สมรภูมิทิกริต ตรรกะของรัฐบาลโอบามา
1 มีนาคม ไฮเดอร์ อัล-อาบาดี (Haider al-Abadi) นายกรัฐมนตรีอิรักเรียกร้องให้กองกำลังซุนนีอิรักที่สนับสนุนกองกำลังรัฐอิสลาม (IS/ISIL/ISIS) ถอนตัวออกจาก IS ประกาศว่ากองกำลังรัฐบาลพร้อมเข้าปราบผู้ก่อการร้ายในเมืองทิกริต (Tikrit) บ้านเกิดของอดีตประธานาธิบดีซัดดัม ฮุสเซน
บทความที่เกี่ยวข้อง :
ทิกริตตกอยู่ในความควบคุมของ
IS ตั้งแต่วันที่ 11 มิถุนายนปีที่แล้ว เมืองนี้เดิมมีประชากรราว
260,000 คน เกือบทั้งหมดเป็นซุนนี ตลอดหลายเดือนที่ผ่านมา กองทัพรัฐบาลสามารถยึดพื้นที่คืนบางจุด
และเคยพยายามยึดทิกริตคืนแต่ล้มเหลวเรื่อยมา สมรภูมิทิกริตจึงสำคัญ วัดขีดความสามารถของฝ่ายรัฐบาล
นักวิเคราะห์บางคนเชื่อว่าจะจะเกิดสงครามนองเลือดในเมือง
เนื่องจากชาวเมืองเป็นพวกซุนนี
วันถัดมากองทัพรัฐบาลอิรักร่วมกับกองกำลังชีอะห์อิรักบุกเมืองทิกริต
เปิดฉากการรบครั้งใหญ่ที่สุดของฝ่ายรัฐบาล แหล่งข่าวระบุว่าฝ่ายรัฐบาลระดมทหารราว
15,000 นาย ร่วมกับกองกำลังชีอะห์อีก 15,000 นายเข้าร่วมรบ พร้อมปืนใหญ่และเครื่องบินรบของกองทัพ
ตรรกะของรัฐบาลโอบามา :
รัฐบาลโอบามาแสดงความกังวลว่าสมรภูมิทิกริตจะดึงอิหร่านเข้ามาเกี่ยวข้อง
ปลุกเร้าความขัดแย้งระหว่างซุนนี-ชีอะห์ Ash Carter รัฐมนตรีกระทรวงกลาโหมสหรัฐชี้ว่าคองเกรสกังวลว่าสมรภูมิทิกริตจะยิ่งเพิ่มความขัดแย้งทางนิกายศาสนา
“การยึดถือนิกาย (Sectarianism) คือต้นเหตุที่นำ (อิรัก)
มาสู่ (สถานการณ์) อย่างที่เป็นอยู่ในปัจจุบัน ดังนั้น ข้าพเจ้าจึงมองด้วยความกังวล”
Martin Dempsey ประธานคณะเสนาธิการทหารผสมสหรัฐ (chairman of the Joint Chiefs of
Staff) ชี้ว่าการมีส่วนร่วมของอิหร่านเป็นเรื่องดีถ้าไม่กระตุ้นให้เกิดความขัดแย้งระหว่างนิกาย
ครั้งนี้ “อิหร่านให้การสนับสนุนมากที่สุด ให้ทั้งปืนใหญ่และอื่นๆ”
“ปัญหาอย่างเดียวคืออาจก่อเกิดปัญหาทางนิกายศาสนา” (sectarianism)
ข้อกังวลของรัฐบาลโอบามาคือ สมรภูมิทิกริตจะเพิ่มความขัดแย้งทางศาสนา
เนื่องจากอิหร่านมีส่วนเกี่ยวข้อง ภายใต้ตรรกะดังกล่าวมีประเด็นวิพากษ์ ดังนี้
ประการแรก
รัฐบาลโอบามาไม่เอ่ยถึงสงครามครูเสด
ถ้ายึดข้อมูลที่ปรากฎดูเหมือนว่ารัฐบาลโอบามาจะกังวลเรื่องความขัดแย้งระหว่างชีอะห์กับซุนนี
แต่ไม่เอ่ยถึงการที่ IS ประกาศสงครามกับสหรัฐและพันธมิตรตั้งแต่ต้นเมื่อสถาปนารัฐอิสลาม
