ไอซิสยังไม่ตายและอาจไม่มีวันตาย
แม้ไม่มีรัฐอิสลามดังที่เคยเป็นแต่ไอซิส (ISIS) ยังไม่ตาย ยังคงหาสมาชิกเพิ่มและปฏิบัติการเพื่อความอยู่รอดรอวันกลับมา การปราบปรามกลายเป็นภาระที่ต้องดำเนินอีกนานเท่ากับการคงอยู่ของสหรัฐ
🌸🙌 فی عین الله
Operation Inherent Resolve (OIR) คือปฏิบัติการของกองทัพสหรัฐเพื่อแทรกแซงทางทหารต่อไอซิส
(Islamic State in Iraq and Syria: ISIS) รวมทั้งปฏิบัติการต่างๆ
ใน 2 ประเทศนี้ รายงานที่บทความนำเสนอเป็นฉบับ 1 เมษายน - 30 มิถุนายน 2019
มีสาระสำคัญดังนี้
แม้ทั้งรัฐบาลสหรัฐกับอิรักประกาศชัยชนะต่อการทำสงครามกับไอซิส
แต่ยังคงมีสมาชิกไอซิสเหลืออยู่ราว 14,000 – 18,000 คนและก่อการเป็นจุดๆ คอยล่าสังหาร ซุ่มโจมตี
เป็นระเบิดพลีชีพ ปฏิบัติการแบบกองโจร กองกำลังผสม Combined Joint Task
Force-Operation Inherent Resolve (CJTF-OIR) ที่ประกอบด้วยหลายประเทศโดยมีสหรัฐเป็นแกนนำจึงยังทำหน้าที่รักษาความสงบในแถบนี้ต่อไป
สาเหตุหนึ่งเป็นเพราะกองทัพอิรักกับกองกำลังประชาธิปไตยซีเรีย (Syrian
Democratic Forces: SDF) ไม่อาจทำหน้าที่ได้ด้วยตัวเอง ไม่สามารถรักษาควบคุมพื้นที่ทั้งหมด
เป้าหมายของกองกำลังสหรัฐยังเหมือนเดิมคือทำลายไอซิสและกลุ่มก่อการร้ายที่ใกล้ชิดอัลกออิดะห์
สนับสนุนแก้ปัญหาซีเรียด้วยวิถีทางการเมือง จัดเลือกตั้งที่บริสุทธิ์ยุติธรรม
ร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ ต่อต้านกองกำลังที่อิหร่านสนับสนุน
ปกป้องพันธมิตรกับหุ้นส่วน สร้างเสริมเสถียรภาพภูมิภาค ส่งเสริมสิทธิมนุษยชน ฯลฯ
ปัจจุบันมี 80 ชาติที่อยู่ในฐานะกองกำลังร่วม รัฐบาลสหรัฐต้องการให้ทุกประเทศระบุชัดว่าจะมีส่วนสนับสนุนภารกิจเต็มที่
อาจเป็นเรื่องกำลังทหารหรืองบประมาณสนับสนุน โดยเฉพาะในยามที่สหรัฐถอนกำลังส่วนหนึ่งออกจากซีเรีย
สถานการณ์ในซีเรีย :
ผู้ก่อการร้ายมักก่อเหตุในแถบภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
(ติดกับอิรัก) จังหวัดที่มักเกิดเหตุคือ Dayr az Zawr กับ Raqqah
และ Homs ส่วนใหญ่เป็นปฏิบัติการต่อต้านกองกำลังฝ่ายรัฐบาลอัสซาด
ในบางพื้นที่มีอิทธิพลสามารถเก็บภาษีจากคนท้องถิ่น
กิจการต่างๆ แต่รายได้ลดน้อยลงมากเมื่อเทียบกับอดีต สูญเสียบ่อน้ำมันให้กับกองกำลังประชาธิปไตยซีเรีย
