เลือกตั้งอเมริกา 2020 สัญญาณเกิดเหตุรุนแรง
เลือกตั้ง 2020 พิเศษกว่าทุกปีเกิดคำถามว่าจะลงเอยด้วยเหตุรุนแรงหรือไม่ มีสัญญาณบ่งชี้ การเลือกตั้งน่าจะสงบเรียบร้อยหากทรัมป์เป็นฝ่ายชนะซึ่งมีโอกาสเป็นไปได้เช่นกัน
เลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐในรอบหลายสิบปีที่ผ่านมาบางปีรู้ว่าใครน่าจะชนะ บางปีไม่แน่ใจ สำหรับปี 2020 คำถามที่น่าสนใจไม่ใช่แค่เรื่องใครชนะแต่เป็นคำถามว่าสิ่งที่ตามมาหลังวันเลือกตั้งคือสงบสันติหรือจลาจลวุ่นวาย
ทรัมป์สัมพันธ์กับโอกาสเกิดความรุนแรง :
การวิเคราะห์ว่าเลือกตั้งประธานาธิบดี 2020 อาจเกิดเหตุรุนแรงสัมพันธ์กับความเป็นตัวตนของประธานาธิบดีโดนัลด์
ทรัมป์
ประการแรก
ทรัมป์ไม่เคารพหลักประชาธิปไตย
ผลโพลที่นำเสนอต้นเดือนพฤศจิกายน
2019 ของ AP-NORC ระบุว่าคนอเมริกันร้อยละ 61 คิดว่าทรัมป์ไม่เคารพหลักประชาธิปไตย
ในจำนวนนี้ร้อยละ 26 เป็นพวกรีพับลิกัน ผลโพลเดียวกันนี้ยังระบุอีกว่าร้อยละ 85
ของพวกรีพับลิกันสนับสนุนทรัมป์เป็นประธานาธิบดีต่ออีกสมัย แม้หลายคนยอมรับว่าทรัมป์มีปัญหาเรื่องความซื่อสัตย์
มักพูดเท็จ
ความไม่เป็นประชาธิปไตยของทรัมป์เป็นที่โจษจัน Robert Boxwell สรุปว่านับจากเริ่มเข้ารับตำแหน่งพวกเดโมแครทเรียกประธานาธิบดีว่าเป็น
“เผด็จการ” (dictator) “กษัตริย์” (king) หรือไม่ก็ “ฟาสซิสต์” (fascist) คำเหล่านี้มีความหมายไม่แตกต่างในแง่ไม่เป็นประชาธิปไตย
ประการที่
2 ทรัมป์เป็นพวกเหยียดผิวเหยียดเชื้อชาติ
ความไม่เป็นประชาธิปไตยของทรัมป์ยังแสดงออกผ่านการเหยียดผิวเหยียดเชื้อชาติ
(racism) ไม่คิดว่าทุกคนเท่าเทียมกัน
โจ
ไบเดนกล่าวว่าแทนที่ประธานาธิบดีจะทำหน้าที่รวมทุกสีผิวทุกเชื้อสายเข้าเป็นหนึ่ง
คนอเมริกันทุกคนคือส่วนหนึ่งของประเทศ เขาทำตรงข้าม “แบ่งแยกประเทศ แบ่งแยกประชาชน”
ยึดแนวทางสุดโต่ง โหมกระพือ “white supremacy"
ประการที่ 3 สู้เพื่อประชาธิปไตยหมายถึงเรื่องปากท้อง
ในขณะที่คนอเมริกันครึ่งประเทศเห็นว่าทรัมป์เป็นภัยต่อระบอบประชาธิปไตย
แต่อีกครึ่งต้องการให้ประธานาธิบดีทรัมป์อยู่ต่อ คนกลุ่มหลังเห็นว่าการ “สู้เพื่อทรัมป์คือการสู้เพื่อประชาธิปไตย”
แท้จริงแล้วคนเลือกทรัมป์ไม่ใช่เพราะเขาเป็นคนอย่างไรแต่เลือกโดยดูว่าดูแลเศรษฐกิจได้ดีเพียงใด
รัฐบาลจะเผด็จการหรือไม่ ไม่น่ากลัวเท่ากับความอดอยาก
ประธานาธิบดีทรัมป์เตือนว่าตลาดหุ้นจะพังหากเขาแพ้เลือกตั้ง
คนจะตกงานมากกว่านี้ ยุคเขาเศรษฐกิจดีที่สุด
แรงสนับสนุนจาก QAnon :
ย้อนหลังเลือกตั้งปี
2016 ฮิลลารี คลินตันคู่แข่งทรัมป์ถูกตีตราว่าเป็นตัวแทนของชนชั้นปกครอง
ส่วนทรัมป์เป็นคนของประชาชน หลายคนจึงสนับสนุนทรัมป์
การเลือกตั้งปีนี้เกิดทฤษฎีสมคบคิดของ
QAnon ชี้ว่าหากไบเดนชนะ รัฐบาลไบเดนจะสนับสนุนการลักพาเด็ก ค้าประเวณีเด็ก
ข้อมูลของ HOPE Not Hate ชี้ว่าร้อยละ 20
ของคนที่สนับสนุนทรัมป์คือพวก QAnon พวกเขาต้องการให้ทรัมป์ชนะเลือกตั้งอีกครั้ง
มองว่าทรัมป์คือผู้กอบกู้อเมริกา ต้องต่อต้านไบเดนที่เป็นตัวแทนของชนชั้นปกครอง
