แบ่งแยกแล้วปกครอง กรณีเคิร์ดซีเรีย
หลักแบ่งแยกแล้วปกครองไม่ใช่ของใหม่ เคิร์ดซีเรียถูกแยกจากรัฐบาลอัสซาดให้มาเป็นพวกสหรัฐเป็นอีกกรณีศึกษา
ประเทศที่ถูกปลุกปั่นว่าคนซีเรียหลากหลายกลุ่มอยู่ร่วมโลกด้วยกันไม่ได้อีกต่อไป
บรรณานุกรม :
หลักแบ่งแยกแล้วปกครอง
(divide and rule หรือ divide and conquer) คือการทำให้ศัตรูอ่อนแอด้วยการบั่นทอนความสามัคคี ให้ต่อสู้กันเอง เพื่อเจ้าของยุทธศาสตร์จะเข้าไปแสวงหาผลประโยชน์อย่างใดอย่างหนึ่ง
เข้าไปปกครองยึดครอง
เป็นกลยุทธ์ที่ใช้เรื่อยมา
ในสมัยอาณานิคมพวกตะวันตกมักใช้แนวทางนี้เพื่อปกครองอาณานิคมที่กว้างใหญ่ไพศาล
มีประชากรมากกว่าทหารที่ส่งไปหลายร้อยหลายพันเท่าตัว
อัสซาดคือตัวแทนของชีอะห์หรือ :
การปกครองของระบอบอัสซาดคืออำนาจนิยมเข้มข้น
ใช้แต่คนใกล้ชิด นานวันเข้าคนใกล้ชิดใช้อำนาจโดยไร้การตรวจสอบ ร่วมกันทุจริตคอร์รัปชัน
คนที่ใกล้ชิดกับพรรคบาธ (Baath Party) คนของรัฐบาลเท่านั้นที่ได้รับประโยชน์
ประชาชนจำนวนไม่น้อยกลายเป็นคนที่ถูกรัฐทอดทิ้ง จนถึงจุดหนึ่งมีเหตุจุดประกาย
ประชาชนเหล่านี้จึงพร้อมใจกันลุกฮือต่อต้านรัฐบาล เกิดอาหรับสปริงซีเรียเมื่อมีนาคม
2011
จากการชุมนุมประท้วงธรรมดากลายเป็นการใช้ความรุนแรง
พร้อมกระแสข่าวความขัดแย้งระหว่างนิกาย เช่น หน่วยลับชีอะห์เข้าสังหารพวกซุนนี เห็นชัดว่าเป็นความพยายามปั่นให้เป็นความขัดแย้งระหว่างซุนนีกับชีอะห์
ประธานาธิบดีบาชาร์ อัลอัสซาด (Bashar al-Assad)
ให้สัมภาษณ์ว่ามีผู้จ่ายเงินให้คนประท้วงและเรียกร้องการปฏิวัติ
ถ้าแนวทางนี้ไม่สำเร็จจะอ้างการเปลี่ยนแปลงเพื่อศาสนา
ทั้งนี้เพราะตระกูลอัสซาดเป็นชีอะห์สำนักคิดอาละวี/อัลละวีย์ (Alawite) ที่แตกแขนงออกจากมุสลิมชีอะห์ แต่การที่ตระกูลอัซาดเป็นชีอะห์อาละวีไม่ได้หมายความว่าพวกเขามีเป้าหมายปฏิวัติอิสลาม
ให้กลายเป็นรัฐชีอะห์หรืออาละวีแต่อย่างไร อุดมการณ์ทางการเมืองคือแนวทางของพรรคบาธ
ต้องการสร้างโลกอาหรับตามแนวทางฝ่ายโลก ไม่คิดสร้างรัฐอิสลามแต่อย่างไร
ชมคลิปสั้น 3 นาที :
เดิมเคิร์ดอยู่ฝ่ายอัสซาด :
ชนชาวเคิร์ด
(Kurds) ในซีเรียเป็นชนกลุ่มน้อยใหญ่ที่สุดที่มิใช่เชื้อสายอาหรับ
ส่วนใหญ่นับถืออิสลามนิกายซุนนี เป็นพลเมืองซีเรียโดยแท้ อาศัยทางตอนเหนือติดกับพรมแดนตุรกี
ในช่วงแห่งความวุ่นวายพวกเคิร์ดที่อยู่ห่างไกลจากเมืองหลวงต้องปกป้องตัวเอง ความเป็นเขตปกครองตนเองจึงเพิ่มขึ้น
ในช่วงนี้รัฐบาลอัสซาดยังประกาศว่าเคิร์ดเป็นพวกเดียวกับตน
กันยายน
2014 ISIS เปิดฉากโจมตีเคิร์ดหนักหน่วง เดือนต่อมารัฐบาลสหรัฐหย่อนอาวุธ
