ทรัมป์อยากเป็นมิตรกับรัสเซีย แต่เป็นมิตรเพื่อใคร
หลังถูกวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนัก
ประธานาธิบดีทรัมป์ชี้แจงว่าการเป็นมิตรกับรัสเซียย่อมดีกว่า
เพราะทั้งคู่เป็นมหาอำนาจนิวเคลียร์ คำถามคืออยากเป็นมิตรเพื่อใคร
บรรณานุกรม :
หลังการวิพากษ์วิจารณ์อย่างดุเดือดจากผู้แทนรัฐสภาทั้ง 2 พรรคใหญ่ ประธานาธิบดีทรัมป์ชี้แจงว่าตนพูดผิด
จริงๆ แล้วต้องการพูดว่า “ผมคิดว่า ‘มี’ เหตุผลว่าทำไมรัสเซียแทรกแซงเลือกตั้ง” แทนคำว่า ‘ไม่มี’ เหตุผลที่รัสเซียจะแทรกแซงเลือกตั้ง
ในตอนแรกประธานาธิบดีทรัมป์ไม่ใช่คนเดียวที่เปลี่ยนท่าทีมองรัสเซียเป็น
“คู่แข่งขัน” แทนการเป็น “ปรปักษ์” (enemy) ส.ส. ส.ว.บางคนคิดเห็นตรงกับทรัมป์
รอดูผลงานของรัฐบาล แต่เมื่อการประชุมสุดยอดระหว่างผู้นำสหรัฐกับรัสเซียดำเนินไปสถานการณ์เริ่มเปลี่ยนทิศ
สมาชิกรัฐสภาหลายท่านทั้งจากพรรครีพับลิกันกับเดโมแครทตำหนิทรัมป์อย่างเปิดเผย
ยกตัวอย่าง วุฒิสมาชิกพรรคเดโมแครท มาร์ค วอร์เนอร์ (Mark Warner) วุฒิสมาชิกพรรครีพับลิกัน มาร์โก รูบิโอ (Marco Rubio) แถลงข่าวร่วมกันว่าประชาคมโลกต้องรับรู้ว่าชาติประชาธิปไตยเข้าไม่ได้กับรัฐบาลปูตินหรือระบอบอำนาจนิยมใดๆ
ต้องร่วมกันต่อต้านการรุกรานจากรัสเซีย
วุฒิสมาชิกพรรครีพับลิกัน เบน ซาซ์ (Ben Sasse) กล่าวว่า
“ชาวอเมริกันผู้รักชาติทุกคนควรเข้าใจว่าปูตินไม่ใช่เพื่อนอเมริกาและไม่ใช่คู่หูของประธานาธิบดี”
พอล ไรอัน (Paul
Ryan) แกนนำสำคัญของพรรครีพับลิกันกล่าวว่า
“เรายืนเคียงพันธมิตรนาโตและทุกประเทศที่กำลังเผชิญการรุกรานจากรัสเซีย”
รัสเซียแทรกแซงเลือกตั้งอเมริกาหรือไม่ :
ตั้งแต่สิ้นการเลือกตั้งประธานาธิบดีเมื่อปลายปี 2016 กระแสข่าวรัฐบาลรัสเซียแทรกแซงการเลือกตั้งดังหนาหูขึ้นทุกที
ประธานาธิบดีโอบามาใช้ช่วงเวลาสุดท้ายของท่านลงนามให้สืบสวนเรื่องนี้และดำเนินเรื่อยมา
ล่าสุดคณะลูกขุนใหญ่ชี้ว่าจารชนรัสเซีย 12 คนเกี่ยวข้องกับการแฮกข้อมูลพรรคเดโมแครทหวังช่วยทรัมป์ให้ชนะเลือกตั้ง
บ่งชี้ว่ารัฐบาลรัสเซียแทรกแซงกิจการภายใน บ่อนทำลายประชาธิปไตย เป็นภัยความมั่นคงร้ายแรง
จำต้องปฏิบัติต่อรัสเซียในฐานะปรปักษ์ ลงโทษรัสเซียอย่างใดอย่างหนึ่ง
การพิจารณาคดีของศาลมาจาก กลุ่มหน่วยงานข่าวกรองที่ได้ร่วมสรุปแล้วว่ารัฐบาลปูตินแทรกแซงการเลือกตั้งประธานาธิบดีเมื่อปี
