุดแล้วสหรัฐจะเลือกแนวทาง
“อเมริกาต้องมาก่อน” (America First) เช่นเดียวกับประเทศอื่นๆ
ประการที่
2 เสริมสร้างการป้องปรามและการป้องกัน
ชาติสมาชิกทั้งปวงเห็นพ้องให้นาโตขยายขีดความสามารถในการป้องปรามและการป้องกัน
รักษาพลังอำนาจอาวุธนิวเคลียร์ อาวุธทั่วไปและระบบป้องกันขีปนาวุธ ย้ำเตือนข้อตกลงที่จะตั้งประมาณกลาโหมให้ถึงร้อยละ
2 ของจีดีพี และใช้ร้อยละ 20 ของงบกลาโหมซื้ออาวุธใหม่
นับจากปี
2014 เป็นต้นมานาโตยกระดับการป้องกันสมาชิก ชาติสมาชิกเห็นพ้องที่ส่งทหารไปประจำการ
ณ ประเทศสมาชิกด้วยกันมากขึ้น แสดงท่าทีทางทหารเพิ่มขึ้น
วิพากษ์
: เรื่องตั้งงบกลาโหมร้อยละ 2 ของจีดีพีเป็นเรื่องที่พูดหลายรัฐบาลแล้ว
สมัยทรัมป์ชี้ว่าสหรัฐต้องเสียงบประมาณสนับสนุนมากเกินไป ไม่ยุติธรรมต่อสหรัฐ
ไม่คุ้มกับประโยชน์ที่ได้ ดังนั้น
หากชาติสมาชิกนาโตไม่ช่วยแบกรับภาระค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม
จะขอพิจารณาถอนตัวออกจากนาโต และถ้าการทำเช่นนี้เป็นเหตุให้นาโตแตกก็ให้แตกไปเลย ในขณะที่รัฐบาลทรัมป์ขู่เช่นนั้นฝ่ายยุโรปบางประเทศโต้กลับประกาศชัดว่าจะยังไม่ทำตามด้วยเหตุผลต่างๆ
นานา มาถึงสมัยไบเดนดูเหมือนว่าเรื่องงบประมาณลดความสำคัญลง ทั้งๆ ที่กองทัพนาโตจะเข้มแข็งจริงแท้เพียงใดดูได้จากงบกลาโหม
และเป็นปัจจัยชี้วัดความเข้มแข็งของนาโตทั้งปัจจุบันและอนาคต
ประการที่
3 ให้ยืดหยุ่นมากขึ้น (Improved Resilience)
Resilience หมายถึงการเข้ากันได้ของระบบอาวุธต่างๆ รวมถึงระบบสาธารณูปโภคแต่ละประเทศที่จะต้องรองรับอาวุธ
อุปกรณ์ของชาติสมาชิกด้วยกันเอง เริ่มจากการวางมาตรฐานขั้นต่ำว่าแต่ละประเทศจะต้องมี
Resilience มากเพียงไร เช่น กำหนดมาตรฐานท่าเรือ สนามบิน
ระบบเชื้อเพลิง อาหาร เวชภัณฑ์ เครือข่ายสื่อสาร (5G)
วิพากษ์ : สมาชิกนาโต 30 ประเทศต่างมีระบบของตัวเอง
บ่อยครั้งที่ระบบทางทหารกับพลเรือนของประเทศหนึ่งเข้ากับอีกประเทศไม่ได้ ต่างมีลักษณะเฉพาะ
ต้องใช้อะไหล่ เครื่องมือ ช่างฝีมือเฉพาะ หากทำเป็นระบบเดียวหรือเชื่อมโยงเข้ากันได้จะเป็นผลดีต่อการป้องกันประเทศร่วมกัน
เป็นเรื่องที่ครอบคลุมกว้างขวาง บางเรื่องเป็นเรื่องพื้นๆ
แต่สำคัญและมีผลกระทบต่อคนทั้งประเทศ เช่น เนเธอร์แลนด์ เยอรมันใช้กำลังไฟ 230V
50 Hz ส่วนสหรัฐกับแคนาดาใช้กำลังไฟ 120V
60Hz
และเป็นเรื่องการพัฒนาของชาติสมาชิก
บางประเทศทันสมัยกว่า
ประการที่
4 รักษาการเป็นผู้นำด้านเทคโนโลยี
เริ่มโครงการพัฒนาเทคโนโลยีร่วมพลเรือนกับทหารเพื่อป้องกันแอตแลนติกเหนือ
(Defence Innovation Accelerator for the North Atlantic: DIANA) เปิดโอกาสให้พลเรือนรับทุนวิจัยโครงการที่เป็นประโยชน์ต่อกองทัพ
เทคโนโลยีใหม่มีผลต่อการรักษาสันติภาพ วิกฤตการณ์ ความขัดแย้งต่างๆ เทคโนโลยีใหม่เข้าแทนเทคโนโลยีเก่า
นาโตจำต้องเรียนรู้เท่าทัน เช่น ในทศวรรษหน้าจีนจะก้าวหน้าด้านเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์อย่างมาก
7 ด้านที่นาโตต้องเป็นฝ่ายนำเสมอ ได้แก่ artificial intelligence, data and
computing, autonomy, quantum-enabled technologies, biotechnology,
hypersonic technology และ space
โครงการ DIANA จะช่วยให้ชาติพันธมิตรได้ใช้และรับการถ่ายทอดเทคโนโลยีเร็วขึ้น
ลดช่องว่างระหว่างสมาชิกนาโต
ประการที่
5 ยึดมั่นระเบียบระหว่างประเทศที่ตั้งบนกฎเกณฑ์
ชาติสมาชิกตกลงกระชับความสัมพันธ์