เครื่องกระสุนแก่พวกเคิร์ด พร้อมกับส่งเครื่องบินรบถล่มกองกำลัง ISIS ในแถบนี้อย่างหนัก เป็นช่วงแรกที่รัฐบาลสหรัฐช่วยให้เคิร์ดซีเรีย
ไม่เพียงเท่านั้นกองกำลังเคิร์ดอิรักเดินทางจากประเทศอิรักเข้าโคบานีเพื่อช่วยต้าน
ISIS
เคิร์ดอิรักเป็นพันธมิตรสหรัฐตั้งแต่สมัยสงครามอ่าวเปอร์เซีย
รัฐบาลบุช (George H. W. Bush) ให้ความคุ้มครองแก่ชนกลุ่มนี้เพื่อแยกพวกเขาจากรัฐบาลซัดดัม
เคิร์ดอิรักกับรัฐบาลสหรัฐจึงสัมพันธ์ใกล้ชิด
เคิร์ดอิรักกับเคิร์ดซีเรียเป็นชนเชื้อสายเดียวกัน
แต่ไม่ถือเป็นกลุ่มเดียวกันเพราะต่างมีผู้นำของตนเอง มีแนวทางของตนเอง การที่เคิร์ดอิรักเข้าช่วยเคิร์ดซีเรียน่าจะเป็นเพราะการผลักดันจากรัฐบาลสหรัฐ
ในที่สุดผู้ก่อการร้ายถอนตัว เมืองโคบานีปลอดภัย
จากนั้นมีข่าวว่ารัฐบาลสหรัฐส่งเสบียงอาวุธแก่เคิร์ดต่อเนื่อง กองกำลังเคิร์ดเติบใหญ่
เข้มแข็งขึ้นทุกวัน
กันยายน
2015 สถานการณ์รบในซีเรียถึงจุดเปลี่ยนเมื่อประธานาธิบดีปูตินประกาศโจมตีกลุ่มผู้ก่อการร้าย
ตั้งฐานทัพในซีเรีย ประกาศสนับสนุนรัฐบาลอัสซาดอย่างเต็มที่
ไม่กี่เดือนต่อมา
ISIS อ่อนแรงอย่างชัดเจน กองทัพรัฐบาลอัสซาดเริ่มยึดคืนพื้นที่
เคิร์ดซีเรียอยู่ฝ่ายสหรัฐเต็มตัว :
มีนาคม
2017 สหรัฐส่งนาวิกโยธินหลายร้อยนายพร้อมอาวุธหนักเตรียมโจมตีเมือง Raqqa ในซีเรีย เป็นครั้งแรกที่สหรัฐส่งทหารเข้ารบทางภาคพื้นดินเต็มตัว จะเห็นว่าเมื่อ
IS กำลังพ่ายแพ้ กองทัพอัสซาดเริ่มยึดคืนพื้นที่ สหรัฐรีบส่งหน่วยรบภาคพื้นดินเข้าร่วมรบ
ที่สำคัญคือเคิร์ดซีเรียเป็นกองกำลังหลักที่ร่วมรบกับสหรัฐในขณะนี้
ณ จุดนี้ควรกล่าวได้ว่าเคิร์ดซีเรียอยู่ฝ่ายรัฐบาลสหรัฐแล้ว
แผนแยกเคิร์ดออกจากรัฐบาลอัสซาด :
รัฐบาลสหรัฐอาศัยความปลอดภัยของเคิร์ดซีเรีย
ความต้องการเอกราช เป็นเครื่องมือใช้กองกำลังเคิร์ด People’s Protection
Units (YPG) ปราบปรามผู้ก่อการร้าย ISIS และกลุ่มอื่นๆ
แล้วยึดครองพื้นที่ดังกล่าวให้อยู่ใต้อิทธิพลสหรัฐ วิธีนี้เป็นประโยชน์เพราะไม่ต้องพะวงว่าทหารอเมริกันจะเสียชีวิต
ผู้ไปเสี่ยงเป็นเสี่ยงตายแทนคือกองทัพเคิร์ด ไม่ต้องกังวลว่าจะชาวอเมริกันจะประท้วง
ช่วยประหยัดงบประมาณเพราะการจ้างทหารอเมริกันแพงกว่ามากทั้งค่าแรงกับระบบอาวุธประจำกาย
อาวุธที่ส่งให้ทหารเคิร์ดไม่จำต้องเป็นอาวุธดีที่สุด และไม่ใช่เช่นนั้น
สำหรับเคิร์ดแล้ว
หากไม่ร่วมมืออาจกลายเป็นภัย กลายเป็นเป้าหมายที่จะถูกกำจัด ไม่ว่าจะโดยผู้ก่อการร้ายหรือต่างชาติ
เคิร์ดรู้ดีว่าถูกใช้งานแต่ไม่อาจเลี่ยงได้ จำต้องอยู่ใต้ปีกรัฐบาลอเมริกาไปก่อน
ยอมที่จะให้สูญเสียคนบางส่วนเพื่อรักษาคนที่เหลือ
และนี่คือตรรกะที่ฝ่ายยุทธศาสตร์สหรัฐทราบและอาจเป็นผู้สร้างให้เป็นเช่นนั้น