2016
หลังการประชุมสุดยอด
ทรัมป์เชื่อว่ารัสเซียไม่ได้แทรกแซงเลือกตั้ง
เหตุเพราะประธานาธิบดีปูตินปฏิเสธอย่างแข็งขัน คำพูดนี้อาจตีความว่าประธานาธิบดีสหรัฐเชื่อคำพูดของผู้นำรัสเซียมากกว่าหน่วยงานข่าวกรอง
สถาบันศาลสหรัฐ
หลังถูกวิพากษ์อย่างหนัก
ทรัมป์กล่าวซ้ำว่าตนยังเชื่อมั่นหน่วยงานข่าวกรองทั้งหมด แต่หากต้องการสร้างอนาคตที่ดีกว่าจำต้องมองข้ามอดีต
เพื่อ 2 มหาอำนาจนิวเคลียร์จะเดินหน้าไปด้วยกัน
การพูดกลับไปกลับมา :
ถ้าพิจารณาอย่างละเอียด
เมื่อทรัมป์เอ่ยถึงรัสเซียจะมีลักษณะเหมือนหลายประเด็นคือ กลับไปกลับมา (flip-flop)
บางครั้งพูดแง่บวกบางครั้งพูดแง่ลบ
บางครั้งบอกว่าจะทำแล้วเปลี่ยนเป็นยังไม่ทำ
ดังที่ได้เสนอในบทความก่อนว่าในช่วง 100
วันของตำแหน่งประธานาธิบดี ลักษณะหนึ่งของ โดนัลด์ ทรัมป์ คือนโยบายต่างประเทศที่เปลี่ยนกลับไปกลับมา
ไม่ตรงกับที่หาเสียง เรื่องนี้อาจตีความว่าเป็นการใช้กลยุทธ์ “คาดเดาไม่ได้” (unpredictable)
ป้องกันไม่ให้ฝ่ายตรงข้ามรู้ล่วงหน้า จะไม่พูดตรงความจริง ดังที่ทรัมป์เคยพูดในช่วงหาเสียงว่าเป็นความลับ
ไม่อาจเปิดเผยความจริง (บางครั้งที่พูดจึงเป็นเท็จ)
ผลจากการที่เป็นเช่นนี้อาจมองว่าทำให้ “สามารถพูดเท็จ” หรือพูดโกหกสาธารณะ
ไม่มีใครคาดเดาได้ว่ากำลังพูดความจริงหรือโกหก ทั้งยังสามารถพูดเดี๋ยวดีเดี๋ยวร้ายตามความเหมาะสม
เช่น เรื่องที่ทรัมป์พูดเป็นนัยโทษรัฐบาลเยอรมันทรยศนาโต พร้อมๆ
กับที่ชื่นชมว่าเป็นพันธมิตรในช่วงเวลาเพียง 2 วัน
ประธานาธิบดีทรัมป์กลายเป็นบุคคลที่สามารถสร้างข่าวเท็จ
(fake news) ในขณะที่มักกล่าวโทษสื่อหรือผู้อื่นว่ากุข่าวเท็จ
ไม่น่าเชื่อถือ มีเจตนามุ่งร้าย หว่านความแตกแยก สร้างความเกลียดชัง
เป็นศัตรูต่ออเมริกา
ทรัมป์อยากคืนสัมพันธ์ปกติกับรัสเซีย
:
หนึ่งสัปดาห์ก่อนหน้าประชุมสุดยอดกับปูติน
ประธานาธิบดีทรัมป์เปรยว่าควรให้รัสเซียอยู่ในที่ประชุม G-7
อีกครั้ง หลังถูกขับออกจากกลุ่มในยุคโอบามาครั้งเหตุการณ์รัสเซียยึดไครเมียเมื่อปี
2014
ทรัมป์แสดงท่าทีอย่างเปิดเผยว่าอยากคืนสัมพันธ์ระดับปกติกับรัสเซีย
แม้ว่าปัจจุบันจะขัดแย้งกันหลายเรื่อง
ในช่วงประชุมนาโต
ทรัมป์กล่าวว่าอียูคือปรปักษ์ (foe) ตัวสำคัญที่สุดของสหรัฐในขณะนี้
รัสเซียเป็นปรปักษ์เช่นกัน จีนเป็นปรปักษ์ทางเศรษฐกิจ แต่นั่นไม่ได้หมายความว่าพวกเขาเลวร้าย