จะเห็นว่าสถานการณ์เลือกตั้งรอบนี้มีส่วนคล้ายเลือกตั้งปี 2016 ต้องเลือกทรัมป์จึงจะออกจากวังวนชนชั้นปกครอง
พวกเขายืนยันว่าทรัมป์กำลังสู้กับ
“รัฐพันลึก” (Deep State) ฮิลลารี
คลินตัน บารัก โอบามา คือแกนนำรัฐพันลึกและตอนนี้มุ่งเป้าโจ ไบเดน
ความขัดแย้งที่ขยายตัวและบาดลึก :
ความขัดแย้งระหว่าง
2 พรรคใหญ่สร้างความแตกแยกทางการเมือง สื่อรายงานแทบทุกวันถึงความแตกแยกของคนในชาติ
ความขัดแย้งทางการเมืองของอเมริกาขยายตัวเรื่อยๆ ในยุคทรัมป์ความขัดแย้งบาดลึกชัดเจน
หลายคนชี้ว่าทรัมป์เป็นพวกเหยียดผิวเหยียดเชื้อชาติ สนับสนุนคนผิวขาวแบบสุดโต่ง ผู้นำประเทศเป็นผู้กระตุ้นกระแสเหยียดหยามมนุษย์
เหยียดหยามคนในชาติเดียวกัน มีคนตั้งคำถามว่าทรัมป์ละเมิดรัฐธรรมนูญอเมริกาหรือไม่
ละเมิดสิทธิมนุษยชนหรือเปล่า แต่ทรัมป์ยังคงประพฤติเหมือนเดิม พลอยให้การคุกคามรังแกเหยียดผิวเหยียดเชื้อชาติทวีความรุนแรง
สื่อจีน
Global Times พิพากษ์ว่าแท้จริงแล้วนโยบายของพรรคการเมืองแทบไม่แตกต่าง
แต่สร้างความแตกแยก ต่างกันที่ชอบทรัมป์กับไม่ชอบทรัมป์ ที่น่าประหลาดใจคือพวกที่ชอบทรัมป์จะหลับหูหลับตาชอบ
ทำนองเดียวกับพวกไม่ชอบจะเอาแต่ตำหนิติเตียน ละทิ้งตรรกะเหตุผล
โจ
ไบเดน คู่ชิงจากเดโมแครทโจมตีทรัมป์ว่าทำให้อเมริกาเป็นสถานที่อันตรายกว่าเดิม
ยั่วยุให้เกิดความขัดแย้งระหว่างเชื้อชาติ
โดยรวมแล้วสมัยรัฐบาลทรัมป์ความขัดแย้งของคนในชาติเพิ่มขึ้น
ความขัดแย้งระหว่างสีผิวเชื้อชาติเด่นชัดกว่าเดิม
เกิดภาวะสะสมความจงเกลียดจงชังต่อกัน ผู้นำประเทศที่น่าจะรวมคนทั้งประเทศเข้าด้วยกันกลับทำสิ่งตรงข้าม
อธิบายได้ว่าเพื่อให้คนส่วนหนึ่งสนับสนุนตนอย่างไม่ลืมหูลืมตา ให้ตนชนะเลือกตั้ง
สัญญาณส่อเค้าความรุนแรง :
มีหลายเหตุการณ์ที่ส่งสัญญาณส่อเค้าความรุนแรง
ประการแรก
ทรัมป์ส่งสัญญาณ
ในมุมมองทรัมป์เลือกตั้งอเมริกาไม่โปร่งใส
พวกเดโมแครทจะโกงเลือกตั้ง กลางสิงหาคมทรัมป์ประกาศตัดงบประมาณการไปรษณีย์แห่งประเทศสหรัฐอเมริกา
(The United States Postal Service: USPS) หวังขัดขวางการลงคะแนนเลือกตั้งผ่านทางไปรษณีย์
เพราะเมื่องบไม่พอระบบดังกล่าวจะไม่ทำงาน ทรัมป์อ้างว่าการลงคะแนนทางไปรษณีย์เป็นกลโกงเลือกตั้ง
ย้ำหลายรอบว่าหากต้องการให้การเลือกตั้งสงบเรียบร้อย
ต้องให้ยกเลิกวิธีลงคะแนนทางไปรษณีย์
ประการที่
2 กระแสทรัมป์ไม่ยอมรับผลการเลือกตั้ง
จากท่าทีของทรัมป์เกิดข้อสงสัยว่าทรัมป์อาจไม่ยอมรับผลการเลือกตั้งซึ่งทรัมป์ออกตัวว่าไม่ใช่ตนไม่ยอมรับผลการเลือกตั้ง
แต่อาจต้องให้ศาลสูงตัดสินซึ่งหมายความว่าจะไม่ยอมรับผลการเลือกตั้งง่ายๆ
บนเวทีปราศรัยหาเสียงทรัมป์พูดชี้ช่องให้ผู้สนับสนุนรู้ว่าควรทำอย่างไรหากตนแพ้เลือกตั้ง
คำพูดนี้ถูกตีความว่าให้ฝ่ายขวาเตรียมพร้อมกระทำการอย่างใดอย่างหนึ่ง
ที่ผ่านมาทรัมป์สนับสนุนฝ่ายขวาเต็มที่ รวมทั้งพวกที่พร้อมใช้ความรุนแรง
ถืออาวุธสงคราม
กลุ่มขวาจัด
Proud Boys มั่นใจว่าทรัมป์จะชนะเลือกตั้งอีก ฝ่ายเดโมแครทจะไม่ยอมออกมาเผาบ้านเผาเมือง
พวกตนจึงต้องเตรียมพร้อมรับมือด้วยอาวุธสงคราม ข้อนี้จะเป็นจริงหรือไม่ต้องรอพิสูจน์