รัฐบาลสหรัฐรู้ว่าเคิร์ดซีเรียแม้เป็นมุสลิมซุนนี
เป็นพลเมืองซีเรีย แต่ต้องการเป็นเอกราช ไม่ยอมอยู่ใต้อำนาจระบอบอัสซาดหรือพวกอาหรับ
เคยประสบความสำเร็จในการใช้แนวทางนี้แยกเคิร์ดอิรักออกจากรัฐบาลซัดดัม
ฮุสเซนแห่งอิรัก ต่อมากลายเป็นฐานที่มั่นให้สหรัฐตระเตรียมกองกำลังก่อนส่งลงมาบุกโค่นล้มระบอบซัดดัม
นับจากที่เคิร์ดอิรักอยู่ใต้อุ้งปีกสหรัฐ
บรรษัทน้ำมันอเมริกาคือผู้ทำธุรกิจกรายใหญ่กับบ่อน้ำมันของเคิร์ด ได้รับผลประโยชน์เต็มเม็ดเต็มหน่วย
เมื่อ
ISIS รุกรานซีเรีย รัฐบาลโอบามากับทรัมป์ใช้แนวทางนี้กับเคิร์ดซีเรียซ้ำ
เบื้องต้นคือเพื่อความปลอดภัยของเคิร์ด ความหวังว่าจะได้เอกราชหรือปกครองตนเองมากขึ้นกว่าเดิม
อันที่จริงแล้ว
รัฐบาลอัสซาดให้เคิร์ดปกครองตนเองระดับหนึ่งอยู่แล้ว และไม่มีปัญหาต่อกัน
แต่การเข้ามาของ ISIS ทำให้เคิร์ดซีเรียต้องหันมาเป็นพันธมิตรกับรัฐบาลสหรัฐ
ฝากความมั่นคงของตนไว้กับมหาอำนาจ
ถ้ายึดผลประโยชน์เคิร์ดซีเรียเป็นที่ตั้ง
การทำเช่นนี้อาจจะเหมาะสม และจำต้องตัดสินใจเช่นนั้นในยามคับขันที่กองทัพ ISIS อยู่ตรงหน้า
ถ้ามองว่านี่คือแผนจากฝ่ายยุทธศาสตร์สหรัฐ
ต้องพูดว่าเป็นแผนที่แหลมคม สามารถแยกเคิร์ดออกจากรัฐบาลอัสซาด ให้มาอยู่กับตน
และเป็นปรปักษ์กับพวกอาหรับต่อไปด้วย
ถ้ามองโดยยึดซาอุฯ
กับพวก แม้สามารถบั่นทอนรัฐบาลอัสซาด จันทร์เสี้ยวชีอะห์หักกลาง แต่เอื้ออำนวยเคิร์ดแข็งแกร่ง
กินพื้นที่มากขึ้นและมีโอกาสพัฒนาให้เข้มแข็ง ภายใต้การคุ้มครองจากรัฐบาลสหรัฐดังเช่นอิสราเอล
รัฐบาลซาอุฯ กับพวกเหมือนปราบศัตรูได้คนหนึ่ง แต่กลับเป็นเหตุส่งเสริมศัตรูอีกคน
ทั้งหมดนี้ รัฐบาลสหรัฐได้ประโยชน์ทุกด้าน
สามารถคงทหารราบตรงใจกลางตะวันออกกลาง
พื้นที่ซีเรียส่วนหนึ่งกลายเป็นเขตอิทธิพลของสหรัฐ (ไม่ใช่ของผู้ก่อการร้าย
หรือฝ่ายต่อต้านสายกลางซีเรีย) เป็นความสำเร็จอีกครั้งของสหรัฐโดยแท้
เพราะยอมให้แบ่งแยกเองหรือไม่ :
กลยุทธ์แบ่งแยกแล้วปกครองไม่ใช่ของใหม่
ใครๆ ก็อ่านแผนออก แต่ที่สำเร็จเพราะยอมให้แบ่งแยก ด้วยเหตุผลต่างๆ นานา เช่น พวกผู้นำเคิร์ดได้ประโยชน์จึงผลักดันให้ประชาชนสนับสนุน
ยอมเสียประโยชน์อยู่ใต้อำนาจมหาอำนาจเพื่อแลกกับความปลอดภัย
ในภาพกว้าง
ต้องระลึกว่าพวกซุนนีซีเรียบางคนบางกลุ่มสนับสนุน ISIS
มากกว่ารัฐบาลอัสซาด ซีเรียที่อ่อนแอก็เพราะการแบ่งแยกทั้งจากเชื้อสายกับนิกายศาสนา
ไม่ว่าข้อสรุปนี้จะมีน้ำหนักเพียงใด
ภาพที่ปรากฏคือความพยายามปลุกปั่นให้เป็นเช่นนั้น
คนที่ยึดมั่นพหุสังคมเชื่อว่าการที่สังคมประกอบด้วยคนหลายเชื้อชาติ หลายศาสนานิกาย เป็นจุดแข็งของสังคม แม้มีความขัดแย้งบ้างแต่ไม่ใช่เรื่องร้ายแรง มีพวกหัวรุนแรงบ้างแต่เป็นคนส่วนน้อย