(SDF – ที่รัฐบาลสหรัฐสนับสนุนใกล้ชิด)
ไอซิสเลือกที่จะไม่เผชิญหน้าโดยตรงกับกองทัพสหรัฐ เน้นการหลบซ่อนฟื้นฟู ก่อเหตุเพื่อจุดประสงค์ดังกล่าว
ไม่เป็นภัยคุกคามร้ายแรงต่อกองกำลังสหรัฐในพื้นที่
เป้าหมายหลักของ SDF
คือกวาดล้างไอซิสออกจากพื้นที่ประชากรหนาแน่น แยกไอซิสออกจากคนท้องถิ่นให้มากที่สุด
แต่กองกำลัง SDF มีประสิทธิภาพต่ำ ขาดทั้งการฝึกฝน
ขีดความสามารถในการรบ จำต้องฝึกฝนกองกำลังท้องถิ่นให้มีขีดความสามารถมากพอที่จะได้รับความเชื่อถือจากชาวบ้าน
กองกำลังเหล่านี้มีความจำเป็นสนับสนุนปฏิบัติการของสหรัฐ คอยทำหน้าที่กวาดล้าง
ปัจจุบัน
SDF ควบคุมตัวผู้ก่อการร้ายไอซิสได้ถึง 10,000 คน
ในจำนวนนี้ร้อยละ 20 เป็นชาวต่างชาติ ร้อยละ 80 เป็นคนอิรักกับซีเรีย รัฐบาลสหรัฐร้องขอให้เจ้าของประเทศรับตัวกลับประเทศเพื่อรับโทษตามกฎหมาย
แต่มีเพียงไม่กี่ประเทศที่รับคืนหรือรับคืนบางส่วน
นอกจากนี้ยังมีประเด็นสมาชิกครอบครัวไอซิสจำนวนกว่า
70,000 คน 2 ใน 3 เป็นเด็กอายุต่ำกว่า 12 ขวบ คนเหล่านี้อาศัยในเขตพื้นที่ควบคุมพิเศษเช่นกัน
เมื่อไม่นานนี้สหรัฐถอนทหารจำนวนหนึ่งจากซีเรียไปประจำการในอิรัก
อาจต้องอาศัยกองกำลังต่างชาติหรือหาทางอื่นๆ เพื่อเสริมกำลังในซีเรีย หาไม่แล้วจะทำให้เขตปกครองประชาธิปไตยในซีเรียเสียไป
(หมายถึงเขตพื้นที่ๆ กองกำลังสหรัฐร่วมควบคุม ไม่ใช่เขตปกครองของรัฐบาลอัสซาด)
ตุรกีพยายามจะจัดตั้งเขตกันชน
(buffer zone) กว้าง 20 ไมล์โดยกินพื้นที่ลึกเข้าไปในซีเรีย ประเด็นติดขัดคือเรื่องที่ตุรกีต้องการคงกองทัพในพื้นที่ดังกล่าว
รัฐบาลแอร์โดกานยืนยันว่าหากสหรัฐไม่ร่วมมือ ตุรกีจะคงกองทหารของตนเพียงลำพัง ล่าสุดการจัดตั้งเขตกันชนมีความคืบหน้า
และอาจมีการจัดตั้งเขตกันชนเพิ่มในเขตอื่นด้วย
รัฐบาลอัสซาดแม้สามารถยึดคืนพื้นที่จำนวนมาก
แต่การฟื้นฟูให้เมืองกลับมาเป็นปกติมีอุปสรรค ขาดแคลนทรัพยากร ได้แต่แก้ปัญหาเฉพาะหน้า
การปะทะที่ยังคงมีเป็นระยะๆ เป็นอีกอุปสรรคต่อการช่วยเหลือจากองค์การบรรเทาทุกข์
สถานการณ์ในอิรัก :
พวกไอซิสในอิรักพยายามจัดโครงสร้างใหม่
กำหนดตัวผู้นำ สร้างแหล่งกบดานตามชนบท ภูเขา ในแถบพื้นที่ของพวกซุนนี อำนาจรัฐบาลยังไปไม่ถึงหรือไม่สามารถควบคุมพื้นที่ถาวร