ความหมายคือพวกเขาเป็นคู่แข่ง (competitor) ผมเคารพผู้นำประเทศเหล่านี้
ผมรักประเทศเหล่านี้ แต่ในเรื่องการค้าพวกเขาเอาเปรียบเราและหลายประเทศที่ว่าคือสมาชิกนาโต
อีกทั้งพวกเขาไม่เพิ่มงบกลาโหมอย่างที่ควร
คำว่าปรปักษ์หรือศัตรู
(foe) ตามความหมายของประธานาธิบดีทรัมป์ในที่นี้
ตีความได้ว่าไม่ใช่ศัตรูที่ต้องทำลายล้าง มองในเชิงคู่แข่งการค้าทำนองบริษัทคู่แข่ง
เน้นเรื่องเศรษฐกิจ การค้าการลงทุน
แต่การเอ่ยว่าทั้งอียู
จีนและรัสเซียล้วนเป็นปรปักษ์ทำให้เกิดภาพว่ารัสเซียไม่แตกต่างจากอียู
(พันธมิตรนาโต) เพราะทั้งหมดคือคู่แข่ง เป็นการลดทอนภัยคุกคามจากรัสเซียสวนทางกับที่นักยุทธศาสตร์
นักการเมืองอเมริกันหลายคนเห็นว่ารัสเซียเป็นภัยคุกคามร้ายแรง
ถ้ามองในแง่บวก
การลืมอดีตเริ่มสัมพันธ์ใหม่เป็นแนวทางที่ใช้กัน แต่ต้องลงรายละเอียดว่าจะไปด้วยกันอย่างไร
ในเรื่องใด เพราะมีหลายประเด็นที่สหรัฐกับรัสเซียขัดแย้งชัดเจน เช่น กรณีความมั่นคงของยูเครน
ซีเรีย อิหร่าน เรื่องเยอรมันกับหลายประเทศในอียูซื้อน้ำมันจากรัสเซีย
(ที่ทรัมป์เพิ่งกล่าวหารัฐบาลแมร์เคิลว่าร่วมมือกับศัตรูนาโต) ประเด็นสงครามการค้ากับจีนที่กำลังร้อนแรง
การที่รัสเซียเป็นหุ้นส่วนยุทธศาสตร์สำคัญของจีน ฯลฯ มีคำถามว่ารัฐบาลสหรัฐพร้อมจะให้รัสเซียฟื้นฟูประเทศเต็มที่
บนพื้นฐานที่รัสเซียมีสัมพันธ์ใกล้ชิดกับจีนใช่หรือไม่
เป็นมิตรเพื่อใคร :
ในเชิงยุทธศาสตร์ความมั่นคงระหว่างประเทศ
การเป็นมิตรหรือแม้กระทั่งเพียงลดความเป็นปรปักษ์ ลดการเผชิญหน้า
จะส่งเสริมบรรยากาศสันติภาพโลกได้เป็นอย่างดี ความขัดแย้งในหลายภูมิภาค
หลายประเทศจะลดลง แต่แนวทางนี้สวนทางยุทธศาสตร์ความมั่นคงแห่งชาติของสหรัฐที่มองเรื่อยมาว่ารัสเซียกับจีนเป็นปรปักษ์
เป็นภัยคุกคามร้ายแรง
ดังนั้น
จะเป็นการเปลี่ยนยุทธศาสตร์ครั้งใหญ่หากรัฐบาลทรัมป์เปลี่ยนท่าทีต่อรัสเซีย
เรื่องที่หลายคนกังวลคือทรัมป์ใช้โอกาสนี้เจรจาลับกับปูตินเพื่อผลประโยชน์ส่วนตัว
และไม่มีผู้ใดรู้เพราะเป็นการพูดคุยในที่ลับ มีเพียงล่ามส่วนตัวเท่านั้นที่เข้าร่วม
(แต่ล่ามส่วนตัวของทรัมป์อาจถูกเชิญออกนอกห้องก่อนการหารือจริงๆ)
หากสหรัฐคืนดีกับรัสเซีย
ย่อมเป็นไปได้ว่าจะยุติคดีที่หน่วยงานหลายฝ่ายกำลังเดินหน้าจับผิดรัฐบาลรัสเซียที่แทรกแซงเลือกตั้ง
ช่วยให้ทรัมป์ได้เป็นประธานาธิบดี