ถือว่าเป็นการทำสงครามครูเสด (Crusade) ต่อต้านพวกนับถือคริสต์โดยเฉพาะพวกชาวตะวันตก
นาย Muhammad
al-Adnani โฆษกของ IS ประกาศให้สมาชิก IS
สังหารพลเรือนตะวันตกด้วยทุกวิถีทาง เป็นการต่อต้าน
“พวกนักรบครูเสด” “ถ้าคุณสามารถสังหารพวกนอกรีตชาวอเมริกันหรือยุโรป
ให้สังหารด้วยวิธีการใดๆ ก็ได้ “จงสังหารพวกนอกรีตไม่ว่าเขาเป็นพลเรือนหรือทหาร
เนื่องจากพวกเขาอยู่ภายใต้กฎเดียวกัน พวกเขาต่างเป็นคนนอกรีต”
แถลงการณ์อีกตอนหนึ่งเอ่ยถึงการต่อสู้อย่างไม่สิ้นสุดว่า “ถ้าพวกเราไม่สามารถบรรลุเป้าหมาย ลูกหลานของเราจะบรรลุเป้าหมาย” ความอีกตอนกล่าวว่า “โอ อเมริกา โอ พันธมิตรของอเมริกา และพวกครูเสด จงรู้ว่าเรื่องนี้อันตรายมากกว่าที่คุณจินตนาการและใหญ่กว่าที่คุณคาดคิด”
แถลงการณ์อีกตอนหนึ่งเอ่ยถึงการต่อสู้อย่างไม่สิ้นสุดว่า “ถ้าพวกเราไม่สามารถบรรลุเป้าหมาย ลูกหลานของเราจะบรรลุเป้าหมาย” ความอีกตอนกล่าวว่า “โอ อเมริกา โอ พันธมิตรของอเมริกา และพวกครูเสด จงรู้ว่าเรื่องนี้อันตรายมากกว่าที่คุณจินตนาการและใหญ่กว่าที่คุณคาดคิด”
แม้ประธานาธิบดีบารัก
โอบามาจะยืนยันหลายครั้งว่า “สหรัฐอเมริกาไม่ได้และไม่เคยทำสงครามกับอิสลาม” การปราบปราม
IS ไม่ใช่สงครามครูเสด แต่พวก IS
ย่อมไม่ฟังคำเหล่านี้
ตลอดหลายเดือนที่ผ่านมาการมุ่งเป้าชาติตะวันตกได้ปรากฏให้เห็นแล้วในหลายประเทศ
ภายใต้กรอบความคิดนี้ ดูเหมือนว่า รัฐบาลโอบามาไม่กลัวว่าการทำสงครามต่อต้าน
IS จะเป็นการนำชาวอเมริกันทั้งประเทศและชาวตะวันตกอื่นๆ
ให้เป็นเป้าผู้ก่อการร้าย กลับเป็นห่วงความขัดแย้งทางศาสนาในอิรักมากกว่า
ล่าสุดเมื่อต้นมีนาคม 2015 กระทรวงกลาโหมสหรัฐจัดให้การปราบปราม IS เป็น 1 ใน 2 ภารกิจที่สำคัญที่สุดในภูมิภาคตะวันออกกลาง เจ้าหน้าที่สหรัฐกว่า
2,600 คนในกำลังทำงานร่วมกับรัฐบาลอิรัก ช่วยฝึกกองกำลังอิรัก ฯลฯ สหรัฐกับพันธมิตรยังคงดำเนินตามยุทธการ
“Operation Inherent Resolve” นับจากเริ่มปฏิบัติการเมื่อเดือนสิงหาคม
2014 กองกำลังสหรัฐสามารถสังหาร IS ได้กว่า 8,500 นาย
ถ้า
IS อยากแก้แค้น ชาวอเมริกันน่าจะเป็นเป้าหมายเลข 1
ประการที่ 2 รัฐบาลโอบามาเคยขอให้อิหร่านส่งทหารเข้าร่วมรบ
เรื่องน่าประหลาดกว่าสงครามครูเสด
คือเมื่อ IS เริ่มบุกยึดพื้นที่อิรักอย่างรวดเร็ว
มีกระแสข่าวว่ารัฐบาลโอบามาเรียกร้องให้อิหร่านส่งทหารเข้าร่วมรบทางภาคพื้นดิน
