เกาะติดประเด็นร้อน “ความขัดแย้งในประเทศซีเรีย” (7)
สรุปสถานการณ์: (อัพเดท 26 ส.ค. 6.30 น.) เหตุการณ์ใช้อาวุธเคมีเมื่อวันที่
21 สิงหาคมใกล้กรุงดามัสกัส มีผู้เสียชีวิตหลายร้อยราย กลายเป็นประเด็นร้อนของซีเรียในขณะนี้
ประธานาธิบดีบารัก
โอบามากล่าวว่ารัฐบาลอเมริกันให้ความสำคัญอย่างมากกับเหตุข่าวการใช้อาวุธเคมีครั้งล่าสุดใกล้กรุงดามัสกัส
ประเทศซีเรีย สหรัฐฯ อยู่ระหว่างการตรวจสอบยืนยันว่าเหตุการณ์เป็นอย่างไร
พร้อมกับยืนยันว่าสิ่งที่กังวลคือการที่อาวุธเคมีตกอยู่ในมือผู้ก่อการร้าย
รัฐบาลอังกฤษกับฝรั่งเศสต่างเชื่อว่าการใช้อาวุธเคมีครั้งล่าสุดเป็นฝีมือของรัฐบาลอัสซาด
ทั้งรัฐบาลกับฝ่ายต่อต้านรัฐบาลซีเรียต่างกล่าวหาอีกฝ่ายเป็นผู้ใช้อาวุธเคมีครั้งล่าสุดนี้
ชาติมหาอำนาจทั้งสหรัฐฯ
อังกฤษ ฝรั่งเศส แม้กระทั่งรัสเซียเรียกร้องให้เจ้าหน้าที่สหประชาชาติเข้าตรวจสอบทันที
คืบหน้าล่าสุด: (อัพเดท 26 ส.ค. 6.30 น.)
สถานีโทรทัศน์ของทางการซีเรียรายงานข่าวว่า ขณะที่กองกำลังของรัฐบาลกำลังเดินทางมุ่งหน้าฐานที่ตั้งของฝ่ายต่อต้านก็ได้ไปที่จุดเกิดเหตุโดยบังเอิญ
และพบกลุ่มผู้เสียชีวิตดังที่เป็นข่าว ทหารหลายคนได้รับพิษขณะเข้าใกล้ไปที่จุดดังกล่าวเช่นกัน
นาย Omran al-Zoubi รัฐมนตรีกระทรวงข้อมูลข่าวสาร (information
Minister) กล่าวว่า “เราพูดตั้งแต่ตอนแรก
และตอนนี้ของยืนยันอีกครั้งว่ารัฐบาลซีเรียไม่เคยใช้อาวุธเคมีเลยสักครั้ง
ไม่ว่าจะเป็นที่ใดหรือเป็นอาวุธเคมีในรูปแบบใด”
นาย
Badr Jamous โฆษกของกลุ่ม Syrian National Coalition รายงานเหตุการณ์เดียวกันว่ารัฐบาลยิงจรวดใส่จุดที่มีพลเรือนอาศัยหนาแน่น
จรวดบางลูกบรรจุอาวุธเคมี
องค์การแพทย์ไร้พรมแดน (Doctors Without Borders/Médecins Sans Frontières
หรือMSF) รายงานอย่างเป็นทางการว่า ทีมแพทย์ขององค์กรจากโรงพยาบาล
3 แห่งที่กรุงดามัสกัสได้รับผู้ป่วย 3,600 คนที่มีอาการได้รับพิษทางประสาทในเช้าวันพุธ
21 ส.ค. ในจำนวนนี้ 355 เสียชีวิต
อย่างไรก็ตาม นายแพทย์ Bart Janssens ผู้อำนวยของการของ
MSF กล่าวว่า “ยังไม่สามารถสรุปที่มาของอาการเหล่านี้ตามหลักวิทยาศาสตร์
และไม่สามารถสรุปว่าใครเป็นผู้ใช้อาวุธ”
ปัจจุบัน
องค์การแพทย์ไร้พรมแดนมีทีมงานในสังกัดอยู่ในโรงพยาบาล 6 แห่งและศูนย์สุขภาพอีก 4
แห่งในซีเรีย
นาย Chuck Hagel รัฐมนตรีกระทรวงกลาโหมสหรัฐฯ ชี้ว่าหากพบว่าเป็นอาวุธเคมีจริงก็ต้องรีบป้องกันไม่ให้เกิดการใช้อีก