การเป็นมิตรย่อมดีกว่าศัตรู คำถามคือเป็นมิตรเพื่อใคร
มีอย่างน้อย 2 บุคคลสำคัญที่พูดต่อสาธารณะว่าประธานาธิบดีทรัมป์
“ขายชาติ” (treasonous) นั่นคืออดีตผู้อำนวยการ CIA จอห์น เบรนนัน (John Brennan) กับแกนนำรีพับลิกัน
พอล ไรอัน
แก้ไขอย่าแก้ตัว นิวเคลียร์อเมริกา :
วันต่อมาหลังการประชุมสุดยอด ประธานาธิบดีทรัมป์ทวิชข้อความว่าบางคนเกลียดความจริงที่ว่าผมกับประธานาธิบดีรัสเซียไปด้วยกันได้ดี
“พวกเขาต้องการทำสงคราม”
ประเด็นการลดจำนวนอาวุธนิวเคลียร์เป็นวิธีหนึ่งที่ใช้ทดสอบความจริงใจของทรัมป์
หากรัฐบาลทรัมป์รักสันติจริง ข้อเสนอที่หลายฝ่ายเอ่ยถึงเสมอมาคือให้ลดจำนวนหัวรบนิวเคลียร์
ปัจจุบันสหรัฐมีนิวเคลียร์เกือบ
6,800 หัวรบ รัสเซีย 7,000 หัวรบ ฝรั่งเศสมีราว 300 หัวรบ
อังกฤษ 225 จีนมีเพียง 270 หัวรบ อินเดียมี
120-130 หัวรบ ปากีสถานมี 130-140 หัวรบ
อิสราเอล 80
ดังที่เคยนำเสนอแล้วว่าในโลกนี้มีเพียง
2 ประเทศเท่านั้นที่มีเป็นพันหัวรบ สามารถทำลายล้างโลกได้หลายรอบ หากสหรัฐกับรัสเซียต่างปรับลดเหลือ
2,000 หัวรบ จำนวนเท่านี้เพียงพอต่อการเป็นมหาอำนาจ ป้องปรามได้ทุกประเทศทั่วโลก การปรับลดจำนวนหัวรบให้เหลือไม่กี่พันจะเป็นข้อพิสูจน์ว่าประธานาธิบดีทรัมป์หวังสันติภาพจริงตามที่พูดหรือไม่
หรือว่าเป็นอีกเรื่องที่ทรัมป์พูดกลับไปกลับมา
เอาแน่เอานอนไม่ได้
กลับไปสู่แนวคำถามเดิม
พูดกลับไปกลับมาเพื่อใคร
นี่คือคำถามที่ควรถาม
สังคมควรหาคำตอบ
22 กรกฎาคม 2018
ชาญชัย คุ้มปัญญา
(ตีพิมพ์ใน
คอลัมน์ “สถานการณ์โลก” ไทยโพสต์ ปีที่
22 ฉบับที่ 7925 วันอาทิตย์ที่ 22 กรกฎาคม พ.ศ.2561)
-------------------------
บทความที่เกี่ยวข้อง :
ตั้งแต่ช่วงหาเสียง
ทรัมป์บอกว่าจะใช้วิธีคาดเดาไม่ได้ ไม่ให้ฝ่ายตรงข้ามรู้ตัว
ผลลัพธ์ที่ออกมาคู่กันคือนโยบายที่เปลี่ยนกลับไปกลับมา กลายเป็นว่าไม่มีใคร
(รวมทั้งพลเมืองอเมริกัน) รู้ว่ารัฐบาลทรัมป์กำลังทำอะไร ผลสุดท้ายเป็นอย่างไร
แต่ทรัมป์ยังคงใช้เทคนิค “ผู้คาดเดาไม่ได้” ต่อไป ถ้าคิดให้ดีในอีกมุมคือทำให้
“สามารถพูดเท็จ” ต่อสาธารณะ ไม่มีใครคาดเดาได้ว่ากำลังพูดความจริงหรือโกหก
เป็นลักษณะเด่นข้อหนึ่งของรัฐบาลประชาธิปไตยอเมริกายุคนี้
โอกาสเกิดสงครามล้างโลกนิวเคลียร์เป็นไปได้น้อยมาก
ที่มีความเป็นไปได้มากขึ้นคือสหรัฐจะเป็นผู้ลงมือใช้ก่อนกับประเทศเล็กๆ
บรรณานุกรม :