ส่วนสหรัฐกับพันธมิตรจะทำหน้าที่สนับสนุนทางอากาศ ในขณะนั้นรัฐบาลโอบามาไม่กังวลว่าหากอิหร่านเข้าร่วมรบจะเป็นการชักนำให้เกิดความขัดแย้งครั้งใหญ่ระหว่างนิกายศาสนา
ฝ่ายอิหร่านปฏิเสธทันควัน
นาย Ali Shamkhani เลขาธิการคณะมนตรีความมั่งสูงสุดแห่งชาติ
(Supreme National Security Council)
ปฏิเสธว่าอิหร่านกับสหรัฐอาจร่วมมือกันโจมตี ISIL ยืนยันว่ารัฐบาลอิหร่านจะพิจารณายื่นมือช่วยอิรักก็ต่อเมื่อได้รับการร้องขออย่างเป็นทางการจากรัฐบาลอิรัก
นายพล Hassan
Firouzabadi หัวหน้าเสนาธิการทหารกล่าวทำนองเดียวกันว่า อิหร่านจะไม่มีวันร่วมมือกับสหรัฐสู้กับพวก
ISIL ทั้งยังอ้างว่ารัฐบาลสหรัฐเกี่ยวข้องกับ ISIL
จึงสรุปข้อนี้ได้ว่า
อิหร่านถูกกล่าวว่าอยู่เบื้องหลังสนับสนุนกองกำลังชีอะห์อิรัก เป็นเหตุให้รัฐบาลโอบามากังวลว่าจะเพิ่มความขัดแย้งทางศาสนา
ทั้งๆ
ที่ไม่กี่เดือนก่อนหน้านี้รัฐบาลโอบามาเรียกร้องให้อิหร่านส่งทหารเข้ารบทางภาคพื้นดิน
เป็นอีกตรรกะที่ขัดแย้งกันอย่างชัดเจน
ประการที่
3 ชาวอิรักทุกคนมีหน้าที่ปกป้องประเทศ
ข้อเท็จจริงคือ
พวก IS มุ่งเป้าชีอะห์อยู่แล้วเนื่องจากเป้าหมายของ IS คือสร้างรัฐอิสลามภายใต้แนวทางของตน พยายามเปลี่ยนพวกซุนนีอิรักให้ถือแนวทางนี้
ส่วนชนกลุ่มน้อยอื่นๆ ผู้นับถือศาสนาความเชื่ออื่นๆ ในพื้นที่จะถูกกวาดล้าง
ผู้ไม่หนี ไม่ถูกสังหาร จะถูกใช้ประโยชน์ในฐานะทาส
หน่วยงานของสหประชาชาติ
2 แห่ง คือ UN Assistance Mission for Iraq (UNAMI) กับ Office
of the UN High Commissioner for Human Rights (OHCHR) ได้ร่วมกับสำรวจ ติดตามสถานการณ์อิรักในช่วง 11 กันยายนจนถึง 10 ธันวาคม
2014 พบว่าชนกลุ่มน้อยทางเชื้อชาติและศาสนาที่ตกเป็นเป้ามักถูกสังหาร ลักพาตัว
ข่มขืน ละเมิดทางเพศ บังคับให้เป็นทาส บังคับใช้แรงงานเด็ก ทำลายศาสนสถานทั้งของซุนนี
ชีอะห์ พวกคริสต์ เป้าหมายหลักคือเพื่อทำลาย ขับไล่คนเหล่านี้ออกจากพื้นที่อย่างถาวร
การที่ทหารตำรวจอิรัก
ประชาชนชีอะห์จับอาวุธขึ้นต่อสู้ เรื่องเช่นนี้รัฐบาลโอบามาจะถือว่าพวกเขากำลังปกป้องมาตุภูมิหรือไม่
ดูเหมือนว่ารัฐบาลโอบามาพยายามจะเบี่ยงประเด็นให้ความสำคัญกับเรื่องความขัดแย้งระหว่างนิกายศาสนา
Mueen al-Kadhimy แกนนำคนหนึ่งที่สนับสนุนกองกำลังติดอาวุธชีอะห์กล่าวว่า
“พวกอเมริกันคิดว่าพวกเรากองกำลังติดอาวุธไม่ใช่เจ้าหน้าที่รัฐ
ในขณะที่พวกเรากำลังปกป้องประเทศ ช่วยเหลือรัฐบาลของเรา ...