รวมทั้งหุ้นส่วนที่มีความคิดคล้ายกัน ใกล้ชิดประเทศอื่นๆ ทั่วโลก
เปิดทางรับสมาชิกใหม่ เพื่อสันติภาพนาโตจำต้องเข้าพัวพันกับนานาชาติมากขึ้น
มีผลต่อการรักษาและจัดวางระเบียบระหว่างประเทศที่ตั้งอยู่บนกฎเกณฑ์ เน้นความมั่นคง
เสรีภาพและความมั่งคั่งของพันธมิตรซึ่งในขณะนี้ถูกกดดันด้วยประเทศอำนาจนิยม
โดยเฉพาะรัสเซียกับจีน
วิพากษ์ : การเพิ่มสมาชิกมีข้อดีหลายอย่างในขณะเดียวกันการมีสมาชิกมากเกิดความคิดเห็นแตกต่างหลากหลายมากขึ้นด้วย
กระทบต่อเอกภาพนาโต
การกระชับความสัมพันธ์ต้องพิจารณาว่านาโตกำลังยึดถือประโยชน์ส่วนรวมหรือให้ประเทศใดเป็นพิเศษหรือไม่โดยเฉพาะสหรัฐ
ประการที่
6 ฝึกทหารและเพิ่มพูนขีดความสามารถ
โดยเฉพาะต่อต้านก่อการร้าย การรักษาความสงบ ต่อต้านสงครามไฮบริด การบริหารภาวะวิกฤต
การรักษาสันติภาพ ปฏิรูปการป้องกันประเทศ
หลักคิดคือยิ่งชาติสมาชิกมีเสถียรภาพนาโตจะยิ่งมั่นคง
การป้องกันดีกว่าการเข้าแทรกแซง และหากจำเป็นนาโตต้องพร้อมที่จะส่งทหารเข้าจัดการวิกฤตทันที
ประการที่
7 สู้กับการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ
นาโตประกาศ
NATO Action Plan on Climate Change and Security ฉบับใหม่ ยอมรับว่าการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศเป็นประเด็นความมั่นคง
ร่วมกันลดก๊าซเรือนกระจก
วิพากษ์ : งานวิจัยหลายชิ้นสรุปว่าภาวะโลกร้อนกระทบความมั่นคงแห่งชาติอย่างรุนแรง
ทำให้วิถีชีวิตความเป็นอยู่เปลี่ยนไป ผู้คนทุกข์ยาก เกิดปัญหาซ้อนปัญหา ภัยคุกคามจีนกับรัสเซียอาจไม่ร้ายแรงหรือไม่เป็นรูปธรรมเท่ากับการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ
เพียงแต่รัฐบาลบางประเทศพูดน้อยเกินไปให้ความสำคัญน้อยเกินไป งบประมาณที่ใช้จึงก่อประโยชน์น้อยหรือแก้ปัญหาไม่ตรงจุด
การแก้ปัญหาในขณะนี้จึงน้อยกว่าที่ควร
ซื้อเวลาไปเรื่อยๆ ทิ้งภาระให้คนรุ่นหลัง
ประการที่ 8 แนวคิดยุทธศาสตร์อนาคต (Next
Strategic Concept)
โดยยึดจุดประสงค์กับภารกิจหลัก วางทิศทางยุทธศาสตร์ที่สัมพันธ์กับการเมืองและการทหาร
ตระหนักว่าบริบทเปลี่ยนแปลงซับซ้อนกว่าเดิม จีนเปลี่ยนดุลแห่งอำนาจ แนวคิดยุทธศาสตร์อนาคตกระตุ้นให้เตรียมตัวแต่เนิ่นๆ
ตอกย้ำความสำคัญของนาโต เป้าหมายหลักต่างๆ
วิพากษ์ : เป็นวิธีการคิดที่ดี มองไกลไปในอนาคต
สร้างมุมมองอนาคตที่ไกลกว่าปี 2030
ประการที่ 9 การลงทุน (Investing in NATO)
ชาติสมาชิกเห็นพ้องว่าต้องจัดสรรทรัพยากรแก่นาโตอย่างถูกต้อง
ทั้งด้านการป้องกันประเทศกับส่วนที่จัดสรรให้นาโตโดยตรง
เพียงพอรับมือความท้าทายต่างๆ ระบุงบประมาณ 3 ด้าน คือ ด้านการทหาร
พลเรือนและโครงสร้างพื้นฐาน
วิพากษ์ : ประเด็นสำคัญคือแต่ละประเทศมีขนาดเศรษฐกิจไม่เท่ากัน
ชาติสมาชิกมองระดับภัยคุกคามไม่เท่ากัน บางประเทศทุ่มงบประมาณกลาโหมมาก
บางประเทศเห็นว่าควรทุ่มให้กับการพัฒนาเศรษฐกิจสังคมมากกว่า เป็นโจทย์เก่าที่ถามเสมอว่าอะไรสำคัญกว่า
เมื่อมองไปถึงปี 2030 นาโตประกาศชัดว่าจีนกับรัสเซียเป็นปรปักษ์สำคัญ จีนเปลี่ยนดุลแห่งอำนาจ
สอดรับกับยุทธศาสตร์ความมั่นคงแห่งชาติสหรัฐ แต่แผนกับการปฏิบัติจริงจะสอดคล้องแค่ไหนเป็นเรื่องน่าติดตาม
-------------------------
1. NATO. (2021, June). NATO 2030. Retrieved from https://www.nato.int/nato_static_fl2014/assets/pdf/2021/6/pdf/2106-factsheet-nato2030-en.pdf