เป็นวาทกรรมที่ฝ่ายขวาวางไว้ พวกเขาพร้อมใช้อาวุธเพื่อ “ป้องกัน” การโกงเลือกตั้ง
ในอีกวาระทรัมป์เตือนว่าจะเกิดปฏิวัติ
(revolution) หากไบเดนชนะเลือกตั้ง พูดเป็นนัยว่าพวกที่เลือกตนจะไม่ยอม
จะลุกฮือไม่ยอมรับผลการเลือกตั้ง
ด้านอัล
กอร์ (Al Gore) อดีตรองประธานาธิบดีพรรคเดโมแครทเรียกร้องให้กองทัพออกมาหากทรัมป์ไม่ยอมรับผลการเลือกตั้ง
ชี้ว่าเหตุที่ทรัมป์ตั้งข้อสงสัยว่าเลือกตั้งจะไม่โปร่งใสคือแผนที่วางไว้ว่าจะไม่ยอมรับผลการเลือกตั้ง
จากข้อมูลทั้งหมดนักวิเคราะห์บางคนตีความว่าเลือกตั้งปีนี้อาจไม่จบง่ายๆ
สัปดาห์ก่อนกลุ่มชาติอียู 27 ประเทศหารือรับมือหากเลือกตั้งอเมริกาลงเอยด้วยความรุนแรง
อะไรจะเกิดขึ้นหากทรัมป์ไม่ยอมรับผลการเลือกตั้ง หากสังคมอเมริกันสับสนว่าใครชนะเลือกตั้งใครควรเป็นประธานาธิบดีคนต่อไป
เป็นเรื่องปกติที่ในช่วงหาเสียงจะห้ำหั่นกันด้วยคำพูด
เลือกตั้ง 2020 พิเศษกว่าทุกปีเกิดคำถามว่าจะลงเอยด้วยเหตุรุนแรงหรือไม่
หวังว่าจะไม่เกิดหรือเกิดเล็กน้อยบางจุดเท่านั้น
การเลือกตั้งน่าจะสงบเรียบร้อยหากทรัมป์เป็นฝ่ายชนะซึ่งมีโอกาสเป็นไปได้เช่นกัน
1 พฤศจิกายน
2020
ชาญชัย
คุ้มปัญญา
(ตีพิมพ์ใน
คอลัมน์ “สถานการณ์โลก” ไทยโพสต์ ปีที่
25 ฉบับที่ 8756 วันอาทิตย์ที่ 1 พฤศจิกายน พ.ศ. 2563)
--------------------------
บทความที่เกี่ยวข้อง :
1. 61% say Trump doesn't respect democratic norms, 56% say
'honesty' doesn't describe him: AP-NORC poll. (2019,
November 1). The Japan Times. Retrieved from
https://www.japantimes.co.jp/news/2019/11/01/world/politics-diplomacy-world/61-say-trump-doesnt-respect-democratic-norms-56-say-honesty-doesnt-describe-ap-norc-poll/#.Xbt2m5IzbZ4
2. Al Gore Suggests Military Could Be
Deployed If Trump Doesn't Concede Election Results. (2020,
August 27). Sputnik News. Retrieved from https://sputniknews.com/us/202008271080289464-al-gore-suggests-military-could-be-deployed-if-trump-doesnt-concede-election-results/
3. Biden condemns violence and asks if Americans 'really
feel safe under Donald Trump'. (2020, August 31). CNN. Retrieved from https://edition.cnn.com/2020/08/31/politics/joe-biden-pittsburgh-violence-speech/index.html
4. Biden says Trump is first racist U.S. president. (2020, July 22). NBC News. Retrieved
from https://www.nbcnews.com/politics/donald-trump/biden-says-trump-first-racist-u-s-president-n1234657
5. Democrats trying to steal election,
says Trump after getting Republican nomination. (2020,
August 25). Fox News. Retrieved from https://www.freemalaysiatoday.com/category/world/2020/08/25/democrats-trying-to-steal-election-says-trump-after-getting-republican-nomination/
6. Despite
the Trump impeachment trial and State of the Union saga, American democracy is