เช่นในแถบจังหวัด Anbar, Ninewa, Salah ad Din, Kirkuk และ
Diyala ชาวบ้านท้องถิ่นให้การสนับสนุนหรือได้รับเงินค่าจ้าง ไอซิสซีเรียส่วนหนึ่งหนีเข้ามาในอิรัก
เฉพาะไตรมาส
2 ของปี 2019 สามารถจับกุมหรือสังหารไอซิส 550 คนจากปฏิบัติการกวาดล้าง
แต่เมื่อกองกำลังพันธมิตรถอนตัวกลับ ไอซิสกลับเข้าไปครองพื้นที่ตามเดิม
กองกำลังชีอะห์ที่อิหร่านสนับสนุน :
นับจากเริ่มปราบปรามไอซิสจนปัจจุบัน
กองกำลังชีอะห์ที่อิหร่านหนุนหลังมีบทบาทไม่น้อย กองกำลังนี้ร่วมมือกับกองทัพรัฐบาลอัสซาด
เดินทางข้ามพรมแดนระหว่างอิรักกับซีเรียเป็นประจำ รัฐบาลสหรัฐเป็นกังวลทั้งในมิติการปราบปรามไอซิส
อิทธิพลของชีอะห์อิหร่านที่เพิ่มขึ้นในพื้นที่ กองกำลังชีอะห์ที่ว่านี้ส่วนหนึ่งคือมุสลิมชีอะห์ในอิรักนั่นเอง
ไม่เพียงเท่านั้น
ข้อมูลบางแหล่งระบุว่าอิหร่านส่งกองกำลังพิทักษ์ปฏิวัติอิสลามของอิหร่าน (Islamic
Revolutionary Guard Corps) 3,000 นายเข้าไปในซีเรีย เข้าร่วมกับกองกำลังชีอะห์ต่างชาติทั้งพวกอิซบอลเลาะห์จากเลบานอน
ชีอะห์จากอิรัก อัฟกานิสถาน และปากีสถาน รวมกันทั้งหมดมีจำนวนกว่า 100,000 นาย
กองกำลังเหล่านั้นได้รับทุนอุดหนุนจากรัฐบาลอิหร่าน มักปฏิบัติการในภาคตะวันออกของซีเรียกับภาคตะวันตกของอิรัก
(เขตพื้นที่เดียวกับที่ไอซิสมีอิทธิพล) กองกำลังเหล่านี้รบกับพวกไอซิสโดยตรง
หลีกเลี่ยงปะทะกับทหารสหรัฐ พยายามมีส่วนช่วยเหลือชาวบ้านและควบคุมกิจกรรมต่างๆ
ของชุมชน
การเผชิญหน้าระหว่างสหรัฐกับอิหร่านในระยะนี้
(จากเหตุขัดแย้งเรื่องข้อตกลงนิวเคลียร์ เหตุตึงเครียดในอ่าวเปอร์เซีย) ทำให้ความตึงเครียดระหว่างทหารสหรัฐกับกองกำลังที่อิหร่านหนุนเพิ่มขึ้นด้วย
สหรัฐเกรงว่ากองกำลังที่อิหร่านหนุนอาจโจมตีกองกำลังสหรัฐ เป็นภัยต่อเจ้าหน้าที่สถานทูต
จึงต้องลดจำนวนเจ้าหน้าที่ในอิรักให้เหลือเท่าที่จำเป็น
ผู้ก่อการร้ายไอซิสส่วนใหญ่คือคนท้องถิ่น
:
ความเข้าใจสำคัญข้อหนึ่งคือตั้งแต่เริ่มแรกสมาชิกไอซิสส่วนใหญ่คือคนท้องถิ่น
คือชาวซีเรียกับอิรัก คนเหล่านี้พื้นฐานเป็นมุสลิมซุนนี ปัจจุบันมีสมาชิกไอซิสทั้งหมดราว
14,000 – 18,000 คน ในจำนวนนี้เป็นชาวต่างชาติกว่า 3,000 คน และยังคงพยายามหาสมาชิกใหม่จากคนซีเรียกับอิรัก