พวกเราคือประชาชนอิรัก”
ถ้ายึดกรอบความคิดรัฐบาลโอบามา
ชาวชีอะห์อิรักที่พยายามทำหน้าที่พลเมืองเป็นผลเสียมากกว่าผลดี
ก่อนเปิดฉากการรบนายกฯ
อาบาดีเรียกร้องให้กองกำลังซุนนีอิรักที่สนับสนุน IS
ถอนตัวออกจาก IS ประกาศว่าจะให้อภัยแก่พวกซุนนีที่เคยสนับสนุน
IS หากพวกเขา “วางอาวุธและเข้าร่วมกับประชาชน
กองกำลังของรัฐเพื่อช่วยกันปลดปล่อยเมือง”
หากชาวอิรักคนหนึ่งช่วย
IS แม้เป็นชาวอิรักแท้ๆ ย่อมมีโทษเป็นผู้ก่อการร้ายหรือสมคบคิด ไม่ว่าผู้นั้นจะนับถือศาสนานิกายใด
เรื่องทำนองนี้ถูกต้องตามหลักกฎหมาย
ควรทำสงครามหรือควรปล่อยให้ยืดเยื้อออกไป
:
การทำสงครามย่อมมีผู้บาดเจ็บล้มตาย
หากหลีกเลี่ยงสงครามได้ย่อมเป็นเรื่องดี คำถามที่สำคัญกว่าคือ ในกรณีอิรักควรเลี่ยงสงครามเพื่อป้องกันคนบาดเจ็บล้มตายหรือไม่
ในกรณีนี้
หากหลีกเลี่ยงสงครามเท่ากับยอมแพ้ผู้ก่อการร้าย ยอมให้เกิดรัฐอิสลามอย่างถาวร
พวกเขาจะเติบใหญ่ เรื่องเหล่านี้จะเกิดขึ้นต่อไป ได้แก่ การข่มขืนสตรี
สตรีกลายเป็นสินค้าที่วางขายในตลาด เด็กๆ ในพื้นที่ถูกอบรมสั่งสอนกลายเป็นพวกตักฟีรีย์
ความพยายามสถาปนารัฐอิสลามตามแนวทางของ IS จะขยายตัวในพื้นที่อื่นๆ
อีกหลายแห่งทั่วโลก
ประธานาธิบดีโอบามาเคยกล่าวว่า ISIL เป็นภัยคุกคามต่อประชาชนอิรักกับซีเรีย
และต่อภูมิภาคตะวันออกกลาง “หากปล่อยทิ้งไว้
ภัยคุกคามจากผู้ก่อการร้ายเหล่านี้จะเติบใหญ่ขึ้นเหนือกว่าระดับภูมิภาค
และจะคุกคามแม้กระทั่งสหรัฐอเมริกา”
หากปล่อยทิ้งไว้จะมีผู้บาดเจ็บล้มตายอีกมาก
และอีกมากกว่านั้นที่ถูกกดขี่ข่มเหง ปัญหาไม่จบไม่สิ้น
ตลอดหลายเดือนที่ผ่านมา
กองกำลังอากาศที่นำโดยสหรัฐทำได้เพียงบั่นทอนพลังอำนาจ สกัดกั้นไม่ให้กองกำลัง IS รุกคืบ แต่ไม่อาจกวาดล้าง IS อย่างราบคาบ ที่ผ่านมารัฐบาลโอบามาพยามยามชี้ว่าความขัดแย้งในอิรักต้องมุ่งแก้ให้ประเทศมีเอกภาพ
ไม่แบ่งฝักแบ่งฝ่าย แล้วจึงร่วมกันต่อต้าน IS
คำอธิบายลักษณะนี้มีส่วนถูกต้องอยู่บ้าง แต่ต้องผ่านกระบวนการปราบปราม IS
ก่อน ในทางกลับกันหากยิ่งปล่อยให้ IS
อยู่ในอิรักเนิ่นนานเพียงใด จะยิ่งทำให้พวกเขาเติบโต ยากแก่การปราบปราม ยากแก่การสร้างความปรองดอง
เรื่องความขัดแย้งระหว่างซุนนี-ชีอะห์อิรักนั้นเป็นจริงและมีมานานแล้ว ถ้ามองเฉพาะหลังรับมอบประชาธิปไตยจากสหรัฐ