และกล่าวว่าประธานาธิบดีโอบามาสั่งให้กองทัพ “เตรียมพร้อมรับมือทุกสถานการณ์” ขณะนี้เรือพิฆาตอเมริกัน
4 ลำลอยลำอยู่ในทะเลเมดิเตอร์เรเนียนตะวันออก แหล่งข่าวจากสำนักข่าว AP ชี้ว่าเรือลำที่สี่สามารถปล่อยขีปนาวุธพิสัยไกลโจมตีซีเรีย แต่ ณ ขณะนี้ยังไม่มีคำสั่งให้โจมตีซีเรีย
ด้านทำเนียบขาวระบุว่าเมื่อวันเสาร์
(24) ประธานาธิบดีโอบามากับพูดคุยกับนายกรัฐมนตรีเดวิ คาเมรอน เรื่องที่ประชาคมโลกอาจร่วมกันดำเนินการอย่างใดอย่างหนึ่ง
สื่อ Haaretz ของอิสราเอลรายงานอ้างแหล่งข่าวว่า มีโอกาสมากขึ้นที่อเมริกาจะโจมตีซีเรียจากเหตุการใช้อาวุธเคมีครั้งล่าสุด
ล่าสุด สถานีโทรทัศน์ของทางการซีเรียรายงานข่าวว่าทหารพบอาวุธเคมีในอุโมงค์ที่ฝ่ายต่อต้านใช้เป็นที่หลบซ่อนทางตะวันออกของกรุงดามัสกัส มีทั้งหน้ากากกันแก๊สพิษ ขวดบรรจุพลาสติก
ล่าสุด สถานีโทรทัศน์ของทางการซีเรียรายงานข่าวว่าทหารพบอาวุธเคมีในอุโมงค์ที่ฝ่ายต่อต้านใช้เป็นที่หลบซ่อนทางตะวันออกของกรุงดามัสกัส มีทั้งหน้ากากกันแก๊สพิษ ขวดบรรจุพลาสติก
นาย
Omran al-Zoubi รัฐมนตรีกระทรวงข้อมูลข่าวสารอิหร่าน เตือนว่า
“สหรัฐฯ จะได้รับผลร้ายถ้าเข้าแทรกแซงด้วยทหาร ทั่งทั้งภูมิภาคจะปั่นป่วนและลุกเป็นไฟ
ด้านนายพล Massoud Jazayeri รองผู้บัญชาการทหารสูงสุดอิหร่าน
เตือนว่าสหรัฐฯ รู้ว่าหากล่วงล้ำเส้นต้องห้ามของซีเรีย “ทำเนียบขาวจะต้องประสบผลร้ายแน่นอน”
ขณะนี้การป้องกันของซีเรียมาถึงระดับที่เข้มแข็งที่ศัตรูไม่อาจเอาชนะได้
พร้อมกับเตือนว่าหากสหรัฐฯ เข้าแทรกแซงจริงจะทำให้ทั่วทั้งภูมิภาคลุกเป็นไฟ
เจ้าหน้าที่สหประชาชาติจะเข้าตรวจจุดต้องสงสัยในวันจันทร์
(26 ส.ค.) หลังจากที่รัฐบาลซีเรียยินยอมให้เข้าตรวจสอบจุดต้องสงสัยที่ชานกรุงดามัสกัส
สำนักข่าว Reuters อ้างแหล่งข่าวเจ้าหน้าที่สหรัฐฯ
คนหนึ่งว่า มาถึงขั้นนี้ การที่รัฐบาลซีเรียยอมรับการตรวจสอบถือว่าช้าเกินไปแล้ว รัฐบาลอเมริกันค่อนข้างปักใจเชื่อว่ารัฐบาลอัสซาดเป็นฝ่ายที่ต้องรับผิดชอบต่อการใช้อาวุธเคมีครั้งล่าสุด
ประธานาธิบดีโอบามากับนายฟร็องซัว ออล็องด์ ประธานาธิบดีฝรั่งเศสได้หารือแนวทางการจัดการซีเรียโดยผ่านความร่วมมือจากนานาชาติ
อนึ่ง ผลสำรวจของ Reuters/Ipsos ที่รายงานเมื่อวันเสาร์พบว่า
ชาวอเมริกันร้อยละ 60 ไม่เห็นด้วยหากสหรัฐฯ จะเข้าแทรกแซงด้วยกำลังทหาร มีเพียงร้อยละ
9 เท่านั้นที่เห็นสมควร
วิเคราะห์: (อัพเดท 26 ส.ค. 6.30 น.)