คนที่ยึดมั่นพหุสังคมเชื่อว่าการที่สังคมประกอบด้วยคนหลายเชื้อชาติ หลายศาสนานิกาย เป็นจุดแข็งของสังคม แม้มีความขัดแย้งบ้างแต่ไม่ใช่เรื่องร้ายแรง มีพวกหัวรุนแรงบ้างแต่เป็นคนส่วนน้อย
แต่ความเป็นพหุสังคมของซีเรียกลายเป็นเหตุต่างชาติเข้าแทรก
ปลุกปั่นให้แตกแยก จนถึงขั้นถืออาวุธสงครามเข้าห้ำหั่นกัน ด้วยความคิดว่าอยู่ร่วมโลกกันไม่ได้
ไม่เพียงใช้หลักสร้างความแตกแยก
มหาอำนาจใช้แนวคิด “ถ้าไม่เป็นมิตรก็คือศัตรู” ทำให้ฝ่ายที่อ่อนแอต้องยอมอยู่ใต้อิทธิพล
กลายเป็นทหารรับใช้ที่ออกรบแนวหน้า
6
ปีแห่งความขัดแย้ง ชาวซีเรียเสียชีวิตกว่า 500,000 คนแล้ว ผู้ก่อการร้ายเสียชีวิตหลายหมื่น
ส่วนทหารสหรัฐเสียชีวิตไม่กี่นาย ข้อมูลชิ้นเล็กๆ นี้บ่งชี้ความสำเร็จอีกครั้งของหลักแบ่งแยกแล้วปกครองหรือไม่
บางคนอาจโทษรัฐบาลสหรัฐ
แต่นี่คือแนวทางของเขา และควรทบทวนว่าทำไมจึงหลงกล ดังคำพูดที่ว่าตบมือข้างเดียวจะดังได้อย่างไร
โลกที่เราดำรงอยู่เป็นโลกแห่งการตีความ
บางคนตีความว่าสีขาวคือสีแห่งความบริสุทธิ์ สีดำคือความชั่วร้าย บ่อยครั้งที่ต่างคนตีความเป็นคนละอย่าง
แยกแยะความถูกความผิด ความเป็นมิตรเป็นศัตรูแตกต่างกัน ศัตรูของผู้หนึ่งแต่เป็นมิตรของอีกคนหนึ่ง
มนุษย์มักตีความให้คุณค่าแก่สิ่งต่างๆ
เรื่องต่างๆ ไม่เท่ากัน คำถามคือ สิ่งที่ให้คุณค่าเป็นประโยชน์สูงสุด
ยั่งยืนที่สุดหรือไม่
การแบ่งแยกแล้วปกครองพยายามให้ตีความให้คุณค่าในรูปแบบที่สร้างการแบ่งแยก
เกลียดชัง จนอยู่ร่วมโลกกันไม่ได้
4 กุมภาพันธ์ 2018
ชาญชัย คุ้มปัญญา
(ตีพิมพ์ใน
คอลัมน์ “สถานการณ์โลก” ไทยโพสต์ ปีที่
22 ฉบับที่ 7757 วันอาทิตย์ที่ 4 กุมภาพันธ์ พ.ศ.2561)
------------------------
บทความที่เกี่ยวข้อง :
รัฐบาลทรัมป์ประกาศคงกองกำลังภาคพื้นดินในซีเรียด้วยเหตุผลสารพัด
เป้าหมายเบื้องลึกคือยึดครองซีเรีย ควบคุมตะวันออกกลาง จริงหรือที่รัฐบาลซาอุฯ
กับพวกมั่นคงกว่าเดิม
ก่อนหน้านี้รัฐบาลโอบามาไม่เห็นด้วยกับการให้อาวุธประสิทธิภาพสูงแก่ฝ่ายต่อต้านรัฐบาลซีเรีย
ไม่สนับสนุนการจัดตั้งเขตห้ามบิน
ชาวอเมริกันต่อต้านการใช้กำลังทางอากาศโจมตีกองทัพอัสซาด แต่บัดนี้
นโยบายต่อซีเรียเหล่านี้กลับกลายเป็นตรงข้าม รัฐบาลโอบามาอาศัยการต่อต้านการก่อการร้าย
แนบนโยบายซีเรียที่ชาวอเมริกันเคยต่อต้าน เข้าไปอยู่ในส่วนหนึ่งของแผนต่อต้าน IS
ความขัดแย้งที่ยืดเยื้อทอดยาวออกไปเรื่อยๆ
เอื้อให้แต่ละเขตปกครองเข้มแข็ง ได้แก่รัฐบาลอัสซาด รัฐอิสลาม
เขตปกครองเคิร์ดซีเรียและเขตปกครองฝ่ายต่อต้านสายกลางที่กำลังจะเกิดขึ้น ถ้า