ตลอด 10 ปีที่ผ่านมานับจากรัฐบาลมาลิกีจนถึงรัฐบาลปัจจุบัน พวกซุนนีบางกลุ่มเห็นว่ารัฐบาลที่นายกฯ
เป็นชีอะห์มักกดขี่ข่มเหงพวกตน อดีตรัฐบาลมาลิกีรวบอำนาจ กำจัดคู่แข่งทางการเมือง
พวกซุนนีถูกกล่าวหาว่าเป็นผู้ก่อการร้าย
การทำสงครามปราบปราม
IS อาจเพิ่มความร้าวฉานระหว่างคน 2 กลุ่ม
แต่ดังที่วิเคราะห์ข้างต้นว่าต้องแยกแยะระหว่างการต่อต้าน IS
กับความขัดแย้งระหว่างคน 2 กลุ่มนี้ ประเด็นจึงอยู่ที่ กองกำลังฝ่ายรัฐบาลจะต้องสามารถแยกแยะรู้ว่าตนกำลังทำหน้าที่ปราบ
IS ไม่ใช่พวกซุนนี และทำอย่างไรรัฐบาลจึงจะสามารถสร้างความปรองดองสมานฉันท์ในหมู่ประชาชนของตน
ทั้งหมดนี้ต้องเริ่มด้วยหลักการ
ทัศนคติที่ถูกต้อง ทุกฝ่ายยอมรับเช่นกัน
8 มีนาคม 2015
ชาญชัย คุ้มปัญญา
(ตีพิมพ์ใน คอลัมน์ “สถานการณ์โลก” ไทยโพสต์ ปีที่ 19 ฉบับที่ 6696 วันอาทิตย์ที่ 8 มีนาคม พ.ศ.2558)
-----------------------
นูรี อัลมาลิกี (Nouri Al-Maliki) เป็นนายกรัฐมนตรีคนแรกที่มาจากการเลือกตั้ง หลังกองทัพสหรัฐฯ
ถ่ายโอนอำนาจการปกครองคืนแก่ชาวอิรัก ความไม่พอใจของพวกซุนนี การก่อการของ IS และรัฐบาลโอบามาตัดสินใจยุติสนับสนุนนายกฯ มาลิกี เป็นเหตุผลแรกที่ต้องเปลี่ยนตัวผู้นำประเทศอิรัก
การที่รัฐบาลมาลิกีร่วมมือกับอิหร่านและซีเรียมากขึ้น เกิดภาพของขั้ว “ผู้นำชีอะห์”
เป็นเหตุผลที่ 2
รัฐบาลอิหร่านปัจจุบันต้องการปรับความสัมพันธ์รอบทิศกับประเทศเพื่อนบ้าน
การเปลี่ยนตัวนายกฯ มาลิกี จึงเกี่ยวข้องสัมพันธ์กับเรื่องราวของอิหร่านโดยตรง
ทั้งในส่วนที่อิหร่านเกี่ยวข้องกับการเมืองอิรัก
ความสัมพันธ์ระหว่างอิหร่านกับประเทศเพื่อนบ้านในภูมิภาคตะวันออกกลาง
และความสัมพันธ์ระหว่างอิหร่านกับสหรัฐฯ อาจมีผลต่อการเจรจาเรื่องโครงการนิวเคลียร์อิหร่านที่กำลังเข้มข้นในขณะนี้
ประธานาธิบดีโอบามาชี้ว่าวิธีต่อต้านผู้ก่อการร้าย
IS ที่เหมาะสมที่สุดในขณะนี้คือใช้กำลังทางอากาศ
สนับสนุนพันธมิตรและหุ้นส่วน เพิ่มการสนับสนุนกองกำลังประเทศอื่นๆ
ที่เข้ารบทางภาคพื้นดิน เป็นการแสดงให้โลกเห็นถึงภาวะผู้นำของอเมริกา แต่จนบัดนี้
รัฐบาลโอบามายังไม่ใช้คำว่า “ทำสงครามกับ IS” ในขณะที่ IS
แถลงอย่างชัดเจนให้สมาชิกสังหารชาวตะวันตกทุกประเทศที่เข้าร่วมโจมตี
IS ไม่ว่าบุคคลนั้นจะเป็นทหารหรือพลเรือน ดังนั้น โอกาสที่ IS จะก่อความรุนแรงในประเทศอื่นๆ ย่อมมีตลอดเวลา