far from broken. (2020, February 11). South China Morning Post.
Retrieved from https://www.scmp.com/comment/opinion/article/3050007/despite-trump-impeachment-trial-and-state-union-saga-american
7. Europe Preparing for the Worst in Washington. (2020,
October 16). Spiegel Online. Retrieved from
https://www.spiegel.de/international/world/what-if-trump-won-t-go-europe-preparing-for-the-worst-in-washington-a-d867b420-bbb9-4214-a67a-47bc32a69748
8. Joe Biden calls Donald Trump 'the first racist president'
of the United States while Trump insists he has done more to help black
Americans than anyone since Abraham Lincoln. (2020, July 22). Daily Mail. Retrieved from https://www.dailymail.co.uk/news/article-8550767/Joe-Biden-calls-Donald-Trump-racist-president-United-States.html
9. Presidential debate raises the
specter of election violence. (2020, September 30). The Hill. Retrieved from https://thehill.com/opinion/campaign/519004-presidential-debate-raises-the-specter-of-election-violence
10. ‘QAnon’
conspiracy theory creeps into mainstream politics. (2020, February 9). AP.
Retrieved from https://apnews.com/e230131513bf3df60c76bb1151bc6b7c
11. "There Will Be Unrest, Dead
Civilians". (2020, October 19). Spiegel
Online. Retrieved from https://www.spiegel.de/international/america-s-trump-supporting-militias-there-will-be-unrest-dead-civilians-a-72a3d3f0-ebbd-4036-a71f-987dffcb215c
12. Top
Trump aide claims Biden would encourage child trafficking, echoing baseless
QAnon conspiracy. (2020, October 28). The
Independent. Retrieved from
https://www.independent.co.uk/news/world/americas/us-election-2020/stephen-miller-qanon-conspiracy-joe-biden-us-election-2020-b1402665.html
13. Trump says he opposes funding USPS
because of mail-in voting. (2020, August 13).
CNN. Retrieved from https://edition.cnn.com/2020/08/13/politics/trump-usps-funding-comments-2020-election/index.html
14. Trump
says stock markets will crash if he loses election. (2020, February 25).
Channel News Asia. Retrieved from https://www.channelnewsasia.com/news/business/trump-says-stock-markets-will-crash-if-he-loses-election-12469426
15. Trump's comments send a signal to
his supporters about how to react if Biden prevails. (2020,
September 24). CNN. Retrieved from https://edition.cnn.com/2020/09/24/politics/donald-trump-election-democracy/index.html
16. Western divisions lead to biased mentality. (2019, December 24). Global Times.
Retrieved from https://www.globaltimes.cn/content/1174687.shtml
--------------------------