ระบบการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา ตอนที่ 1
การเลือกตั้งประธานาธิบดีอเมริกา คณะบุคคลที่เรียกว่า Electoral College จะเป็นคนเลือก โดยดูจากคะแนนเสียงของประชาชน และสามารถ “เลือกขัดแย้ง” กับเสียงประชาชน Electoral College ทำหน้าที่กลั่นกรองความต้องการของคนอเมริกันอีกชั้น
ตำแหน่งประธานาธิบดีมาจากการเลือกโดย Electors (Electoral College )
ความเข้าใจที่คลาดเคลื่อน
การเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา
ไม่ใช่เรื่องที่เข้าใจได้โดยง่าย กระทั่งคนอเมริกันหลายคนยังเข้าใจผิด ไม่ครบถ้วน เหตุผลส่วนหนึ่งเกิดจากประวัติศาสตร์การเลือกตั้งที่ต้องย้อนยุคตั้งแต่สมัยก่อตั้งประเทศ
รากฐานระบบการเลือกตั้งที่เกิดขึ้นพร้อมกับรัฐธรรมนูญประเทศ
แม้กฎหมายการเลือกตั้งมีการเปลี่ยนแปลงเป็นระยะ
ระบบการเลือกตั้งปัจจุบันเป็นผลจากบริบทของสมัยนั้นซึ่งแตกต่างจากบริบทยุคปัจจุบัน
จนถึงทุกวันนี้ตำแหน่งปธน.กับรองปธน.สหรัฐฯ
ไม่ได้รับเลือกโดยตรงจากคะแนนเสียงของประชาชนชาวอเมริกันโดยตรงอย่างที่หลายคนเข้าใจ
แม้ว่าประชาชนจะกาเครื่องหมายว่าจะเลือกผู้สมัครคนใด
แต่มีค่าเท่ากับเป็นการไปลงคะแนนเพื่อเลือกกลุ่มบุคคลที่เรียกว่า ‘Electors’ (คณะผู้เลือกตั้ง) จากนั้นกลุ่มคนเหล่านี้จึงไปเลือกปธน.กับรองปธน.อีกทอดหนึ่ง
เหตุที่รัฐธรรมนูญบัญญัติเช่นนั้น เพราะขณะเมื่อเริ่มก่อตั้งประเทศ
เริ่มต้นสู่การปกครองตามระบอบประชาธิปไตย
(แม้ไม่สมบูรณ์เต็มร้อยเมื่อเทียบกับยุคปัจจุบัน) กลุ่มผู้ร่างรัฐธรรมนูญกังวลการตัดสินใจของประชาชน
ต้องการป้องกันไม่ให้ประชาชนเลือกด้วยอารมณ์ จึงกำหนดตัวบุคคลหรือที่เรียกว่า ‘Electors’
ที่จะใช้สิทธิเลือกประธานาธิบดีด้วยจิตใจที่สงบเยือกเย็น มีเหตุผล
‘Electors’
จึงทำหน้าที่เป็นตัวกลั่นกรองการลงมติของประชาชนอีกทอดหนึ่ง
และเป็นผู้ออกเสียงเลือกตำแหน่งปธน.กับรองปธน.อย่างแท้จริงตามรัฐธรรมนูญ
คนอเมริกันจะไปลงคะแนนเลือกตั้งในเดือนพฤศจิกายน
ผลการเลือกตั้งนี้จะได้คะแนนที่เรียกว่า popular votes ส่วน
‘Electors’ จะลงไปคะแนนในเดือนธันวาคมหลังทราบผล popular
vote แล้ว ได้คะแนนที่เรียกว่า electoral votes ผู้ที่จะได้รับตำแหน่งปธน.กับรองปธน.จะดูจากคะแนนเสียงข้างมากของ electoral
votes (ยกเว้นบางกรณีซึ่งจะอธิบายต่อไป)
Electors
Electors (คณะผู้เลือกตั้ง) คือ ตัวแทนของพรรคการเมืองที่พรรคคัดสรรมาอย่างดี
สมาชิกนิติบัญญัติของแต่ละรัฐเป็นผู้ตัดสินเลือกในขั้นสุดท้าย และได้รับการแต่งตั้งจากรัฐในปีที่มีการเลือกตั้งปธน.ตามกฎหมายของแต่ละรัฐ
มีฐานะเป็นเจ้าหน้าที่รัฐ เพื่อทำหน้าที่เลือกปธน.กับรองปธน.