1. Analysis: Trump’s ‘America First’ morphs into ‘Me First’.
(2018, July 17). AP. Retrieved
from https://www.apnews.com/a280e308ea004da9b50aa7efdbb826d7/Analysis:-Trump's-'America-First'-morphs-into-'Me-First'
2. As Trump says Putin 'not my enemy', skeptics in U.S. see
danger. (2018, July 13). Reuters. Retrieved from https://www.reuters.com/article/us-usa-russia-summit-critics/as-trump-says-putin-not-my-enemy-skeptics-in-u-s-see-danger-idUSKBN1K2348
3. Democrats urge Trump to cancel Putin summit following
Mueller indictments. (2018, July 13). Los Angeles Times. Retrieved from http://www.latimes.com/politics/la-na-pol-doj-indictment-russian-hacking-20180713-story.html
4. "I think the European Union is a foe," Trump
says ahead of Putin meeting in Helsinki. (2018, July 15). CBS News.
Retrieved from https://www.cbsnews.com/news/donald-trump-interview-cbs-news-european-union-is-a-foe-ahead-of-putin-meeting-in-helsinki-jeff-glor/
5. In reversal, Trump says would work with NATO to defeat
ISIL. (2016, August 17). The Japan News/Reuters. Retrieved from
http://the-japan-news.com/news/article/0003152964
6. President Trump insists widely
panned Vladimir Putin meeting was a success. (2018, July
18). USA Today. Retrieved from https://www.usatoday.com/story/news/politics/2018/07/18/donald-trump-claims-ill-fated-vladimir-putin-meeting-success/794910002/
7. Republicans Scramble to Contain Trump’s Damage, but Path
Is Unclear. (2018, July 17). The
New York Times. Retrieved from https://www.nytimes.com/2018/07/17/us/politics/congress-trump-russia.html
8. Stockholm International
Peace Research Institute. (2017). TRENDS IN WORLD NUCLEAR
FORCES, 2017.
Retrieved from https://www.sipri.org/sites/default/files/2017-06/fs_1707_wnf.pdf
9. Trump back-pedals on Russian meddling remarks after
outcry. (2018, July 18). The Guardian. Retrieved from https://www.theguardian.com/us-news/2018/jul/17/donald-trump-putin-summit-republicans
10. Trump clashes with friends while flirting with foes. (2018,
June 6). Politico. Retrieved https://sputniknews.com/analysis/201806061065145908-eu-russia-cooperation/
11. Trump sides with Putin over US intelligence. (2018, July
16). CNN. Retrieved from https://edition.cnn.com/2018/07/16/politics/donald-trump-putin-helsinki-summit/index.html
12. Trump voices support for U.S. intelligence a day after
fueling bipartisan outrage with Putin comments. (2018,
July 17). USA Today. Retrieved from https://www.usatoday.com/story/news/politics/2018/07/17/trump-addresses-summit-criticism/790354002/
13. Trump, on Eve of Putin Meeting, Calls E.U. a Trade
‘Foe’. (2018, July 15). The New York Times. Retrieved from
https://www.nytimes.com/2018/07/15/world/europe/trump-putin-summit-meeting.html
14. Trump’s surrender to Putin greeted with outrage by
Democrats and Republicans. (2018, July 17). The
Guardian. Retrieved from https://www.theguardian.com/us-news/2018/jul/16/trump-putin-latest-news-updates-republicans-democrat-response-treason
15. U.S. grand jury indicts 12 Russian spies in 2016
election hacking. (2018, July 13). Reuters. Retrieved from https://www.reuters.com/article/us-usa-trump-russia-indictments/u-s-grand-jury-indicts-12-russian-spies-in-2016-election-hacking-idUSKBN1K32DJ
-----------------------------