ประเด็นวิเคราะห์ที่สำคัญ
1.วันที่
21 สิงหาคม มีการใช้อาวุธเคมีจริง
จากการที่รัฐบาลซีเรียรายงานว่าทหารของตนได้รับพิษเมื่อเข้าไปที่จุดเกิดเหตุ
และรายงานขององค์การแพทย์ไร้พรมแดน ค่อนข้างเชื่อได้ว่าเมื่อวันที่ 21 สิงหาคมเป็นการใช้อาวุธเคมีจริง
และใช้ในปริมาณมากที่สุดเท่าที่เคยรายงานการใช้ในซีเรีย
2.นานาชาติกดดันให้รัฐบาลซีเรียยินยอมให้เข้าตรวจสอบ
ยิ่งข่าวดังกล่าวแพร่ออกไป
และเริ่มเห็นว่าเป็นความจริงมากขึ้น ทำให้รัฐบาลประเทศต่างๆ ไม่อาจอยู่นิ่งเฉย
ไม่ว่าจะด้วยเหตุผลด้านกฎหมายระหว่างประเทศ หรือเหตุผลด้านมนุษยธรรม แม้กระทั่งรัสเซียที่สนับสนุนซีเรียอย่างแข็งขันมาโดยตลอดยังเรียกร้องให้รัฐบาลอัสซาดยินยอมให้เจ้าหน้าที่สหประชาชาติเข้าตรวจสอบ
แรงกดดันทางการเมืองขณะนี้จึงพุ่งเป้าที่รัฐบาลอัสซาด
- ถ้าไม่มีสิ่งใดต้องซ่อน แล้วทำไมจึงไม่เปิดเผยคือคำถามตัวโตๆ
ดังที่เคยวิเคราะห์ไว้ว่า
สื่อหลายสำนักมุ่งนำเสนอ ชี้ว่าฝ่ายรัฐบาลอัสซาดเป็นผู้ใช้อาวุธเคมีด้วยเหตุผลต่างๆ
นานา การออกมาให้ความเห็นของรัฐบาลอังกฤษกับฝรั่งเศส
เป็นแรงเสริมอีกแรงที่ช่วยกันประกาศว่าเป็นฝีมือของรัฐบาลอัสซาด ทั้งๆ
ที่ยังไม่มีการพิสูจน์อย่างเป็นทางการ
3.รัฐบาลโอบามาไม่อาจทนอยู่นิ่งเฉยต่อไป
ที่ผ่านมาและเมื่อไม่นานนี้
ประธานาธิบดีโอบามา กล่าวอย่างชัดถ้อยชัดคำว่า รัฐบาลอเมริกันไม่ต้องการส่งทหารจำนวนมากเข้าแทรกแซง
ที่อเมริกาเป็นห่วงคือการที่อาวุธเคมีจะตกอยู่ในมือของผู้ก่อการร้าย แต่กระแสกดดันทางการเมืองระหว่างประเทศ
ทำให้รัฐบาลโอบามาไม่อาจทนอยู่นิ่งเฉยเช่นกัน ตลอดสองสามวันนี้ทีมงานความมั่นคงมีการประชุมอย่างต่อเนื่อง
4. แรงกดดันทางการเมืองระหว่างประเทศโหมกระหน่ำ
จากท่าทีของรัฐบาลโอบามาที่กระตือรือร้น
รัฐบาลรัสเซียที่เรียกร้องให้รัฐบาลซีเรียยอมรับการตรวจสอบ จนถึงล่าสุดที่รัฐบาลอัสซาดยอมรับการตรวจสอบ
ล้วนชี้ให้เห็นแรงกดดันทางการเมืองระหว่างประเทศอย่างมหาศาล จนทั้งสามรัฐบาลซึ่งมีบทบาทสำคัญต้องตอบสนอง
ไม่อาจทนแรงกดดันดังกล่าว เป็นปรากฎการณ์ทางการเมืองระหว่างประเทศที่หาดูได้ยาก
5.คำถามที่ตามมาคือ
ใครหรือฝ่ายใดเป็นผู้ใช้
คาดการณ์ว่า หากมีการพิสูจน์ว่าเป็นการใช้อาวุธเคมีจริงหรือไม่ เชื่อว่าเหตุการณ์วันที่
21 สิงหาคม จะได้ข้อสรุปว่ามีการใช้จริง
คำถามสำคัญที่ตามมาคือ
ใครหรือฝ่ายใดเป็นผู้ใช้ ตราบใดที่ยังพิสูจน์ไม่ได้ชัดเจนก็ยากที่คณะมนตรีความมั่นคงจะตัดสินใจกระทำอย่างใดอย่างหนึ่งอย่างเด็ดขาด
ในช่วงระหว่างนี้
สถานการณ์ซีเรียจะตึงเครียด เกิดการคาดการณ์ต่างๆ นานา จนถึงขั้นอาจกระทบต่ออิหร่าน
ความมั่นคงของภูมิภาคตะวันออกกลาง
6.กระแสการแทรกแซงซีเรียด้วยกำลังทหาร
สิ่งที่สื่อนำเสนอในขณะนี้ค่อนข้างทำให้ปักใจเชื่อว่ามีการใช้อาวุธเคมี
และรัฐบาลอัสซาดต้องเป็นผู้รับผิดชอบ ทำให้รัฐบาลซีเรียกับอิหร่านที่เป็นพันธมิตรรีบออกโรงเตือนว่าหากสหรัฐฯ