แต่ละรัฐจะต้องแต่งตั้งคนเหล่านี้ให้ได้อย่างน้อย
6 วันก่อนการประชุม Electors ในวันที่ 17 ธันวาคมของปีนี้ (2012)
Electors มีจำนวน 538 คนเท่ากับจำนวนของสมาชิกรัฐสภาบวกกับอีก 3 คนของ District
of Columbia ตามรธน.สหรัฐฯ ให้ถือว่า District of Columbia มีฐานะเทียบเท่ารัฐในกระบวนการเลือกตั้ง
สหรัฐฯ
ประกอบด้วย 50 รัฐ มีส.ว.รัฐละ 2 คน เท่ากับมี 100 ส.ว. ส่วน ส.ส.มี 435 คน
เมื่อรวมกับอีก 3 คนของ District of Columbia จึงมีทั้งหมด 538 คน
Electors แต่ละคนจะมี 1 คะแนนเสียง เรียกคะแนนนี้ว่า electoral
votes
กลุ่มคนเหล่านี้บางครั้งเรียกว่า
Electoral College
มีข้อควรรู้คือสัดส่วน
ส.ส.ขึ้นกับจำนวนประชากรในแต่ละรัฐ (เดิมใช้คำว่ามลรัฐ) แต่ไม่ได้เป็นไปในอัตราส่วนเดียวกัน เช่น
ในปี 2004 รัฐแคลิฟอร์เนีย มี 1 electoral votes
ต่อประชากรผู้มีสิทธิออกเสียงทุก 664,700 คน ส่วนรัฐเมน มี 1 electoral votes ต่อประชากรผู้มีสิทธิออกเสียงทุก 329,300
คน รัฐแคลิฟอร์เนียมีทั้งหมด 54 electoral votes ส่วนรัฐเมนมีเพียง 4 electoral votes
ดังนั้น Electors จำนวน 538 คน
หรือคะแนน electoral votes จำนวน 538
คะแนนนี้จะเป็นผู้เลือกและกำหนดว่าใครจะได้ดำรงตำแหน่งปธน.กับรองปธน.ของประเทศสหรัฐฯ
Electors ทั้งหลายจะรวมตัวกันที่รัฐของตน เพื่อลงคะแนนเลือกประธานาธิบดีกับรองประธานาธิบดีในวันจันทร์แรกหลังวันพุธที่สองของเดือนธันวาคม
[คือจะให้ไปลงคะแนนในช่วงกลายเดือน ธ.ค. ปีนี้ (2020)
จะตรงกับวันที่ 15 ธ.ค. หลังประชาชนไปเลือกตั้งในต้นเดือนพฤศจิกายน] การนับคะแนน Electors จะจัดขึ้นในที่ประชุมรัฐสภาในเดือนมกราคม
ผู้สมัครที่ได้คะแนนเกินกึ่งหนึ่งคือ 270 เสียงจะได้รับตำแหน่งปธน. หรือรองปธน.
นั่นคือ
คนอเมริกันจะไปลงคะแนนเลือกตั้งในเดือนพฤศจิกายน ส่วน Electors จะลงไปคะแนนในช่วงกลางเดือนธันวาคมหลังทราบผล popular vote แล้ว
คะแนน electoral votes ที่สื่อนำเสนอทันทีที่สิ้นการเลือกตั้งวันที่ 6 พฤศจิกายนเป็นการคาดการณ์ว่า Electors จะไปลงคะแนนตามผลการเลือกตั้งวันที่ 6 พฤศจิกายน
คะแนน electoral votes ที่สื่อนำเสนอทันทีที่สิ้นการเลือกตั้งวันที่ 6 พฤศจิกายนเป็นการคาดการณ์ว่า Electors จะไปลงคะแนนตามผลการเลือกตั้งวันที่ 6 พฤศจิกายน
กำหนดวันนับคะแนน
electoral votes อย่างเป็นทางการของการเลือกตั้งปีนี้คือวันที่ 6 มกราคม 2013
เป็นวันที่คนทั้งโลกจะทราบผลว่าใครจะเป็นประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกาสมัยต่อไป
24 ตุลาคม 2012
(ปรับปรุง ธันวาคม 2020)
(ปรับปรุง ธันวาคม 2020)
ชาญชัย คุ้มปัญญา