1. Barnard, Anne. (2015, March 4).
Iraqi Campaign to Drive ISIS From Tikrit Reveals Tensions With U.S. The New
York Times. Retrieved from
http://www.nytimes.com/2015/03/04/world/middleeast/iraq-drive-against-isis-reveals-tensions-with-us.html?_r=0
2. Claudette Roulo. (2015, March 3). Officials Outline
Policy, Posture in Middle East. U.S. Department of Defense. Retrieved
from http://www.defense.gov/news/newsarticle.aspx?id=128284
3. Iran will mull over helping Iraq fight ISIL if official
request made: SNSC chief. (2014, June 15). Tehran Times. Retrieved from
http://www.tehrantimes.com/politics/116315-iran-will-mull-over-helping-iraq-fight-isil-if-official-request-made-snsc-chief
4. Iran will never cooperate with U.S. in war against ISIL:
top commander. (2014, June 18). Tehran Times. Retrieved from
http://www.tehrantimes.com/politics/116384-iran-will-never-cooperate-with-us-in-against-isil-top-commander
5. Iraq launches offensive to take back Tikrit from ISIL.
(2015, March 2). Al Jazeera. Retrieved from http://www.aljazeera.com/news/2015/03/iraq-launches-offensive-tikrit-isil-150301181442703.html
6. Iraqi army, Shi’ite militias launch attacks north of
Baghdad. (2015, March 2). The Globe and Mail/Reuters. Retrieved from
http://www.theglobeandmail.com/news/world/iraqi-army-shiite-militias-launch-attacks-north-of-baghdad/article23240894/
7. Iraqi PM gives Sunni tribal fighters ultimatum before
Tikrit attack. (2015, March 1). CBCNews/AP. Retrieved from
http://www.cbc.ca/news/world/iraqi-pm-gives-sunni-tribal-fighters-ultimatum-before-tikrit-attack-1.2977777
8. Rasheed, Ahmed., & Evans, Dominic. (2015, March 4).
Iraqi forces try to seal off Islamic State around Tikrit. Reuters.
Retrieved from http://uk.reuters.com/article/2015/03/04/uk-mideast-crisis-iraq-idUKKBN0LZ0Z020150304
9. The White House.
(2014, June 12). Press Briefing by Press Secretary Jay Carney,
6/12/2014. Retrieved from
http://www.whitehouse.gov/the-press-office/2014/06/12/press-briefing-press-secretary-jay-carney-6122014
10. The White House. (2014, September 10). Statement by the
President on ISIL. Retrieved from http://www.whitehouse.gov/the-press-office/2014/09/10/statement-president-isil-1
11. The White House. (2014, September 24). Remarks by
President Obama in Address to the United Nations General Assembly. Retrieved
from http://www.whitehouse.gov/the-press-office/2014/09/24/remarks-president-obama-address-united-nations-general-assembly
12. UN Assistance Mission for Iraq (UNAMI)., & Office of
the UN High Commissioner for Human Rights. (2015, February 23). Report on the
Protection of Civilians in the Armed Conflict in Iraq: 11 Sep to 10 Dec 2014.
Retrieved from
http://www.uniraq.org/index.php?option=com_k2&view=item&id=3316:iraq-un-report-documents-human-rights-violations-of-increasingly-sectarian-nature&Itemid=605&lang=en
13. US general Martin Dempsey says Iranian hand in Iraq could
turn out well. (2015, March 4). The Indian Express/AP. Retrieved
from
http://indianexpress.com/article/world/middle-east-africa/us-general-says-iranian-hand-in-iraq-could-turn-out-well/
14. Wroe, David. (2014, September 22). Islamic State
followers urged to attack Australians by any means possible. The Sydney
Morning Herald. Retrieved from
http://www.smh.com.au/federal-politics/political-news/islamic-state-followers-urged-to-attack-australians-by-any-means-possible-20140922-10kg74.html
---------------------------------