ข้อพิพาทหมู่เกาะเตียวหยู/เซนกากุ จีนส่งคำเตือนอีกรอบ
18 กันยายน 2012
ชาญชัย
คำเตือนจากกรุงปักกิ่งถึงกรุงโตเกียวรอบใหม่เกิดขึ้นหลังรัฐบาลญี่ปุ่นเข้าซื้อเกาะ 3 เกาะของหมู่เกาะเซนกากุหรือที่คนจีนเรียกว่าหมู่เกาะเตียวหยูจากชาวญี่ปุ่นรายหนึ่งที่อ้างถือสิทธิ์ 3 เกาะดังกล่าว
จนถึงวันนี้ทั้งสองประเทศยังไม่มีข้อยุติเหนือข้อพิพาทดังกล่าว
ไม่อาจชี้ชัดว่าใครคือเจ้าของกันแน่
สื่อ
People's Daily กระบอกเสียงของรัฐบาลจีนเสนอข่าวในย่อหน้าแรกว่า
“หลังเสร็จจากขโมยเกาะ ญี่ปุ่นอาจใช้หมู่เกาะเตียวหยูเป็นจุดแบ่งพื้นผิวใต้ทะเลจีนตะวันออก
ประกาศเขตเศรษฐกิจพิเศษ 200 ไมล์ทะเล เพื่ออ้างความเป็นเจ้าของเหนือทรัพยากรน้ำมันและก๊าซธรรมชาติ”
ภายใต้พื้นที่เขตเศรษฐกิจดังกล่าว (People's Daily)
ก่อนหน้านี้ประธานาธิบดีหู
จิ่นเทา ได้เตือนนายกรัฐมนตรีญี่ปุ่นโยชิฮิโกะ โนดะ แล้วว่า “ไม่ว่าญี่ปุ่นจะซื้อหมู่เกาะ
[เตียวหยู] ด้วยวิธีการใดถือว่าไม่ชอบด้วยกฎหมายและเป็นโมฆะ
ประเทศจีนจะต่อต้านถึงที่สุด” (Reuters)
ล่าสุดสื่อ People's Daily พูดทำนองว่าจีนอาจใช้เศรษฐกิจเป็นเครื่องมือตอบโต้
โดยอ้างเหตุผลว่าจีนเป็นตลาดส่งออกรายใหญ่ที่สุดของญี่ปุ่น
ในขณะที่ญี่ปุ่นเป็นตลาดลำดับสามของจีน และญี่ปุ่นเป็นฝ่ายเกินดุลการค้ากับจีน
นักวิเคราะห์จีนจึงเห็นว่าญี่ปุ่นจะเป็นฝ่ายเสียหายมากกว่า
การที่จีนเลือกใช้มาตรการทางเศรษฐกิจเป็นแนวทางที่เป็นรูปธรรม นั่นคือจีนยังไม่คิดจะทำใช้กองทัพทำสงครามรบกับญี่ปุ่นให้บาดเจ็บล้มตาย อันจะก่อให้เกิดผลเสียหายทางเศรษฐกิจอย่างหนักด้วยกันทั้งสองฝ่าย
แต่เลือกวิธีนุ่มนวลกว่านั่นคือใช้เรื่องเศรษฐกิจเป็นตัวบีบ วิธีนี้สามารถปรับระดับให้แรงหรือเบาก็ได้
วิธีการดังกล่าวจะสร้างความปวดเศียรเวียนเกล้าแก่รัฐบาลญี่ปุ่น เพราะนักธุรกิจนักลงทุนญี่ปุ่นคือกลุ่มผู้เสียหายลำดับแรก การเมืองภายในญี่ปุ่นจะเกิดแรงกดดันสองด้านคือจากพวกชาตินิยมชาวญี่ปุ่นกับนักลงทุนที่ต้องแบกรับความเสียหายจากธุรกิจในจีนหรือที่ทำกับจีน
ณ วันนี้ที่รัฐบาลจีนยังไม่ประกาศใช้มาตรการใดๆ ต่อต้านญี่ปุ่น
แต่ผลกระทบต่อเศรษฐกิจญี่ปุ่นได้เกิดขึ้นในระดับหนึ่งแล้ว (แน่นอนว่าจีนก็เสียหายด้วยเช่นกัน) เมื่อชาวจีนนับหมื่นคนทั่วประเทศลุกฮือประท้วง บริษัทญี่ปุ่นหลายถูกบุกทำลาย
ธุรกิจหลายร้อยแห่งตั้งแต่โรงงานผลิตรถยนต์ญี่ปุ่นจนถึงร้านอาหารต้องหยุดกิจการชั่วคราว
(Japan Today)
ความเสียหายทางเศรษฐกิจที่เกิดกับญี่ปุ่นในขณะนี้จึงเป็นเพียงบทนำเท่านั้น
ในอีกมุมหนึ่งที่น่าติดตามคือ
รัฐบาลญี่ปุ่นจะดำเนินการตอบสนองเรื่องนี้อย่างไร
เมื่อต้องเผชิญศึกทั้งในและต่างประเทศ รวมทั้งพวกชาตินิยมญี่ปุ่นอาจตอบโต้ด้วยวิธีการทางใดทางหนึ่ง
ไม่ว่าสถานการณ์ข้างหน้าที่เป็นอย่างไร
จีนคงอยากจะพูดว่านี่เป็นเพียงสัญญาณเตือนจากจีนเท่านั้น
ย้อนกลับไปที่คำเตือนของประธานาธิบดีหู
จิ่นเทา “ไม่ว่าญี่ปุ่นจะซื้อหมู่เกาะ [เตียวหยู] ด้วยวิธีการใดถือว่าไม่ชอบด้วยกฎหมายและเป็นโมฆะ ประเทศจีนจะต่อต้านถึงที่สุด”