โดยเฉพาะจากพวกซุนนีเชื้อสายอาหรับ น่าสนใจว่าแม้ถูกปราบปรามต่อเนื่อง
ไม่มีรัฐอิสลามดังอดีตอีกแล้ว แต่ความนิยมต่อแนวคิดไอซิสยังคงอยู่
ไอซิสใช้หลายวิธีเพื่อขอการสนับสนุนจากคนพื้นที่
เช่น พยายามชี้ว่าพวกเคิร์ดที่เป็นมุสลิมซุนนีต่างจากมุสลิมซุนนีเชื้อสายอาหรับ มุสลิมเชื้อสายอาหรับจึงต่อต้านพวกเคิร์ดทั้งๆ
ที่เป็นซุนนีเหมือนกันและต่างเป็นชาวซีเรียโดยสัญชาติเหมือกัน
การที่ไอซิสยังอยู่ได้ส่วนหนึ่งเป็นเพราะคนพื้นถิ่นจำนวนไม่น้อยยังนิยมชมชอบ
เห็นใจ ช่วยปกปิดที่ซ่อน ให้ความช่วยเหลืออย่างลับๆ ดังนั้น ถ้าบอกว่าไอซิสคือผู้ก่อการร้ายต้องตีความต่อว่าได้รับการสนับสนุนจากมุสลิมซุนนีในพื้นที่เหล่านั้น
เป็นอีกเหตุผลที่ไอซิสยังไม่ตาย พยายามฟื้นตัวตลอดเวลา การกวาดล้างอาจต้องกินเวลาอีกนานตราบเท่าที่ความนิยมต่อแนวคิดไอซิสยังคงอยู่
และรัฐบาลสหรัฐต้องการคงกองกำลังของตนในพื้นที่
8 กันยายน
2019
ชาญชัย
คุ้มปัญญา
(ตีพิมพ์ใน
คอลัมน์ “สถานการณ์โลก” ไทยโพสต์ ปีที่
23 ฉบับที่ 8337 วันอาทิตย์ที่ 8 กันยายน พ.ศ.2562)
-----------------------------
บทความ :
ผู้ก่อการร้ายยังคงมีอยู่ในกว่าร้อยประเทศทั่วโลก
มีทั้งกลุ่มเล็กกับกลุ่มใหญ่ชื่อดังอย่างอัลกออิดะห์ ISIS บางครั้งก่อเหตุตามลำพังจนถึงขั้นมีรัฐบาลต่างชาติให้การสนับสนุน
เป็นอีกประเด็นที่อยู่คู่สถานการณ์โลก
Pew Research Center
เสนอผลสำรวจภัยคุกคามต่างๆ ตามความคิดเห็นของประชาชน พบว่าผู้ก่อการร้าย IS/ISIL/ISIS กับการเปลี่ยนแปลงภูมิอากาศโลก (global climate change) คือ 2 ประเด็นที่คนทั่วโลกเห็นว่าเป็นภัยคุกคามร้ายแรงที่สุดในขณะนี้
บรรณานุกรม :
1. Turkey, US agree to launch 1st
phase of safe zone plan. (2019, August 22). Hurriyet Daily News. Retrieved
from http://www.hurriyetdailynews.com/turkey-us-agree-to-launch-1st-phase-of-safe-zone-plan-145958
2. U.S. Department of Defense. (2019, 1 April-30 June). Operation
Inherent Resolve (OIR). Retrieved from https://media.defense.gov/2019/Aug/06/2002167167/-1/-1/1/Q3FY2019_LEADIG_OIR_REPORT.PDF
---------------------------