IS ประสบผลในการถ่ายทอดอุดมการณ์ของตน ย่อมเชื่อได้ว่าจะมีพวก IS
เพิ่มขึ้นอีกมากกมาย
สถานการณ์ซีเรียอาจลดความรุนแรงชั่วระยะเวลาหนึ่ง แต่เรื่องยังไม่ยุติ
อาจเป็นการรอเวลาเพื่อเปิดฉากรุกรบครั้งใหญ่
1. อรุณ เด่นยิ่งโยชน์. (2559). ภูมิศาสตร์การเมืองโลกมุสลิมกับการตื่นตัวของอิสลาม.
กรุงเทพ: ศูนย์สารสนเทศอิสลาม
มูลนิธิส่งเสริมการศึกษาอิสลามและการพัฒนา.
2. Hinnebusch, Raymond. (2001). Syria: Revolution From
Above. New York: Routledge.
3. Interview Given by President al-Assad to Lebanese
Al-Manar TV. (2013, May 31). SANA. Retrieved from http://sana.sy/eng/21/2013/05/31/485037.htm
4. Lister, Charles R. (2015). The Syrian Jihad: Al-Qaeda,
the Islamic State and the Evolution of an Insurgency. New York: Oxford
University Press.
5. McKay, John P., Hill, Bennett D., Buckler, John.,
Ebrey, Patricia Buckley., & Beck, Roger B. (2009). A History
of World Societies (8th Ed.). USA: Bedford/St. Martin’s.
6. Putin: Russia supports and will support the Syrian
government. (2015, September 15). Pravda.
Retrieved from http://english.pravda.ru/russia/politics/15-09-2015/131969-putin_russia_syria-0/
7. Stokes, Jamie (Editor). (2009). Kurds. In Encyclopedia
of The Peoples of Africa and the Middle East. New York: Infobase Publishing.
8. Tillerson Says U.S. Troops to Stay in Syria Beyond Battle With ISIS. (2018, January 17). The
New York Times. Retrieved from
https://www.nytimes.com/2018/01/17/world/middleeast/tillerson-troops-syria-islamic-state.html
9. Turkey gives Peshmerga forces passage to Kobane. (2014,
October 20). RUDAW. Retrieved from http://rudaw.net/english/kurdistan/20102014
10. US deploys heavily armed Marines to Syria. (2017, March
9). Al Jazeera. Retrieved from http://www.aljazeera.com/news/2017/03/marines-syria-170309014847784.html
11. US drops arms, ammunition to Kurds in Kobani. (2014,
October 20). Gulf News/AFP. Retrieved from http://gulfnews.com/news/region/syria/us-drops-arms-ammunition-to-kurds-in-kobani-1.1401162
12. US plans on deploying additional 1000 troops in Syria.
(2017, March 16). Daily Sabah. Retrieved from
https://www.dailysabah.com/syrian-crisis/2017/03/16/us-plans-on-deploying-additional-1000-troops-in-syria
-----------------------------