แทรกแซง สหรัฐฯ จะได้รับผลกระทบร้ายแรงตามมา
ในขณะที่รัฐบาลโอบามากำลังหารือกับผู้นำประเทศสำคัญ
เพื่อพิจารณาว่าควรแทรกแซงหรือไม่ แนวทางที่มีโอกาสเป็นไปได้มากคือให้เป็นการที่นานาชาติร่วมมือกันเข้าแทรกแซง
ซึ่งถ้าเป็นเช่นนั้น จะเหมือนกับกรณีของลิเบียเมื่อสองปีก่อน
สถานการณ์ล่าสุด
ณ ขณะนี้ การใช้อาวุธเคมีเมื่อวันที่ 21 สิงหาคม อาจเป็นจุดเปลี่ยนของความขัดแย้งในซีเรียก็เป็นได้
ต้องติดตามสถานการณ์โดยใกล้ชิด
25 สิงหาคม 2013
ชาญชัย คุ้มปัญญา
----------------------
บทวิเคราะห์ที่เกี่ยวข้อง:
(อัพเดท 24 ก.ค. 8.30 น.) กระทรวงกลาโหมสหรัฐฯ
เปิดเผยแผนช่วยเหลือฝ่ายต่อต้านอย่างชัดเจนเป็นครั้งแรก เพื่อให้ฝ่ายบริหาร
สมาชิกสภาครองเกรสใช้ประกอบการตัดสินใจ
แต่ดูเหมือนว่าไม่ช่วยแก้ปัญหาความขัดแย้งในซีเรียแต่อย่างไร
(อัพเดท 23 ส.ค. 20.50 น.)
ข่าวการใช้อาวุธเคมีล่าสุดในซีเรีย มีผู้เสียชีวิตหลายร้อยคน ทำให้หลายประเทศเรียกร้องให้เจ้าหน้าที่สหประชาชาติเข้าตรวจสอบ
ในขณะที่ประธานาธิบดีโอบามากล่าวอย่างชัดเจนว่าสหรัฐฯ
จะไม่แทรกแซงซีเรียด้วยกำลังทหาร
บรรณานุกรม:
1. Finger pointing grows over chemical
weapons use in Syria, CNN, 25 August 2013, http://edition.cnn.com/2013/08/25/world/meast/syria-civil-war/
2. Destroyers moved to eastern Mediterranean; Hagel says US
prepared for 'all contingencies', Fox News, 25 August 2013, http://www.foxnews.com/politics/2013/08/25/us-naval-forces-move-closer-to-syria-hagel-suggests/#ixzz2cyRTrYdm
3. Israel expects U.S. strike on Syria after alleged
chemical arms use, Haaretz, 25 August 2013, http://www.haaretz.com/news/middle-east/1.543359
4. Syria: Thousands Suffering Neurotoxic Symptoms Treated in
Hospitals Supported by MSF, Doctors Without Borders/Médecins Sans Frontières, www.doctorswithoutborders.org/press/release.cfm?id=7029&cat=press-release#sthash.suqS76du.dpuf,
accessed 25 August 2013
5. Syria to allow UN inspect 'chemical weapon' attack site,
BBC, 25 August 2013, http://www.bbc.co.uk/news/world-middle-east-23833912
6. Syria: Cameron and Obama threaten 'serious response',
BBC, 25 August 2013, http://www.bbc.co.uk/news/uk-23830590
7. Iranian Commander Refutes US Defense Secretary’s Remarks
on Syria, FNA, 25 August 2013, http://english.farsnews.com/newstext.aspx?nn=13920603000637
8. Syria lets U.N. inspect gas attack site, Washington says
too late, Reuters, 26 August 2013, http://news.yahoo.com/obama-studies-options-syria-gas-attack-consults-uks-013947792.html
----------